แต่สำหรับครูแล้วเครื่องเตือนใจของครูไม่ไช่รางวัลที่ได้รับ แต่
รางวัลควรเป็นเพียง encourage ระดับปฐมภูมิ ประยุกต์ตามทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคของพาฟลอฟ (Pavlov)
สำหรับคนเป็นครู รางวัลไม่ควรเป็นเครื่องเตือนใจใดๆ เพราะ เครื่องเตือนใจของครู คือความเป็นครู ไม่ต้องมีรางวัลให้ หรือไม่ได้รับรางวัล ครูก็ต้องสามารถคิดทำ สร้างสรรค์ สิ่งต่าง ๆ เพื่อเด็กได้ ความเป็นคนดี มีคุณธรรมของครูจะเป็นตัวโน้มน้าวให้เด็กเรียนรู้และรับรู้ได้จากพฤติกรรมการแสดงออกของครู
รางวัลของครูมีอยู่แล้วตลอดเวลา นั่นคือเมื่อลูกศิษย์ของครูการประสบความสำเร็จในด้านการศึกษา ในชีวิตครอบครัว ในหน้าที่การงาน และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามสู่สังคม การได้รับรู้ได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นรางวัลชีวิตแท้จริงของ “ครู”
ครูไทยมากมายที่ก้มหน้าก้มตาสอนๆ ด้วยความรักเด็ก เอาใจใส่เด็กจนแทบ ไม่มีเวลาทำอาจารย์ในระดับใดๆ และก็ไม่มีเงินมากพอที่จะมาส่งเสริมความก้าวหน้าใดๆ ไม่มีผลงานเชิงประจักษ์ที่ส่งไปประเมินด้วยเครื่องกรองหลากมาตรฐาน ปิดทองง่วนๆอยู่หลังพระ แต่ไม่ได้รับรางวัลอันถือว่าไว้ประดับเกียรติ (เอาไว้ยึดถือ) แต่เชื่อว่าหากท่านเหล่านั้นเป็นครู ที่แท้ รู้ค่าตัวตนความเป็นครู แม้ไม่ได้เป็นครูดีเด่น ดีจริง ดีแท้ ก็คงไม่ท้อแท้หรือเสียกำลังใจ รางวัลของครู หรือ ความเป็นครูไม่ได้อยู่ที่โล่ห์ที่รัฐมนตรีหรือว่าใครเป็นผู้ให้ แต่อยู่ที่คำว่า “ครู” ที่เด็กเรียกเราด้วยความเคารพรักต่างหาก
แด่ครู
กระจกเงาเรามีไว้ส่องหน้า
ให้รู้ว่าดีเด่นเป็นไฉน
ครูอยากรู้ตัวครูเป็นอย่างไร
เชิญดูเด็กที่ได้สั่งสอนมา
เด็กนั้นไซร้เปรียบได้ดังกระจก
ไม่ต้องยกขึ้นดูก็รู้ว่า
ครูมีลักษณะล้วนควรบูชา
หรือว่าเลวนักหนาน่าอับอาย
อันกระจกบานนี้มีสมบัติ
ภาพแน่ชัดสิ่งเปื้อนไม่เลือนหาย
แต่ถ้าตัวดีแน่แม้ตนตาย
ภาพยังฉายคนเห็นงามเด่นเอย
ผู้ประพันธ์ มล.ปิ่น มาลากุล
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนี้..ขอชื่นชมและให้กำลังใจในความเป็นครูที่ดีค่ะ..
ดอกเข็มที่หน้าบ้านนำมาบูชาครูทุกท่าน
สวัสดีค่ะน้องmee pole
สวัสดีค่ะ คุณนงนาท
ขอบคุณค่ะ สำหรับดอกเข็มช่องาม meepole โชคดี ที่มีแบบอย่างที่ดีจากครอบครัว และมีครูดีที่มีความเป็นครูแท้จริง
สวัสดีค่ะคุณยาย
ขอบคุณที่แวะมา มีความสุขในทุกวันนะคะ