"โครงการอบรมผู้นำเผยแพร่ประชาธิปไตยระดับหมู่บ้าน" เป็นโครงการตามนโยบายของสำนักงาน กศน. ให้ กศน. อำเภอ จัดกิจกรรมอบรมผู้นำเผยแพร่ประชาธิปไตยในชุมชน...โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ แกนนำ ผู้นำกลุ่มอาชีพ...ผู้นำกลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่ในหมู่บ้าน....ก่อนหน้านี้เราได้เตรียมการอบรมกันแล้ว...แต่ก็มีหนังสือให้ระงับไว้ก่อน บางที่ได้ติดต่อประสานงานกับ นักการเมือง ทั้งท้องถิ่น และระดับชาติ ที่จะมาพูดคุยเรื่องประชาธิปไตย....
"ประชาธิปไตยระดับหมู่บ้าน" มันคืออะไร?...ทำไมต้องเชิญนักการเมือง...ผมเองก็ยังนึกแปลกใจ...สุดท้ายหนังสือสั่งการให้ดำเนินการจัดอบรมโดยใช้ทีมวิทยากรกระบวนการจาก ศูนย์ประสานงานการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้าฯ ใจชี้นขึ้นเยอะ...เพราะผมไปร่วมกับทีมวิทยากรทีมนี้บ่อยครั้งมากๆ ที่จริงแล้วเราขับเคลื่อนเรื่องนี้มานานแล้ว...แต่คนอื่นเขามองว่าเราไปทำงานเพื่อน...กิจกรรมครั้งนี้คงจะทำให้ใครบางคน...หรือหลายๆคน ตาสว่างขึ้นบ้าง....
เข้าเรื่องดีกว่า....การจัดการอบรมผู้นำเผยแพร่ "ประชาธิปไตยระดับหมู่บ้าน" น่าจะใช้เนื้อหาอะไร....จากประสบการณ์ที่ร่วมทำงานกับศูนย์ประสานงานการเมืองภาคพลเมือง...ผมคิดว่า...ประชาธิปไตยระดับหมู่บ้าน...ต้องไม่ใช่เรื่องของนักการเมือง และต้องไม่ใช่เรื่องการเมืองโดยตรง...หากเป็นการเมืองก็ต้องเป็นการเมืองที่ไม่มีผลประโยชน์...ที่สำคัญต้องเป็นประชาธิปไตยในวิถีการดำเนินชีวิตของคนในชุมชน...
อะไร?...ที่ว่าเป็นประชาธิปไตยในวิถีชีวิต.... อย่างแรก ก็คือ...การเป็นพลเมืองที่ดีและรู้จักบทบาทหน้าที่ของพลเมืองที่ดี....ซึ่งในวิถีชีวิตของชุมชนก็ต้องมีเรื่องของ คุณธรรม จริยธรรม จารีต ขนบธรรมเนียม ประเพณี...ซึ่งเป็นกรอบของการดำเนินวิถีชีวิตของคนในชุมชนสอดแทรกไปด้วยกัน.... อย่างที่สอง ก็คือ...ประชาธิปไตยที่ต้องสร้างในชุมชน....อะไรที่ต้องสร้าง....ก็คนมีวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชน...ประชาธิปไตยก็ต้องเป็นประชาธิปไตยของชุมชนตามที่กล่าวมาแล้ว....มันคืออะไร....
ผมมองไปว่า...ประชาธิปไตยที่คนในชุมชนต้องเรียนรู้มีมากมายหลายเรื่อง....ยกตัวอย่างพอมองเห็นกันเช่น....ประชาธิปไตยในครอบครัว....ประชาธิปไตยในกลุ่มอาชีพ...ประชาธิปไตยในกลุ่มออมทรัพย์....ประชาธิปไตยในกองทุนสวัสดิการ....ประชาธิปไตยในกลุ่มแม่บ้าน....ที่สำคัญที่สุดของประชาธิปไตยในระดับหมู่บ้านผมคิดว่าต้องเป็น "ประชาธิปไตยในแผนชุมชนพึ่งตนเอง" ....ทุกที่ในชุมชนเป็นประชาธิปไตย...เพราะฉะนั้นเนื้อหาที่ใช้ในการอบรมต้องเป็นเรื่องของประชาธิปไตยในวิถีการดำเนินชีวิต...ต้องไม่มองเพียงแค่...การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น...การเลือกตั้งระดับประเทศ...แต่ต้องเป็นการเมืองเป็นประชาธิปไตยที่ชาวบ้านสัมผัสได้...และนำไปปฏิบัติได้จริง....
