วันนี้ยังคงหยุดเรียนเพราะเด็กไปร่วมจัดงานวันเด็กก่อนวันเด็กจริง ๆ ที่โรงเรียน ซึ่งเป็นที่นิยมปัจจุบันของครูโดยทั่วไปที่จัดวันเด็กในวันศุกร์ วันเสาร์ก็ไม่ต้องเดินทางไปโรงเรียน และอ้างว่าพ่อแม่ผู้ปกครองจะได้นำเด็ก ๆไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย แต่แท้ที่จริงเด็กได้ไปเที่ยวกับผู้ปกครองน้อยมากโดยเฉพาะโรงเรียนนอกเมืองหรือตามชนบท
ตอนที่ผมยังเป็นผู้บริหารโรงเรียนผมจะไม่ให้จัดวันเด็กก่อนวันเด็กคือวันศุกร์ แต่วันศุกร์เป็นวันเตรียมความพร้อมของครูของขวัญรางวัลรายการแสดง เด็ก ๆ ก็เตรียมซ้อมการแสดง พอวันเด็กจริง ๆในวันเสาร์ก็จะงาน ของขวัญก็ไปขอมาให้มากไว้แจกเด็ก ๆ รวมทั้งเด็กที่ผู้ปกครองนำมาถึงแม้ยังไม่เข้าเรียนก็แจกหมด งานก็เลยไม่กร่อย
แต่ปัจจุบันในวันเด็กวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม จะเห็นว่าหายากยิ่งที่จะเห็นโรงเรียนจัดงานวันเด็กซึ่งต่างกับในอดีตมาก ๆ ผมกำลังคิดอยู่ว่า ปี 2555 ผมน่าจะจัดงานวันเด็กขึ้นที่บ้าน เพราะสงสารที่ความสำคัญของเขาลดน้อยถอยลง จากผใหญ่ที่ไม่ให้ความสำคัญในวันนี้
เชิญชวนเด็กๆไปร่วมกิจกรรมมากมายในวันเสาร์ที่ ๘ มค.นี้ที่ :
http://gotoknow.org/blog/nongnarts/418850#2321637
สวัสดีค่ะ
ที่โรงเรียนผมจัดพรุ่งนี้วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๔ ให้เด็กเขาได้แสดงกันเอง เชิญพ่อแม่มาชื่นชม มอบรางวัลให้ลูกตนเอง ใครไม่มาลูกจะบังคับให้มาร่วมงาน ในเมืองเด็กคงขาดโอกาสได้เข้าร่วม
เห็นด้วยกับความคิดของท่าน วันศุกร์ก็เตรียมการ สถานที่ รางวัล หนังสือเชิญ และกำหนดการจัดงาน
เราทำเพื่อเขาในวันเด็ก ครู ผู้ใหญ่ต้องทำให้เขาครับ
สวัสดีค่ะ
จริงค่ะ...เด็กได้ไปเที่ยวกับผู้ปกครองน้อยมากโดยเฉพาะโรงเรียนนอกเมืองหรือตามชนบท
อีกมุมมองหนึ่งเห็นว่า แบบนี้เด็กก็จะไม่เห็นความสำคัญของวันเด็กจริง ๆ ส่วนมากนิยมจัดกันแบบนี้แหละค่ะ
ไม่ว่าวันสำคัญอะไร หากตรงกับวันหยุดก็จะเลื่อนมาจัดวันศุกร์แทน แม้กระทั่งวันสำคัญทางศาสนา
เห็นท่านเปิดสอนเด็ก ๆ น่ารักจัง อยากทำบ้าง แต่เวลานี้ไปช่วยโรงเรียนขนาดเล็กเขาสอน สัปดาห์ละ ๑ วันค่ะ
สวัสดีครับ มวลสมาชิกมักคุ้นทั้ง 4ท่านที่เข้ามาทักทายและแสดงความคิดเห็น พิเศษสำหรับคุณครูคิม ที่บริจาคเวลาสัปดาห์ละ 1 วันไปให้เวลากับเด็ก ๆ ในโรงเรียนนับเป็นกุศลแก่ตัวเองและเด็กจะได้ความรู้จากครูที่มีประสบการณ์
สำหรับการจัดงานวันเด็กถือเป็นปกติในปัจุบันต่างเหตุ ต่างปัจจัย ถือว่ากาลเวลา กาลความคิดมันแปลเปลี่ยนก็แล้วกันครับ
ขอบคุณที่ให้ความเห็นการสอนเด็กที่บ้าน แต่ที่สำคัญคือความกระหายของเด็กและผู้ปกครองที่จะให้มีที่เรียนเริ่มการแพร่หลายที่จะมาสมัคร เมื่อศิษย์ที่มีลูก ๆ อยู่ในวัยเรียนของผมจะแห่กันมาเรียน ถ้าเกิน 30 คน ก็จะต้องแก้ปัญหากันอีกแบบ......ที่สำคัญเด็กมีความสุขครับ