วิกฤติกิมจิ(เกาหลี)-ช้าๆได้พร้าเล่มงาม

สำนักข่าว NHK, CNN และสำนัก Stratfor วิเคราะห์เรื่องเกาหลีไว้ตรงกัน คือ ตอนแยกประเทศสงสัยจะมีการวางระเบิดเวลา หรือกับดักไว้ จะได้ทะเลาะกันไปนานๆ หน่อย

.

เรื่องของเรื่อง คือ เกาหลี (รวมเหนือ-ใต้) เป็นประเทศที่มีรูปร่างคล้าย 4 เหลี่ยมปลายบานออกทางด้านบน (ติดกับจีน-รัสเซีย)

.

ตอนแบ่งเกาหลีเป็นเกาหลีเหนือ-ใต้นั้น... มีการลากเส้นน่านน้ำรวมเกาะเยียนเปียง (แถบสีแดงในภาพ) ไว้ด้วย ทำให้เส้นแบ่งน่านน้ำเข้าไปชิดแผ่นดินเกาหลีเหนือ และใกล้เมืองเปียงยาง (เมืองหลวง) ด้วย

.

ทางเกาหลีเหนือท่านว่า เส้นน่านน้ำต้องขยับไปไกลจากแผ่นดินหน่อย, ส่วนเกาหลีใต้ท่านว่า ต้องใกล้ชิดกันหน่อย เนื่องจากเกาะเยือนเปียงเป็นของเกาหลีใต้

.

สำนักข่าว CCTV ของจีนรายงานภาพการซ้อมรบ แสดงให้เห็นว่า ตอนซ้อมรบนั้น... มองจากเกาะ (ของเกาหลีใต้) ไปเห็นชายฝั่ง (เกาหลีเหนือ) ด้วยตาเปล่าได้

.

.

 > Thank [ NHK ]

.

ภาพจาก NHK [ picture from NHK ]

. 

.

ทีนี้ทำไมต้องทะเลาะกัน... เรื่องนี้นักการเมืองทั่วโลกรู้ดีว่า เวลาทะเลาะกับเพื่อนบ้านนั้น... คนในชาติมักจะสามัคคีกัน ทำให้คะแนนเสียงรัฐบาลดีขึ้น

.

ถ้าทะเลาะกันบ่อยๆ อาจทำให้รัฐบาลดูดีขึ้นได้ ทว่า... จะทำให้กลุ่มการเมืองหัวรุนแรง โดยเฉพาะขั้วขวาจัดหรือชาตินิยม-หลงชาติ เติบโต และอาจนำไปสู่ภัยพิบัติจากการทะเลาะกันเองในชาติได้เช่นกัน

.

ถ้ามองประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ทุกๆ ชาติไม่อยากให้เกิดสงครามในช่วงนี้ เพราะอะไร?

.

(1). จีน > มองว่า การมีรัฐบาลเผด็จการทหารเกาหลีเหนือไปเรื่อยๆ ปลอดภัยกว่าการรวมชาติ ซึ่งจะทำให้เกาหลีใต้ (พันธมิตรของสหรัฐฯ) มีพรมแดนติดจีน และอาจหาข่าวในจีนได้ง่าย เช่น ติดตั้งเรดาร์ในที่สูงบริเวณชายแดน ฯลฯ

.

(2). รัสเซีย > มองคล้ายๆ กับจีน คือ ถ้าชะลอการรวมชาติเกาหลีเหนือ-ใต้ไปให้นานหน่อยน่าจะปลอดภัยกับชายแดนที่ติดกับเกาหลีเหนือ

.

(3). สหรัฐฯ  > มองว่า ยิ่งทะเลาะกันนาน... ยิ่งขายอาวุธได้มาก (ชาติอื่นๆ ที่ขายอาวุธก็ใช้วิธีคล้ายๆ กัน คือ หาทางให้เกิดความขัดแย้งมากๆ จะได้ขายดี)

.

ถ้ารีบรบกันตอนนี้... เกาหลีเหนือน่าจะแพ้อย่างช้าภายใน 1 สัปดาห์ จะทะเลาะกันได้ไม่นานเท่าที่ควร สู้ปล่อยให้ขัดแย้ง และคอยเก็บเกี่ยวรายได้จากการขายอาวุธดีกว่า

.

คนเกาหลีนี่วันๆ ก็ทำงานหนัก น่าเห็นใจ ขายสินค้าซัมซุงบ้าง แอลจีบ้าง... กินผักดอง (กิมจิ) อยู่อย่างประหยัด รายได้ก็นำไปเสียภาษี ภาษีส่วนหนึ่งนำไปซื้ออาวุธฯ ชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ไปเรื่อยๆ

.