ผมมีโอกาสได้คุยกับ ผศ.สุจารี แก้วคง จาก ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช และ ...ดร.สมหมาย คชนูด จาก มทร.ศรีวิชัย (ทุ่งใหญ่) ซึ่งเป็น ผอ.ศูนย์ประสานงานการเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้าฯ ถึงเรื่องนี้...ก็เข้าใจตรงกัน...เพราะเป็นเรื่องที่เราร่วมทำกันมานานเหมือนที่บอกในตอนต้น... บางที...คน กศน. อาจไม่รู้... คน กศน. ที่บูรณาการการทำงานร่วมกับศูนย์ประสานงานการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้าฯ ของนครศรีธรรมราช มี ครูนงเมืองคอน(อ.จำนง หนูนิล) ครูแต้ว(อ.มนัสชนก จันทิภักดิ์) และก็ผมนี่แหละ.... ขับเคลื่อนกันตั้งแต่ประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้าน....ให้กลุ่มต่างๆในหมู่บ้านเข้ามาจดแจ้ง ทั้งในระดับหมู่บ้าน...ระดับตำบล...นำกลุ่มที่จดแจ้งเข้าประชุมจัดเวทีกระบวนการเลือกตัวแทนระดับตำบล...เข้าประชุมระดับจังหวัด...เลือกตัวแทนระดับจังหวัดเข้าประชุมระดับประเทศ....ซึ่งขับเคลื่อนแบบบูรณาการกับภาคีเครือข่ายชุมชนอินทรีย์ อยู่ดีมีสุข เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช...ซึ่งตอนนี้ได้รวมตัวกันใหม่ใช้ชื่อภาคีใหม่ว่า "ภาคีเครือข่ายพัฒนาศักยภาพชุมชนนครศรีธรรมราช"
เมื่อต้องมีการบูรณาการการทำงาน กศน. ก็ต้องกำหนดต้วชี้วัดของโครงนี้ ว่า อะไรที่ กศน. อยากเห็น....แต่ที่ต้องทำหลังจากเสร็จสิ้นการอบรมก็คือ.... กศน.ตำบล ต้องเป็นหลักในการที่จะให้แกนนำที่ผ่านการอบรมไปเคลื่อนงานในหมู่บ้านจริงๆ เป็นรูปธรรม....จะเป็นประชาธิปไตยเรื่องอะไร ของหมู่บ้านใหน ตำบลใหน..ที่กระบวนการของแต่ละตำบลที่จะดำเนินการ....ผมว่า...เริ่มต้นที่ตำบลละเรื่อง...ก่อนก็ได้...เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้....และเป็นการต่อยอดกิจกรรม...เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยในระดับหมู่บ้านจริงๆ....
เท่าที่คุยกับ ผศ.สุจารี แก้วคง....ท่านบอกว่า ในวันที่ 31 มกราคม 2554 ซึ่งเป็นวันประชุมประจำเดือนของ ผอ. ศูนย์ กศน. อำเภอ และสำนักงาน กศน. จังหวัดจะเชิญท่านเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงและหาข้อตกลงในการจัดกิจกรรมร่วมกัน...ก็ต้องรอดูว่าจะออกมาในรูปใหน....ท่านบอกว่า...เท่าที่ได้รับการประสานงาน...บางอำเภอถามว่า...ค่าบรรยายคิดชั่วโมงละเท่าไหร่....ผมอดยิ้มไม่ได้...เพราะเท่าที่ร่วมงานกันมาเราจะไปทำกันด้วยใจมากกว่า....ท่านบอกว่าท่านอยากทำงานแบบบูรณาการให้เป็นมิติใหม่ในการทำงานมากกว่า....
สวัสดีครับ...อ.ดาธิณี
ครูราญ มอง ปชต.ในวิถีชีวิต วิถีชุมชนขาดลอยไปเลย อย่าลืมลากขบวนท้าย ๆ ให้พ่วงไปให้ได้ หลาย ๆ โบกี้ เหลียวมองข้างหลังบ่อย ๆ หน่อยๆ อย่าให้หลุดขบวนไปได้...ให้กำลังใจ ร่วมกันลาก ๆ
มุมองของครูราญ ในเรื่องประชาธิปไตยมันเป็นทฤษฎีซึ่งเป็นความจริงที่ชาวบ้านไม่ได้สัมผัส จริงๆแล้ววิถีชีวิตของประชาชนได้รับการดูแลแบบประชานิยมจากนักการเมือง ทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศแยกนักการเมืองออกจากประชาชนไม่ได้
จากคนในระบบ
เรียน...คนในระบบ
ขอบคุณครับคุณครู.....ดาธิณี
ชัดเจน ใช่ได้ เดินหน้าต่อไปครับ
สวัสดีครับ...คุณครูหยุย