บันทึกจากห้องนอนบ้านพักครูโรงเรียนผาผึ้งวิทยาคม 21.20 น. 11 พ.ย. 2553
สวัสดีลูกรักทั้งสองคน
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(9 พ.ย. 2553) ที่ผ่านมาแม่ได้มีโอกาสได้ไปรับเสด็จเจ้าฟ้าหญิงองค์เล็ก-จุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ในนามของสมาชิกใหม่พอ.สว. ซึ่งแม่เคยเล่าให้หนูฟังอยู่ว่า หมอที่สถานีอนามัยผาผึ้งได้ให้โอกาสแม่ได้เข้าร่วมทำงานรับใช้ใต้เบื้องยุคลบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ภาคภูมิใจและเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูลเราเป็นอันมาก วันอังคารที่ผ่านมาแม่ไปกับผอ.สมจิตรและน้าม๋องตั้งแต่แปดโมงครึ่ง ไปถึงโรงเรียนทุ่งฟ้าวิทยาคมประมาณสิบโมงครึ่ง แม่กับผอ.ซึ่งเป็นสมาชิกพอ.สว.ใหม่ก็ได้ไปรายงานตัวและได้รับเหรียญพอ.สว.จากนั้นได้ร่วมซ้อมร้องเพลง “เมืองตากน่ายล” ร่วมกับสมาชิกพอ.สว.ทุกคน ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการซ้อมถ่ายรูปร่วมกับฟ้าหญิงซึ่งมีเหตุการณ์ที่น่าตลกมาก แม่ถึงกับวางแผนที่จะนั่งใกล้กับพระองค์ท่านและอาจารย์หมอชายชล พระสหายคนสนิทหรือแพทย์ประจำพระองค์ แต่กลับผิดคาดเพราะถือคติที่ว่า “ตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด” ก็รอผอ.อยู่จะได้เข้าถ่ายรูปชุดเดียวกัน แต่ที่ไหนได้ต้องเข้าไปเสริมให้ชุดที่สิบเต็มแถวละเจ็ดคนเลยอยู่ไกลสุดเลย แต่ก็เอาล่ะ คนอื่นที่ไม่มีโอกาสอย่างเราก็มีมากมาย เมื่อถึงเวลาที่ท่านเสด็จท่านลงจากเฮลิคอปเตอร์รับฟังรายงานจากนายแพทย์ยุทธ โพธารามิก ฝ่ายวัง ผู้รอต้อนรับ แล้วก็นั่งรถไฟฟ้าต่อมาที่จุดประทับจุดแรกเพื่อรับฟังรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัด นายสามารถ ลอยฟ้า และมอบ โล่ เข็ม ให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์(มอบเงิน)และสมาชิกพอ.สว.ผู้ปฏิบัติงานหลายครั้ง จากนั้นทรงดำเนินเยี่ยมคณะแพทย์พอ.สว.และประชาชนที่มารอรับเสด็จ และจุดประทับที่สองคือในหอประชุมที่สมาชิกพอ.สว.รออยู่ เมื่อท่านประทับที่พระเก้าอี้แล้วรับน้ำหวานจิบไปพลางฟังหมอยุทธรายงานเกี่ยวกับสภาพการปฏิบัติงานนของงหน่วยแพทย์พอ.สว.จังหวัดตาก ต่อด้วยการร้องเพลง “เมืองตากน่ายล” ที่ร้องประสานเสียงโดยสมาชิกพอ.สว.ชาวตากและเพลง “รักกันไว้เถิด” ซึ่งนำโดยฟ้าหญิงฯ จากนั้นเป็นการพูดคุยของพระองค์ท่าน ซึ่งทรงมีอารมณ์ขันด้วยการสอดแทรกมุขในเรื่องที่เล่าแต่ท่านนิ่งมาก เรียกง่ายๆว่า “ตลกหน้าตาย” คล้ายพระเจ้าอยู่หัวเลยทีเดียว ใจความสำคัญที่ท่านทรงตรัสและแม่พอจำได้ก็คือ “…ข้าพเจ้าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะเข้ารับการผ่าตัดธัยรอยด์เมื่อวันที่สี่ที่ผ่านมา พอผ่าเสร็จก็รู้สึกดีใจว่าผ่าครั้งนี้ไม่เจ็บเลยเดี๋ยวก็คงหาย แต่พอหมอตรวจดูก็บอกว่ายังมีความผิดปกติอยู่ต้องขอนัดผ่าอีกครั้งในวันที่แปดข้าพเจ้านี้ใจนิ้วไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ตอนนี้ก็หายดีแล้ว...การได้ช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่ดี ตัวข้าพเจ้าเองได้ออกตามเสด็จเสด็จพ่อตั้งแต่อายุสิบสี่ปีตอนนั้นก็ไปกับหน่วยแพทย์อย่างนี้แหละ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ตอนกลางวันก็ไปกับหน่วยแพทย์ เหนื่อยมาก ตอนกลางคืนก็เรียนหนังสือกับครู ตอนเรียนหนังสือก็หลับไปด้วย เป็นอย่างนี้ตลอด พอเรียบนมหาวิทยาลัยก็เลยชวนครูไปออกหน่วยด้วยตอนกลางวันพอตอนกลางคืนก็กลับมาเรียน ตอนนี้ก็เลยหลับทั้งครูทั้งเด็กเลยไม่ว่ากัน...