เมื่อตอนเช้านี้เปิดเมลล์อ่าน
เพื่อตอบปัญหาข้อกังขาของเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ส่งมาหาธรรมฐิต
มีอยู่เมลล์หนึ่งถามน่าคิดซึ่งคนทั่วไปก็คงสงสัยแบบเธอเช่นกันถามว่า
..หนูอยากปฏิบัติธรรม เข้าคอร์สนุ่งขาวห่มขาวที่เขาทำกัน
แต่ยังหาโอกาสไม่ได้
เลยไม่ได้ปฏิบัติธรรมซักครั้งเลยค่ะท่านธรรมฐิต.........
...............................................................................................
ธรรมฐิตเลยวิสัชนาแบบพระที่ไม่ได้มีกรอบมาขังการปฏิบัติว่า..
หากเธอคิดว่าการปฏิบัติธรรมที่ว่านั้น
ต้องนุ่งขาวห่มขาว
เดินจงกรมนั่งหลับตา
พุทโธ-ยุบหนอ พองหนอ..ฯลฯ
ในวัดหรือสถานที่ที่จัดเข้าคอร์สปฏิบัติกันแล้ว
การปฏิบัติเพื่อเข้าสูกระบวนธรรม
คงเป็นอะไรที่แปลกแยกจากวิถีชีวิตของมนุษย์มากมายนัก
สิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงรูปแบบหนึ่ง
ของการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงธรรมเท่านั้น
แต่ไม่แน่เพราะบางทีอาจพอกพูนความยึดติดถือมั่นในรูปแบบก็เป็นได้
รูปแบบดังกล่าวไม่ใช่ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะเข้าใจกระบวนธรรมเท่านั้น
แต่คนโดยมากก็คงเข้าใจเยี่ยงนั้นว่า
การปฏิบัติธรรมต้องมีภาพลักษณ์แบบนุ่งขาวห่มขาว
เดินจงกรมนั่งสมาธิดังที่เธอเข้าใจ..
คนที่ทำได้อย่างว่ามาก็คงมีเพียงกำมือเท่านั้น
หากเทียบกับเม็ดทรายในทะแลทราย
แต่นั่นก็เป็นการดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเรียนรู้พอได้แนวได้หลักแล้ว
ก็สามารถก้าวเดินเองได้อย่างปล่อยวาง
ดังนั้นการปฏิบัติธรรมที่แท้นั้นควรนำมาหล่อหลอมให้เข้ากับวิถีชีวิตของเรา
หายใจเมื่อไรการปฏิบัติธรรมก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น
โดยการมีสติกับสิ่งที่ตนกำลังสัมผัสอยู่
อย่างรู้เท่าทันมัน ฝึกฝนทุกเมื่อเชื่อวันทุกทีทุกเวลาที่หายใจเข้าออก
เมื่อใจฟุ้งก็ปล่อยไป สติมีกำลังเมื่อไรก็พาใจกลับมาอยู่กับสิ่งที่สัมผัสอยู่ต่อไป..
ขอเพียงเธอมีสติตระหนักรู้เท่าทันทุกอิริยาบถ
เมื่อนั้นเธอก็เข้าสู่กระบวนการแห่งคำว่าการปฏิบัติธรรมอย่างงดงาม....
ธรรมะสวัสดี
ขณะพาอัตตาท่องเน็ท
ได้ข้อคิดจากภาพ หนึ่งข้อเจ้าค่ะ
http://gotoknow.org/blog/templestory/416653#2307311
นมัสการค่ะ
การใช้สติที่มีทำทุกอย่างในสิ่งที่คนดีเขาทำกัน ก็ถือว่าเราได้ทำดีแล้วใช่ไหมคะ
อ่านบันทึกแล้วเข้าใจแล้วว่า...การปฏิบัติธรรมอยู่ที่ตัวเรานั่นเอง
นมัสการพระคุณเจ้า
มารับธรรมะยามเช้า ส่งท้ายปีเสือดุ ต้อนรับปีกระต่าย
ขอบพระคุณเจ้าค่ะ
นมัสการค่ะ
อนุโนทนาค่ะสำหรับธรรมะดีๆก่อนวันสิ้นปี