ภาษาเมืองล้านนาวันละคำตอน "ข่วง"


ข่วงคือบริเวณที่ผู้คนใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

ผู้คนที่ไปแอ่วในล้านนาหรืออ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองล้านนามักจะได้ยินคำว่า "ข่วง"  อยู่เสมอ  เพราะข่วงเป็นสถานที่ใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆทั้งเล็ก ใหญ่ตามลักษณะของกิจกรรมที่ผู้คนทำขึ้น

เมื่อเราเดินเข้าไปในบริเวณบ้านของคนล้านนา  แน่นอนเราต้องเดินผ่านข่วงเข้าสู่ตัวเรือน  เพราะข่วงต้องอยู่หน้าบันไดตัวบ้าน  ลักษณะสำคัญของข่วงบ้านต้องไม่มีหญ้าขึ้น ข่วงมีบริเวณเรียบมีแต่ผืนดิน  อาจจะมีต้นไม้ให้ร่มเงา  หรืออาจเป็นที่ราบโล่งกลางแจ้ง

ข่วงบ้านล้านนาหากเวลาปกติ เป็นที่เล่นของละอ่อน เช่น เล่นสะบ้า  อีโจ้ง(โยนหลุม)  เตะตะกร้อ   หัดฟ้อนดาบ ฟ้อนเจิง  ซะป๊ะอย่างที่จะมี ฯลฯ.

ข่วงบ้านเป็นที่นั่งผิงแดดของผู้คนในบ้านไม่ว่าเด็ก  ผู้ใหญ่  ผู้เฒ่า   บางครั้งในฤดูหนาวผู้เฒ่าจะนั่งเผาข้าวหลามกับลูกหลาน   กินข้าวหลามกับเด็กๆเกิดมีความอบอุ่นในครอบครัว  และโอกาสนี้เองผู้ใหญ่จะสอน  เล่านิทาน  บอกกล่าวตักเตือนลูกหลาน

ข่วงบ้านในเวลากลางคืนมักเป็นที่ทำงานของแม่ญิง ที่นำเอาใบยามาซอย(หั่น)ใบยาเป็นฝอย  หรือบางครั้งอาจนำเอาต้นกล้วยมาซอย(หั่น)เรียกกันว่า ซอยหยวก(ต้นกล้วย)เพื่อเตรียมไว้ต้มให้หมู่ในวันรุ่งขึ้น    หากแม่ญิงเอางานมาทำตอนกลางคืนอย่างนี้เรียกกันว่า   "แม่ญิงหรือสาวอยู่ข่วง"  

หากเป็นข่วงบ้านของพ่อเลี้ยงหรือเศรษฐ๊ผู้มีอันจะกิน ก็จะจุดตะเกียงอีด้าหรือตะเกียงเจ้าพายุ แขวนไว้ให้ฉายแสงจ้าท้าแรงลมไว้หลายดวงรอบๆข่วงเพื่อให้บรรดาลูกจ้างต่างช่วยกันทำงาน เช่น ซอยยาขื่น(ยาฉุน) เป็นยาเส้นไว้เป็นสินค้า  หรือบางครั้งอาจนำใบมาเสียบเป็นตับเพื่อรอส่งโรงบ่มใบยา  บรรดาพวกหนุ่มๆก็พากันมานั่งจีบอยู่ไกลๆสายตามองหาสาวๆ บางคนเอาสะล้อ   ซึงมาดีด เป็นเสียงตนตรีบรรเลงเพลงม่วนแต๊ๆ...หลังจากเสร็จงานเวลาค่ำคืน พวกบ่าว(หนุ่ม)ก็จะถือโอกาสไปส่งสาวหกลับบ้าน

บางบ้านที่มีผู้ชายก็จะเอางานสานตะกร้า  สานสุ่มไก่     งานฟั่นเชือกมานั่งทำท่ามกลางแสงตะเกียงไฟแดงมอยๆ ในข่วงบ้าน โดยมีเสียงจิ้งหีด(จิ้งหรีด)  ชี้กุ่ง(จิ้งโกร่ง)แผดปีกหวี้ๆกล่อมเป็นเพื่อนยามค่ำคืน ผสานกับควันไฟไล่ยุงในกองขี้เหยื้อ(เศษไม้/ขยะ)และไออุ่นจากการสุมไฟ

หากเจ้าของบ้านมีงานมงคลก็บริเวณข่วงบ้านนี่แหละใช้เป้นที่วางโต๊ะ ตั่งม้านั่งรับแขก  อาจมีการรำวง  ร้องเพลง  ขับซอ  ไปตามประสา หรือฐานะเจ้าของบ้าน....

ส่วนผู้ที่เป็นพ่อครู  แม่ครูเมื่อถึงหน้าปีใหม่สงกรานต์จะใช้บริเวณข่วงบ้านเป็นที่รับรองลูกศิษย์ลูกหาที่มาดำหัว  บางครั้งอาจมีการทบทวนวิชาฟ้อนดาบ เจิง  มวย..

บางครั้งมีงานเศร้าข่าวอวมงคลผู้คนในบ้านเสียชีวิตบริเวณข่วงบ้านจะใช้เป็นที่วางปราสาทศพ  ใช้เป็นสถานที่ให้แขกนั่งพักร่วมพิธีการตลอดงาน

ข่วงบ้านของผู้ที่ชอบไก่ชน    ข่วงก็เป็นบริเวณที่จามไก่(ทดลองชน) เป็นที่สนุกสนานทั้งเด็กและผู้ใหญ่..

เวลาที่แดดจัดเจ้าของมักเอาเมล็ดพันธุ์พืช หรือเอาสะลี(ฟูกนอน) หมอนมาวางบนแผงเพื่อตากแดด ฆ่าเชื้อโรคให้หมดไป..

นอกจากข่วงบ้านแล้ว..ยังมีข่วงเมืองอีกระดับหนึ่ง..ซึ่งเป็นสถานที่ใช้จัดกิจกรรมของบ้านเมือง  เรียกกันโดยทั่วไปว่า  "ข่วงเมือง"

 

 

หมายเลขบันทึก: 414483เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2010 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 17:23 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท