เช้าวันที่ ๒๖ พ.ย. ๕๓ ผมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ ที่เรียกว่า กรรมการอิสระ ๑๑ คน ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่โรงแรม โฟร์ ซีซั่น แม่ริม เชียงใหม่ ได้เห็นการประชุมที่ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง แต่ได้สาระการพิจารณาภาพใหญ่ที่สำคัญที่สุดต่อความเข้มแข็งและยั่งยืนขององค์กรอย่างครบถ้วน
ผมได้เรียนรู้วิธีทำหน้าที่บอร์ด ขององค์กร ที่ดีที่สุดที่ผมเคยประสบ และทำให้ผมใฝ่ฝันที่จะสร้างวิธีทำหน้าที่ บอร์ด ในทำนองเดียวกัน ให้แก่สภามหาวิทยาลัย เพราะ บอร์ด ของมหาวิทยาลัยหรือที่เรียกว่าสภามหาวิทยาลัย เต็มไปด้วยกรรมการที่ไม่อิสระ คือเป็นผู้บริหารและตัวแทนบุคลากรครึ่งหนึ่งของสภา เราไม่เคยประชุมแบบที่มีเฉพาะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเท่านั้น เข้าร่วมประชุม เพื่อมองภาพใหญ่ ที่ transcend ข้อมูลหรือมุมมองจากฝ่ายบริหาร และฝ่ายที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
เรื่องใหญ่ที่สุดขององค์กรคือการสร้าง C&C คือ Continuity and Change ขององค์กร และในขณะนี้เรื่องใหญ่ที่สุดของธนาคารไทยพาณิชย์คือการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารระดับสูง (succession plan) ให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่น ซึ่งขณะนี้สองในสามของผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ขึ้นไป เป็นคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในช่วง ๑ - ๒ ปี แสดงว่าฝ่ายบริหารได้เตรียมการเรื่องความต่อเนื่องของผู้นำอย่างจริงจัง
มีการพูดกันเรื่องการสร้างความเป็นทีมของผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะทีมงานที่เข้ามาใหม่ เอาชนะแรงขับดันเพื่อความสำเร็จเฉพาะตนหรือหน่วย (ไซโล) ของตน ไปสู่ความมุ่งมั่นที่ผลสำเร็จในภาพรวมขององค์กร คือลดโรค ไซโล ระหว่าง Business Unit
อีกประเด็นหนึ่งคือการทบทวนภาพใหญ่ของธุรกิจ มองทั้งตลาด คู่แข่ง และตนเอง ทำความเข้าใจ positioning ของตนเอง ตรวจสอบภาพอนาคต ทำความเข้าใจว่าฝ่ายจัดการจะสามารถสร้างการเติบโตได้แค่ไหน อะไรคือปัจจัยหลักสำหรับความยั่งยืนขององค์กร มีการพูดกันเรื่องการไม่ทำธุรกิจที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมของโลก หรือทำร้ายสังคม หรือพูดภาษาเพราะๆ คือไม่มี CSR
การประชุมครั้งนี้มีพลังมาก เพราะท่านนายกกรรมการได้ตกลงกับกรรมการท่านหนึ่งคือคุณชุมพล ณ ลำเลียง ให้เป็นผู้สรุปและนำเสนอภาพรวม และคุณชุมพลทำได้ดีเยี่ยมในเวลาสั้นๆ เสนอภาพทั้ง absolute term และ relative term
กรรมการบอร์ด ที่เป็นกรรมการอิสระ กับกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง (COI – Conflict of Interest) คิดไม่เหมือนกัน เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้น หากมีโอกาสที่นานๆ ครั้ง กรรมการอิสระประชุมดูภาพใหญ่ร่วมกัน จะเป็นประโยชน์มาก
อีกประเด็นหนึ่งที่พูดกัน คือวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ทั้งที่เป็นกรรมการอิสระ และกรรมการจากผู้บริหาร มีการตกลงหลักการเป็นการภายใน เพื่อให้มีการหมุนเวียนวาระของกรรมการ
นอกจากการประชุมกรรมการธนาคารตามปกติ ในช่วงเช้าแล้ว ตอนบ่ายฝ่ายบริหารได้นำเอาแผนธุรกิจใน ๓ ปีข้างหน้า ที่เป็นแผนเชิงยุทธศาสตร์มานำเสนอ ให้คณะกรรมการตื่นตาตื่นใจในความคิดสร้างสรรค์ชนิดที่มีเป้าหมายวัดได้ชัดเจน และกรรมการก็อนุมัติแผนนี้ด้วยความชื่นมื่น
เจ้าของธนาคารไทยพาณิชย์ คือผู้ถือหุ้น น่าจะได้มั่นใจ ว่ากรรมการธนาคารได้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และของสังคมไทย อย่างเอาจริงเอาจัง
วิจารณ์ พานิช
๓๐ พ.ย. ๕๓