สศค.ปรับประมาณการจีดีพีปี 53 รอบใหม่ลุ้นขยายตัว 7.8% ขณะที่ปี 54 ยังมั่นใจโตได้ 4.5% เชื่อส่งออกยังแข็งแกร่ง ผลเบิกจ่ายปีงบ 53 เข้าเป้าเกือบ 90% ตลาดหุ้นปิดบวกเล็กน้อยนายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ปรับประมาณการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2553 รอบใหม่เพิ่มเป็น 7.8% จากเดิมที่ 7.5% เนื่องจากการนำเข้าส่งออกและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงราคาสินค้าเกษตรยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ยังเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ เนื่องจากไทยมีการขยายฐานการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน จีน และอินเดีย ทำให้สามารถรองรับความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ปี 2554 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวอยู่ที่ 4.5% ซึ่งเป็นระดับการเจริญเติบโตตามศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาคการนำเข้าและส่งออก การลงทุนที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี ในภาคการส่งออกอาจจะต้องจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ อย่างยุโรปและสหรัฐที่ยังคงเปราะบาง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย รวมถึงทิศทางราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และค่าเงินบาทปี 54 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 29.5 บาท แถมด้วยแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ปีหน้าคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก 1% เป็น 3% ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น ทั้งนี้ คาดว่าทิศทางอัตราเงินเฟ้อในปี 2554 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จากปีนี้ที่ระดับ 3.3%
นายนริศกล่าวอีกว่า ปี 2554 เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดภาวะฟองสบู่แตกในภาคเศรษฐกิจของไทยแน่นอน แม้ว่าไทยจะเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก แต่ปัจจุบันได้มีการขยายฐานการส่งออกไปในเอเชีย อินเดีย จีน และอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแรง ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี "โดยเบื้องต้นคาดว่ามาตรการการลดค่าครองชีพให้ประชาชนรวมถึงนโยบายต่าง ๆ ตามแผนประชาวิวัฒน์ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะประกาศในวันที่ 9 ม.ค. 2554 ก็น่าจะมีผลต่อทิศทางเงินเฟ้อด้วย แต่คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งก่อนจะมีการปรับประมาณการในรอบต่อไป" นายนริศกล่าว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 2553 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.2553 มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 2.018 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89.16% ของวงเงิน 2.264 ล้านล้านบาทโดยแบ่งเป็นงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2553 จำนวน 1.627 ล้านล้านบาทหรือ 92.75% สูงกว่าเป้าหมาย 1.75% และสูงกว่าปีงบประมาณก่อน 3.33%
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 28 ธ.ค.ว่า ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนตลอดทั้งวันโดยปิดการซื้อขายที่ 1,028.33 จุด เพิ่มขึ้น 8.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 17,718.62 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,889.48 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 98.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 141.95 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,130.20 ล้านบาท
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ แต่หุ้นปรับตัวขึ้นได้บ้างจากการที่นักลงทุนเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเพื่อดันราคาปิดให้สูงขึ้นก่อน ปิดงบสิ้นปี นอกจากนี้ก็ยังมีแรงซื้อของนักลงทุน สถาบันในไทย ประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และ RMF ที่เข้ามาไล่ซื้อหุ้นในช่วงปลายปี ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวเพิ่ม
ไทยโพสต์ มติชน ข่าวสด เดลินิวส์ โพสต์ทูเดย์ ไทยรัฐ สยามรัฐ
โลกวันนี้ คม ชัด ลึก บ้านเมือง ASTVผู้จัดการรายวัน ข่าวหุ้น
ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2553
ไม่มีความเห็น