วันนี้ (4 ธ.ค.) วัตถุดิบในการทำกับข้าวที่บ้าน เหลือน้อยเต็มที ก็พากันไปซื้อเสบียงที่ตลาดปากน้ำ ได้ข้าวของมาหลายอย่าง ขณะที่รอแม่บ้านเข้าไปซื้อเนื้อหมูที่ร้านสหกรณ์ ผมยืนรออยู่หน้าร้าน ผมเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ผมไม่ต้องการที่จะเห็นมันเลย แต่ก็ต้องเห็น เพราะอยู่ห่างจากผมเพียงนิดเดียว
ขากลับ รถมอร์เตอร์ไซด์ติดไฟแดง (ที่ต้องใช้มอเตอร์ไซด์เพราะตลาดอยู่ไม่ไกลจากบ้าน) ผมหันไปบอกแม่บ้านว่า ผมเห็นอะไรบางอย่างใจคอไม่ค่อยดี แม่บ้านตอบกลับว่า มิน่าเห็นเงียบไป แต่พอรู้นะว่า พ่อเห็นอะไร เห็นแม่พาลูกมานั่งขอทานหน้าร้านขายหมูใช่ใหม? ครับ ผมเห็นสิ่งนั้นจริง ๆ ลูกสาวอายุประมาณ 8 ขวบ แต่งตัวไม่สกปรกนัก นั่งพนมมือไหว้ผู้คนที่ผ่านมาผ่านไป แม่นั่งอยู่ข้างหลังคอยสกิดลูกเมื่อมีคนเดินผ่าน
ครั้งแรก ผมคิดว่าจะช่วยทำบุญสัก 10 บาท แต่ก็มาคิดได้ว่า แม่ก็ไม่พิการเขาน่าที่จะหางานอย่างอื่นทำได้ ไม่น่าจะเลือกทางนี้ หรือเพราะว่ามันง่ายเหลือเกิน ผมไม่ต้องการส่งเสริมในทางที่ผิด ก็เลยตัดใจไม่ให้เขา
ผมขี่รถกลับบ้าน ใจก็คิดแต่เรื่องนี้ เมื่อสร้างให้เขาเกิดมาแล้วทำไมไม่เลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด อีกไม่นานเด็กคนนี้ก็จะเติบโตขึ้นมา และในที่สุดก็จะกลายเป็นภาระของสังคม เพราะขาดการหล่อหลอมเลี้ยงดู เพื่อให้ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างทรนงองอาจ อนิจา ผมเห็นแค่คนเดียว แต่เชื่อว่ายังมีเด็กอีกเป็นจำนวนมาก ที่ตอบใครไม่ได้ว่า โตขึ้นหนูจะเป็นอะไร เพราะคำตอบที่เป็นอยู่ขณะนี้ มันค่อนข้างชัดเจนเหลือเกิน
ทันทีที่ถึงบ้าน จอดรถเสร็จผมกรากเข้าไปอุ้มปันปัน หลานสาววัย 8 เดือน ที่อ้าแขนรอให้คุณตามาอุ้ม แล้วเดินไปหลังบ้าน กระซิบเบา ๆ กับปันปันว่า
"...ปันปัน ตาสัญญาว่าจะดูแลปันปันให้ดีอย่างสุดความสามารถ ตราบเท่าที่ตายังมีลมหายใจอยู่..." ปันปันจะรู้หรือเปล่า ผมไม่ทราบ แต่ผมรู้ว่าผมมีน้ำตาซึมออกมาอย่างไม่น่าละอายต่อสิ่งใดเลย
คุณน้าเป็นคนจิตใจโอบอ้อมอารีมากเลยคะ แต่เหนืออื่นใดช่วยให้พลอยได้คิดวิเคราะห์ไปถึงเรื่องการเลี้ยงดู พลอยมักเจอผู้ใหญ่ที่พูดว่าเลี้ยงลูกไม่ยากหรอก เขาก็เลี้ยงๆกันมาได้ เด่วสังคมเด่วอะไรก็พากันเติบโตไปเอง ส่วนตัวไม่ชอบผู้ใหญ่ที่ให้คำตอบแบบนี้เหมือนกันคะ เขาดูเหมือนมันง่ายไปหมด ไม่ใส่ใจรายละเอียดยังไงก็ไม่รู็คะ ความคิดของคุณน้าช่วยให้ย้อนและตระหนักว่า ถ้าวันใดวันหนึ่งพลอยจะเป็นผู้ปกครองคงรับผิดชอบและคิดหนักมากๆในเรื่องการเลี้ยงดูคนให้มีคุณภาพมากๆคะ