สอนลูกอ่านหนังสืออย่างไรให้ฉลาด


และไม่ใช่แค่หนังสือการ์ตูนนะคะ คนญี่ปุ่นเขายังนิยมอ่านหนังสืออื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร หนังสือพิมพ์ พอคเก็ตบุ๊คส์ ซึ่งด้วยนิสัยรักการอ่านนี่ล่ะค่ะที่ทำให้ญี่ปุ่นพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพราะการอ่านหนังสือนอกจากจะทำให้ให้มีความรู้ เปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างแล้ว ยังทำให้เกิดจินตนาการในการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และสิ่งใหม่ๆ รวมถึงเป็นคนที่ทันสมัยทันโลกอยู่ตลอดเวลาด้วยค่ะ

     จากการที่เราได้รับรู้เรื่องราวของการเลี้ยงลูกในแบบของญี่ปุ่นไปบ้างพอสมควร และในวันนี้เราจะมาทราบถึงเรื่องที่สำคัญของการพัฒนาทักษะให้แก่ลูกๆ ของคุณแม่กันค่ะ นั่นก็คือการอ่านของลูกๆว่าจะอ่านอย่างไรให้ลูกๆรักการอ่าน

สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วเชื่อมั้ยคะว่า การอ่าน "การ์ตูน" หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า มังงะ นั้นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนญี่ปุ่นได้มากเชียวล่ะค่ะ  และการ์ตูนญี่ปุ่นก็ยังทำให้เกิดจินตนาการ ทำให้คนญี่ปุ่นเกิดความคิดสร้างสรรค์ ผลิตสิ่งใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องจนประเทศญี่ปุ่นสามารถพัฒนาตัวเองไปสู่ความเป็นผู้นำในด้านต่างๆ นั่นเอง

      หนังสือการ์ตูนนั้นคิดเป็นร้อยละ 40 ของตลาดสิ่งพิมพ์ทั้งหมดของญี่ปุ่นเชียวนะคะ โดยในประเทศญี่ปุ่นนั้นถ้าสังเกตดูเราจะพบคนญี่ปุ่นอ่านหนังสือการ์ตูนได้ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบนรถโดยสาร ร้านอาหาร ป้ายรถเมล์ ซึ่งหนังสือการ์ตูนของญี่ปุ่นนั้นก็มีหลากหลายแนวค่ะ ก็เลยตอบสนองทุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างโดนใจ

และไม่ใช่แค่หนังสือการ์ตูนนะคะ คนญี่ปุ่นเขายังนิยมอ่านหนังสืออื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร หนังสือพิมพ์ พอคเก็ตบุ๊คส์ ซึ่งด้วยนิสัยรักการอ่านนี่ล่ะค่ะที่ทำให้ญี่ปุ่นพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพราะการอ่านหนังสือนอกจากจะทำให้ให้มีความรู้ เปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างแล้ว ยังทำให้เกิดจินตนาการในการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และสิ่งใหม่ๆ รวมถึงเป็นคนที่ทันสมัยทันโลกอยู่ตลอดเวลาด้วยค่ะการอ่านหนังสือเป็นประตูสู่การเรียนรู้ที่สำคัญ และจะทำให้เด็กได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มพูนความรู้ และนำไปสู่ความฉลาดในที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้คือความฉลาดแบบคนญี่ปุ่น ที่คุณแม่คนไทยอย่างเราทำตามได้ไม่ยากเลย เพื่อให้ลูกของเราเป็นเด็กที่ฉลาดและพัฒนาการดีทั้งกายและใจไม่แพ้ชาติไหนในโลก

โครงการ Book Start

     ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีโครงการ Book Start โดยเป็นโครงการที่สนับสนุนการอ่านหนังสือให้กับเด็กๆเล็กฟัง โดยญี่ปุ่นประกาศให้ปี พ.ศ. 2543 เป็น " ปีแห่งการอ่านของเด็ก" ได้นำโครงการ Book Start จากอังกฤษมาเผยแพร่ โดยมี Book start Support Center เป็นเจ้าของโครงการ

ด้วยหลักการที่ว่า "ภาษาที่ว่ามีความสำคัญต่อการหล่อเลี้ยงจิตใจเด็กเด็กเล็กต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่างอ่อนโยน" โดยการได้รับความร่วมมือจากศูนย์อนามัย ห้องสมุด และหน่วยงานสนับสนุนการเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งโครงการนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น

(สนับสนุนข้อมูลโดย  www.snowbrand.co.th)

หมายเลขบันทึก: 412434เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2010 14:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2012 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท