บ้านดิน ต่อด้วยดูนก (ต่อ)
ตอนที่แล้วถึงห้องประชุม ก็มีการแนะนำตัว เล่นเกมส์กันนิดหน่อย เริ่มฟังเรื่องประวัติอาศรมวงศ์สนิท ที่มีสร้อยพระนามของผู้บริจาคที่ดิน แล้วก็เข้าเรื่องของบ้านดิน ที่มีมานานแล้ว
บรรยากาศในห้องประชุม
และสำหรับผู้ที่นำดินมาจากที่ดินที่จะสร้างบ้านดิน ก็ให้นำเอาดินมาใส่แก้ว ประมาณค่อนแก้ว เติมน้ำแล้วคนให้เข้ากัน เติมเกลือเพื่อช่วยให้การตกตะกอนดีขึ้น ขั้นตอนนี้เป็นการตรวจสอบดิน เพื่อดูปริมาณดินเหนียวที่มีอยู่ ควรมีประมาณ 20-50 เปอร์เซนต์
ทดสอบดิน ดูปริมาณดินเหนียว
สำหรับเทคนิควิธีการทำบ้านดินก็มีหลายเทคนิคแต่ที่เรามาเรียนรู้กันเป็นเทคนิคการก่อด้วยอิฐดินดิบ ซึ่งมีข้อดีที่สามารถค่อยๆ ทยอยทำอิฐเก็บไว้แล้วค่อยสร้าง ส่วนข้อเสียคือทำผนังที่มีความโค้งมากๆ ไม่ได้ และต้องมีพื้นที่ในการตากอิฐและเก็บอิฐ
ส่วนผสมมีดิน ทราย แกลบ อัตราส่วนขึ้นกับสภาพดิน ลองทำแล้วทดสอบความแข็งแรงของอิฐก่อน โดยยกอิฐขึ้นสุดแขนแล้วทิ้งลงมาโดยให้มุมใดมุมหนึ่งกระแทกพื้น ถ้าแตกทั้งก้อนใช้ไม่ได้ ถ้าแค่บิ่นหรือหักที่มุมก็ใช้ได้
แล้วเราก็มาย่ำดินกัน และผสมทรายและแกลบ จากนั้นก็นำเอาไม้แบบที่แช่น้ำทิ้งไว้มา เอาดินใส่กดให้แน่น ปาดหน้าให้เรียบ ยกพิมพ์ออกทันที
ชมรม ระดมบาทา
ก็เหนื่อยกันพอสมควร หลังจากนั้นเราก็ไปอบสมุนไพรกัน อย่างสนุกสนาน หัวเราะกันคิกคิก จนคิดว่าในสมุนไพรมีกัญชาอยู่ด้วยหรือปล่าว
กลางคืนก็มีการนำเสนอบ้านดินในฝันที่เราได้วาดกันตอนเช้า และนำเสนอเรื่องของการถ่ายทอดจินตนาการสู่ความจริง ของสถาปนิกเน็ตวาสะ เพื่อให้เห็นถึงการมุ่งมั่นทำตามจินตนาการหรือความฝันของตน
ภาพด้านบนเป็นโมเดลที่ออกแบบไว้ ส่วนภาพล่างเป็นของจริงที่สร้างเสร็จแล้ว
วันนี้แค่นี้ก่อนจ้า ตอนต่อไปค่อยมาหัดก่อบ้าน กับทาสีจ้า
ความเห็น (4)
ว้าว เพิ่งเคยเห็นบ้านดินแบบใหม่ โมเดิร์นมากเลยนะคะ
ช่วงปีแรกๆ ไปปั้นดิน ที่เทพสถิตย์ ยังเป็นแบบเรียบๆ เลย
สุขสันต์วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สุขีกับธรรมชาตินะคะ :)
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอแจมด้วยคน
เพลิดเพลินกับการทำบ้านดินแล้วก็ตามด้วยดูนกตามธรรมชาติ
โรงอาหารของนกตีทอง และนกปรอดหัวโขน