เรื่องการพูดคนไทยพูดภาษาไทยได้ แต่พูดอังกฤษไม่ได้ก็ช่างหัวมันปะไร ไม่ใช่ภาษาเรา...ข้าพเจ้าดีใจที่ท่านพ่อมอบหมายให้ข้าพเจ้าทำงานนี้ เมื่อสมัยที่ท่านย่ากับท่านป้าทำข้าพเจ้าก็เคยตามเสด็จ ข้าพเจ้ารู้สึกเห็นใจคนป่วยทุกคนเพราะข้าพเจ้าก็เป็นคนป่วยข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะอยู่ทำงานนี้อีกสักร้อยปี พวกท่านก็ต้องอยู่ร้อยปีเป็นเพื่อนข้าพเจ้าห้ามหนีไปไหน ” แม่รู้สึกปลาบปลื้มมากที่ได้เฝ้าพระองค์ท่านและก็คิดว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ก็คงรู้สึกไม่แตกต่างกัน พระองค์ท่านทรงมีพระจริยวัตรที่งดงามยิ่งนักสมเป็นผู้มีบุญญาธิการจริงๆ แม่จ้องมองท่านอย่างไม่ให้คลาดสายตาเลยเพราะคิดว่ามีโอกาสได้เฝ้าท่านน้อยมากถ้าไม่ได้มาในโอกาสนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เฝ้าท่านในโอกาสไหน สังเกตว่าวันนี้พระองค์ท่านใส่เสื้อสีเดียวกับพอ.สว.มีตราติดที่หน้าอกเหมือนของสมาชิกแต่เสื้อพระองค์ท่านจะแขนยาวคลุมศอกนิดหน่อย ท่านใส่กางเกงสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบไนกี้สีขาวข้างขวาผูกเชือกรองเท้าสีแดงและข้างซ้ายผูกเชือกรองเท้าสีขาวตามที่นายแพทย์ยุทธบอกไว้ตั้งแต่เช้า เมื่อท่านมีรับสั่งเสร็จสมาชิกพอ.สว.ตากทั้งเก่าและใหม่ประมาณห้าร้อยกว่าคนก็ได้ถ่ายรูปร่วมกับพระองค์ท่านชุดละสี่สิบสองคนแบ่งเป็นแถวละเจ็ดคนฝั่งละสามแถว ทั้งหมดมี สิบสองชุดถึงแม้ว่าท่านดูจะมีอาการเหนื่อยต้องจิบน้ำหวานบ่อยๆและดู เมื่อยล้าเพราะเห็นบิดตัวมาคุยกับพระสหายคนสนิทช่วงเปลี่ยนชุดคณะถ่ายรูปท่าก็ยังอดทนนั่งแย้มสรวลเพื่อถ่ายรูปกับชาวพอ.สว. เมื่อถ่ายรูปครบทุกชุดท่านก็เข้าห้องสุขาซึ่งเป็นรถเคลื่อนที่ของสำนักโยธาธิการและการออกแบบผังเมืองที่นำมาจอดไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ ซึ่งท่านเข้าไปพักประมาณสิบนาที อาจารย์หมอชายชลก็ไปรับท่านมานั่งรถไฟฟ้าไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางกลับ ประชาชนทุกคนก็เริ่มทยอยกลับบ้าน ซึ่งความประทับใจในการเฝ้ารับเสด็จครั้งนี้คงจะได้ฝังใจไปอีกนาน แม่อยากให้หนูไปด้วยเหลือเกิน แต่คงไม่เป็นไรเพราะหนูยังมีโอกาสรับเสด็จอีกหลายครั้ง อย่างน้อยก็น่าจะเป็นวันรับปริญญาของลูกๆเอง
รักลูกๆมากนะจ๊ะ
แม่นุช
22.40 น.
บันทึกแม้จะยาวไปหน่อย ตัวเล็กไปนิด แต่ก็น่าอ่านครับ
ได้รับโอกาสให้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อนนุชและผอ.แม้จะไม่ได้เข้าเฝ้า เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพอ.สว.แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสได้รับเสด็จเชื้อพระวงศ์ทุกท่าน ก็รู้สึกขนลุก มันบรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าเรายังพอมีบุญ มีโอกาสซึ่งหลายคนไม่มี และความรู้สึกนี้ก็มีมาแต่ครั้งยังอยู่นราธิวาส ...ซึ่งมีโอกาสหลายครั้งในการเข้าเฝ้ารับเสด็จ ...เข้าใจเพื่อนรัก ฉันเข้าใจเธอ เราผู้เป็นข้าของพระราชาเหมือนกัน