วิชาสังคมศึกษา เปลี่ยนแปลงผมอย่างไร


แม้ว่า.... การเรียนวิชาสังคมศึกษาที่อาจารย์ อมรรัตน์ ได้ทำให้ผมสนุกและรักที่จะเรียนวิชานี้ ผมจะไม่สามารถทำเกรดได้ดีในวิชานี้เลย พูดก็พูด ผมไม่เคยได้เกรด 4 วิชาสังคมเลย วน ๆ อยู่สองกะสามเท่านั้น ในระบบ ห้าเกรดแต่ความรักในวิชาสังคม มันทำให้ผมเริ่มหันมาสนใจสังคมมากยิ่งขึ้นแน่นอนละครับ สังคมที่เราสนใจในวัยเด็ก คงไม่แปลกอะไรที่จะเป็นสังคมที่มีเราเป็นศูนย์กลาง ถามว่า เกิดความคิดถึงขั้นไหนคงตอบได้ว่า ไม่ถึงขั้นที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมอะไร พูดก็พูด หลักสูตรที่เราเรียนกันในสมัยนั้น ก็ย่อมบอกเราว่า สังคมมันดีอยู่แล้ว ประเทศนี้ดีเลิศกว่าที่ไหน ในประวัติศาสตร์เราไม่เคยเป็นรองใคร เราจึงดีกว่าเพื่อนบ้านเรามีฐานะ ตำแหน่งทางสังคมที่ดีกว่าคนประเทศอื่น บ้านเราเป็นประชาธิปไตย เสรีภาพ เต็มเปี่ยม เศรษฐกิจทุนนิยมแบบที่เราเป็นอยู่เป็นทุนนิยมที่มีเมตตาธรรม จนอาจเรียกได้ว่าเศรษฐกิจแบบผสมผสาน ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ดีเลิศ โดยเฉพาะเถรวาท นั้นดีเลิศกว่านิกายไหน ๆ  พูดง่าย ๆ ว่า สังคมบ้านเราดีอยู่แล้ว ทางเลือกในการนำพาสังคมเคลื่อนไปข้างหน้าที่เป้นอยู่มีทางเดียว ดีอยู่แล้ว เด็กอย่างผม ก็ต้องมองละครับว่าแล้วเราจะเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในส่วนไหนของสังคม "ที่ดี"อย่างประเทศนี้

ผมว่า... เพื่อนผมหลายคนคงนึกเถียงในใจเวลาอ่านหนังสือเหมือนกัน เพราะหลายคน ชีวิตทุกข์ทนจนยาก หาเช้ากินค่ำ คงไม่เชื่อแน่ว่าสังคมนี้มันดีอย่างที่หนังสือหรือครูบอก ไม่ต้องถามถึงเรื่องไกลตัวอย่าง กาแฟ ไร่อ้อยในบราซิล ประวัติศาสตร์ยุโรป หรือภูเขาไฟในวงแหวนแห่งไฟ จะว่าไปมันไกลตัวเขาทั้งนั้น แต่สำหรับผม สังคมนี้ก็ทำท่าจะดีมาตลอด ถ้าไม่มีใครแย่งพ่อผมไปกอดเสียก่อน ถึงตอนนั้นผมก็เริ่มตั้งคำถามกับอย่างน้อยก็เรื่องระบบศีลธรรมของสังคมนี้บ้าง รวมถึง คำถามทางปรัชญาที่ว่า เฮ้ยท้ายที่สุดถ้าหน่วยย่อยของสังคมมนุษย์คือครอบครัวอย่างเขาว่า คนที่สร้างปัญหาครอบครัวให้ตัวเอง และคนที่ยัดเนยียดปัญหาครอบครัวให้คนอื่นเนี่ยะ แท้จริงแล้วมันยังจะเรียกได้ไหมว่าสัคมเราดีมีการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าวิชาสังคมที่ผมได้ศึกษาจะช่วยให้ผมไปยืนอยู่ในจุดที่แก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับสังคมเราได้อย่าที่วีรบุรุษ ในประวัติศาสตร์เขาทำ ๆ กันมา เพราะอะไร ก้เพราะสังคมศึกษาแบบที่กระทรวงศึกษาใช้สอนบอกให้ผมรู้ว่า อำนาจมันมีแหล่งกำเนิดและมีศูนย์กลาง การติดต่อ หรือครอบครองศูนย์แห่งอำนาจได้จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างเลยไม่แปลกอะไรที่ผมใฝ่ฝันอยากเป็น ส.ส. และคลั่งไคล้หลงไหลการเมืองระดับชาติอย่างเป็นชีวิตจิตใจ เพราะดูเหมือนว่ามันจะเป็นทางเดียวที่เราจะสามารถกุมอำนาจไว้และแก้ปัญหา อย่างที่เราคิดเราฝัน ผมว่านักการเมืองดี ๆ หลายคน แม้แต่คุณอภิสิทธิ์ ก้คงคิดอย่างนี้

แต่ท้ายทีร่สุดผมกลับได้พบว่า เมื่อผมร่ำเรียนเขียนอ่านทางด้านสังคมศึกษาเข้า นับวันผมยิ่งพบว่า สังคมบ้านเรามันไม่ได้น่าอยู่อย่างที่คิด ในประวัติศาสตร์มีบางอย่างที่ถูกปกปิดบิดเบือนและกดทับ นักการเมืองดี ๆ ที่แสวงหาศูนย์อำนาจต้องพลาดเป้า กลายเป็นทรราชย์ เพราะพิษภัยไฟอำนาจลามลน ผมเลยหยุด คิดที่จะแสวงหาอำนาจอย่างนั้นเพราะเห็นมานักต่อนักว่า การเมืองที่เน้นศูนย์อำนาจนอกจากแก้ปัญหาไม่ได้ นักการเมืองในศูนย์อำนาจอาจกลายเป็นปัญหาโดยไม่รู้ตัว

คำสำคัญ (Tags): #สังค,l7dkk
หมายเลขบันทึก: 411987เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2010 20:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท