มาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (ออกจากราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2554)


มาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (ออกจากราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2554)

 

 

 

"มาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ

(โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555

(ออกจากราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2554)"

 

             ด้วยคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553  (หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0506/8080 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2553) มีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (ออกจากราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2554) โดยหากส่วนราชการใดพิจารณาแล้วเห็นว่า  การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยรวมของส่วนราชการและมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับให้พิจารณาดำเนินการได้  โดยให้ส่วนราชการจัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการเสนอต่อคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป

                ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. ได้ส่งรายละเอียดการดำเนินการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (ออกจากราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2554) เพื่อให้ส่วนราชการพิจารณาดำเนินการตามนัยของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งให้จัดส่งให้ คปร.พิจารณาภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2553

 วัตถุประสงค์

                :  เพื่อให้กำลังคนภาครัฐมีขนาดและคุณภาพที่เหมาะสมสอดคล้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนวใหม่ และการใช้กำลังคนภาครัฐเป็นไปอย่างคุ้มค่า  ประหยัด  เต็มศักยภาพ ได้ประโยชน์สูงสุด

หลักการ

                  :  จูงใจข้าราชการให้ลาออกจากราชการก่อนครบอายุเกษียณ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขประเด็นการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการตามผลการทบทวนบทบาทภารกิจ วิเคราะห์และสำรวจอัตรากำลังของส่วนราชการ

กลุ่มเป้าหมาย

                    :  ข้าราชการที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป (อายุ 45 ปี ขึ้นไปสำหรับข้าราชการทหาร) หรือมีเวลาราชการ 25 ปี ขึ้นไป (ไม่รวมเวลาทวีคูณ) นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามมาตรการฯ (วันที่ 30 กันยายน) โดยเป็นข้าราชการปรเภทใดประเภทหนึ่ง ดังนี้

            1. ข้าราชการพลเรือนสามัญและข้าราชการพลเรือนในพระองค์ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน

            2. ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา

            3. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

            4. ข้าราชการตำรวจตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการตำรวจ

            5. ข้าราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหาร

            6. ข้าราชการธุรการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ

และต้องมีคุณสมบัติดังนี้...

             1. ผู้ออกจากราชการจะต้องมีเวลาราชการเหลือตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการตามมาตรการฯ

             2. ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวนหรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัย พิจารณาโทษทางวินัย รายงานการดำเนินการทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย หรือเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา ซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

             3. ไม่เป็นผู้ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการไม่ว่ากรณีใด ๆ ตามกฎหมาย เช่น ถูกสั่งให้ออกจากราชการ ไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณา ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการเนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทนั้น ๆ เป็นต้น

             4. ถ้าเป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการในการไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้มาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาศึกษา ฝึกอบรมหรือปฏิบัติการวิจัย และจะต้องยินยอมชดใช้เงินตามสัญญาผูกพันที่ได้ทำไว้กับราชการสำหรับเวลาที่ยังปฏิบัติราชการชดใช้ไม่ครบ

              ทั้งนี้  ผู้จะได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการตามมาตรการฯ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตั้งแต่วันที่ยื่นใบสมัครจนถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการ

 

ศึกษารายละเอียดหนังสือคณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย

และนโยบายกำลังคนภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/430

ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553  ได้ตามไฟล์ด้านล่างนี้...

 

http://gotoknow.org/file/bussayamas/bussayamas111111.PDF

 

 

 

 



ความเห็น (8)

สวัสดีวันหยุดค่ะ

  • พักผ่อนบ้างนะคะ
  • เป็นห่วงเด้อ

สวัสดีค่ะ

จะนำไปบอกต่อค่ะ มีผู้รอคิวอีกหลายคนทีเดียว  ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ...คุณยาย...Ico32...

  • ขอบคุณค่ะ...

สวัสดีค่ะ...พี่คิม...Ico32...

  • ขอบคุณค่ะ...

-สวัสดีครับ...

-แวะมาเยี่ยมตอนเย็น ๆ ครับ...

-เก็บภาพ "บะตันขอ" มาฝากครับ..

-รู้จักรึเปล่าครับ????

สวัสดีค่ะ...คุณเพชรน้ำหนึ่ง...Ico32...

  • ขอบคุณที่นำภาพมาให้ดูค่ะ...
  • พ่อบ้านพี่เขาเรียกว่า "พุทราขอ" ค่ะ แต่พี่ไม่เคยเห็นค่ะ...
  • เพราะ "บะตัน" แปลว่า "พุทรา" ค่ะ...

-สวัสดีครับ....อาจารย์...

-สบายดีนะครับ

-วันก่อนมี "บะตันขอ"มาฝาก....

-วันนี้.มี" ลูกตะขบ"มาฝากอาจารย์อีกแล้วครับ....

-เก็บภาพมาวันเดียวกันกับ "บะตันขอ" ครับ...

สวัสดีค่ะ...คุณเพชรน้ำหนึ่ง...Ico32...

  • ค่ะ...ที่พิษณุโลก เขาเรียกว่า "ตะขบขี้นก" ค่ะ...
  • คงเป็นเพราะเป็นอาหารที่นกชอบ แล้วกิน ไปถ่ายทิ้งไว้ตามที่ต่าง ๆ จึงทำให้เกิดเป็นต้นตะขบขึ้นมาไงค่ะ...
  • ขอบคุณค่ะ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท