เศรษฐกิจตราดยังรุ่งหลายสาขา ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ กุ้งขาว ขณะที่การส่งออกเนื้อปูตลาดมะกันหดตัว เจอสองเด้งจากปัญหาบาทแข็ง เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นประธานหอฯตราดชี้ อย่ามองข้ามตลาดใกล้เคียง ทั้งกัมพูชา เวียดนาม สำนักงานคลังจังหวัดตราด รายงานภาวะเศรษฐกิจตราดปี 2553 ว่า การส่งออกค้าชายแดนขยายตัวร้อยละ 16 พืชเกษตรยังขยายตัวดี ผลไม้ ยางพารา ปาล์มน้ำมันกุ้ง ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้ของเกษตรกรสวนยางพาราขยายตัวจากการปรับเพิ่มขึ้นทางด้านราคาจากมูลค่า 3,592.39 ล้านบาท เป็น 4,202.91 ล้านบาท ส่งผลดีต่อยอดการขายรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คนโตตาม ส่วนด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมส่งออกปูทะเล ข้าวโพดได้รับผลกระทบจากพิษเงินบาทแข็งและการเมือง
ขณะที่รายงานของด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด สรุปภาวะการค้าชายแดนปี 2553 ในช่วงปีงบประมาณ (ก.ย.2552 - ต.ค.53) มีมูลค่า 19,602.69 ล้านบาท สูงกว่าปี 2552 ถึงร้อยละ 16.8 ส่งออกมูลค่า 19,545.90 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.79 นำเข้ามูลค่า 56.79 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.62 โดยสินค้าส่งออกสำคัญยังคงเป็นน้ำตาลทราย นม อาหารเสริม ขนม เครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำหวานและรถยนต์ ส่วนสินค้านำเข้า ได้แก่ไม้แปรรูป กากน้ำตาล ปลาทะเล และหวาย
นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ในปี 2554 โอกาสการส่งออกของไทยผ่านจังหวัดตราดจะขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันการขนส่งสินค้าไปพนมเปญ สีหนุวิลล์ และผ่านไปประเทศเวียดนาม จีน สะดวกมากขึ้นนอกจากนี้ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกง มีการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่นโรงงานประกอบรถยนต์ฮุนไดของเกาหลี ที่ชายแดนเกาะกง จะสามารถส่งออกได้ในปี2554 การก่อสร้างเขื่อนพลังงานไฟฟ้าของจีน 2 เขื่อน ที่บ้านตะไต ทำให้มีการพัฒนาเมืองรองรับ มีการใช้แรงงานกว่า 1,000 คนมีการสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยจำนวนมาก เพราะอยู่ใกล้และราคาถูก รวมทั้งการขนส่งทางถนนหมายเลข 48 มีความสะดวกรวดเร็ว "คาดปี 2554 มูลค่าการค้าน่าจะถึง 20,000 ล้านบาท แต่จะขยายตัวไม่มากนักประมาณ 10% เพราะปี 2553 ขยายตัวสูงถึง 16% เนื่องจากปี 2552 มีอัตราการขยายตัวต่ำมาก เพียง 2% รวมทั้งต่างประเทศยังมีปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาค่าเงินบาทแข็งซึ่งต่อไป กัมพูชาไม่ใช่ประเทศที่ไทยจะมองข้ามได้ โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนของจีนเกาหลี ญี่ปุ่น หรือสินค้าที่มาจากเวียดนามมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทย"
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า ปีนี้หอการค้าจังหวัดตราดจะทำงานวิจัยวิธีการค้ากับกัมพูชาให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนเพื่อให้นักลงทุนที่สนใจเข้าไปลงทุนในกัมพูชาได้ศึกษา เพื่อทำการค้า การลงทุนส่วนด้านการท่องเที่ยวนั้นต้องมองประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะหลังวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา กัมพูชาได้ยกเลิกค่าวีซ่าเข้าประเทศ และอยู่ในกัมพูชาได้ 14 วัน
นายสุวิทย์ รอบคอบ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูเนี่ยนรับเบอร์โปรดักส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ราคายางพาราพุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี และคาดว่าราคาน่าจะดีต่อเนื่องเพราะปริมาณการใช้ยางธรรมชาติในอุตสาหกรรมรถยนต์จีนและอินเดียมีสูง ขณะที่ผลผลิตยางในประเทศมีไม่เพียงพอ ประกอบกับผลผลิตยางในภาคใต้ลดลงจากภาวะน้ำท่วมและฝนตก ซึ่งตลาดรับซื้อหลักของไทย คือจีนและอินเดีย มีปริมาณยางจากไทยมากถึง 70-80% ที่เหลือเป็นของเวียดนาม อินโดนีเซีย
นายพิพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการเกษตรยางพารา ปาล์มน้ำมันราคายังคงพุ่งสูงเนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศ ส่วนกุ้งขาวราคาดีเพราะผลผลิตของประเทศเพื่อนบ้านเสียหาย ส่วนสับปะรดกระป๋องและข้าวโพดกระป๋องยอดการสั่งซื้อไม่ลดลง ราคาวัตถุดิบสับปะรดลูกใหญ่ 6 บาท ข้าวโพดกิโลกรัมละ 5-6 บาท ในบางช่วงมีปัญหาวัตถุดิบไม่พียงพอต้องสั่งซื้อจากต่างจังหวัด ซึ่งในภาคเกษตรจะมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากในช่วงฤดูกาลผลไม้ สภาอุตสาหกรรมได้เสนอให้จังหวัดช่วยผ่อนปรนการใช้แรงงานต่างด้าว
นายไพสันฑ์ วงษ์บุญ ผู้จัดการ บริษัทกัลฟ์ โครช คแร็บ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดผู้ผลิตเนื้อปูบรรจุกระป๋องส่งออก เปิดเผยว่าปริมาณการส่งออกเนื้อปูไปตลาดสหรัฐอเมริกา ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จากเดือนละ 40 ตู้คอนเทนเนอร์ กระทั่งมีปริมาณต่ำสุดในปีที่ผ่านมา เหลือเพียงเดือนละ 24 ตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของอเมริกาและค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ไม่มีออร์เดอร์เข้ามา ทุกวันนี้บริษัทจะผลิตเก็บสต๊อกไว้เพียง 4-5 ตู้ ทั้งนี้ ได้หันมาเพิ่มโปรดักต์ปลาแช่แข็งส่งออกด้วย เช่น ปลานิล ปลาทับทิม เพราะจะทำให้ตลาดรับซื้อกว้างขึ้น เนื่องจากเป็นอาหารที่มีราคาถูก ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม2554 นี้ บริษัทจะไปออกบูทที่เมืองบอสตัน
ประชาชาติธุรกิจ
ประจำวันที่ 12 มกราคม 2554
ไม่มีความเห็น