(4). เกาหลีเหนือ > ถึงแม้จะ "แข็งนอก" ทำเป็นขู่ เช่น เวลาถ่ายทอด TV ก็ทำเสียงแข็ง ตะโกนใส่ไมค์ ฯลฯ ทว่า... "อ่อนใน" มากเหลือเกิน

.

ผู้นำดูจะเป็นมะเร็งตับอ่อน ทหารและผู้ปกครองดูอิ่มหมีพีมัน ฝ่ายผู้ปกครอง (เผด็จการทหาร) ก็อยากจะปกครองไปชั่วฟ้าดินสลาย... ชาวบ้านอดตายไปหลายล้านคนก็ไม่เป็นไร

.

ถ้ารบตอนนี้มีโอกาสโดน 3 รุม 1 คือ เกาหลีใต้คงจะรบร่วมกับสหรัฐฯ และอาจมีญี่ปุ่นช่วยอีกแรง   

.

(5). เกาหลีใต้ > ถึงจะอยากรวมชาติ แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญประมาณการณ์ออกมาว่า จะต้องขึ้นภาษี 2% ติดต่อกัน 60 ปี จึงจะมีเงินพอเลี้ยงคนเกาหลีเหนือหลังรวมชาติแล้ว ทำให้คนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่มองว่า ปล่อยให้เกาหลีเหนือตายซากไปเรื่อยๆ ดีกว่าเกิดสงคราม > [ ต้นทุนการรวมชาติเกาหลี ]

.

ปัญหาใหญ่ของสงครามเกาหลี (ถ้ามี) คือ จะมีคลื่นคนอพยพนับล้านคนไปทางเหนือ ส่วนใหญ่ไปทางจีน ส่วนน้อยไปทางรัสเซีย และอีกส่วนหนึ่งไปทางเกาหลีใต้

.

เกาหลีใต้คงจะมาศึกษาดูงานในไทยแล้วว่า การรับผู้อพยพเป็นแสนเป็นล้านคนนั้นยุ่งยาก วุ่นวายเพียงใด

.

ประวัติศาสตร์สอนเราว่า รัฐบาลส่วนใหญ่ล่มสลายจากการแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง (เศรษฐกิจ) ไม่สำเร็จ

.

เท่าที่ผ่านมา... เกาหลีเหนือใช้วิธีข่มขู่เกาหลีใต้ ขู่แล้วอีกฝ่ายต้องนำข้าวบ้างน้ำมันบ้างไปช่วย, ต่อไปคงจะทำได้ยากขึ้น เนื่องจากไปทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้เสียหน้า เสียคะแนนนิยมไปมาก

.

ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในจีนให้สัมภาษณ์ไว้ดี ท่านบอกว่า "ถ้ามีสงคราม... คนแรกที่เดือดร้อนคือประชาชน คนแรกที่ตายคือประชาชน"

.

สงครามยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือหลังยุคอุตสาหกรรมพบว่า การรบแทบทุกครั้งจะมีพลเรือนบาดเจ็บ และตายมากกว่าทหารเสมอ เนื่องจากเทคโนโลยีในการฆ่าก้าวไปไกลกว่าเทคโนโลยีในการรักษาชีวิต

.

ขอให้เหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไปด้วยดี... ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายเดือดร้อนน้อยที่สุด และขอให้เกาหลีรวมชาติได้โดยมีการสูญเสียน้อยที่สุด 

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ > [ ต้นทุนการรวมชาติเกาหลี ]

.

.

 > [ Twitter ]

ที่ มา                               

• Thank [ NHK ] > ขอแนะนำให้แวะไปชมเว็บไซต์ 'NHK' ซึ่งมีบทเรียนภาษาญี่ปุ่นให้เรียนฟรี
• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 21 ธันวาคม 2553.

[sr]

Thanks นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์

The article combines several issues that point to "warm Asia" for a long time.

In particular, the positions (and intentions) of China, Japan and Russia in the region are being probed by USA.

US needs more (arms?) trades to recover from this double-dipping recession. US may even add more fuel to heat up other conflicts or confrontations.

Effects of global climate change combined with global economy change can form bases for innovative diplomatic games that the world may suffer for the sake of some (individuals).

As for Thailand: we are in the "damn if we do -- damn if we don't" position. If we don't move out of that position we will be burned -- now, during and after any flare-up. But where is a safe position?