ขณะนี้ผมกำลังพักผ่อนอยู่ที่ห้องสมุดของโรงเรียนอุดรธรรมมานุสรณ์ ในระหว่างเข้าค่าย English Camp วันนี้เป็นวันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 เป็นวันที่ 2 ของ การเข้าค่าย ผมและนักเรียนทุนจำนวนประมาณ 150 คนได้มีโอกาสได้ฝึกทักษะ การพูด กิจกรรมและเรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาซึ่งมีทั้งชายหญิงจำนวนประมาณ 60 คน เขาทั้งหลายเป็นอาสาสมัครที่ปฎิบัติการสอนในโรงเรียนทั้ง ประถมศึกษาและ มัธยมศึกษา แต่ที่น่าคืดเป็นบทเรียนคือเขาสามารถใช้ภาษาไทย ในการสื่อสาร ถึงแม้จะพูดได้ไม่ถูกต้องนักแต่ก็มีความกล้าที่จะพูด ปัจจัยที่สำคัญคือเขาได้มาฝึกประสบการณ์จริงกับคนไทยที่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร แต่ตรงกันข้ามประเทศไทยเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ระดับ ชั้นประถมจนจบมหาวิทยาลัยส่วนมากยังไม่กล้าที่จะพูด และ ที่สำคัญคือขณะนี้ประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญในการกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่จะต้องเรียนรู้อย่าง จริงจัง ผมขอเสนอแนะวิธีที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษให้ได้ผลอย่างจริงจังคือ รัฐบาลไทยต้องส่งบุคคลากรที่มีหน้าที่ใน การสอนภาษาอังกฤษนักเรียนทุกโรงเรียนและทุกคนไปฝึกประสบการณ์ที่ประเทศ เจ้าของภาษาหรือประเทศที่มีการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อย่างน้อยคนละ 1 เทอม มั่นใจอย่างแน่นอนว่าคุณครูทั้งหลายจะพัฒนาตนเองในด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนภาษาอังกฤษอย่างแน่นอนครับ สิ่งที่ระหว่างการเดินทางจากจังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธ์ ถึงจังหวัดอุดรธานีคือความสุข ทางใจที่ได้เห็นสองข้างทางที่สมบูรณ์ไปด้วยนาข้าวที่กำลังสุก เหลืองอร่ามรอการเก็บเกี่ยว ไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อยที่กว้างใหญ่ เป็นแหล่งการเกษครที่อุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย รู้สึกดีใจที่ประชาชนชาวไร่ชาวนาจะได้มีเงินใช้และส่งบุตรหลานได้ศึกษาให้สูงขึ้น น้ำก็ไม่มีโอกาสได้ท่วมเพราะเป็น ที่ราบสูงตามเนินเขา
มาชื่นชม โชคดีของนักเรียน ด้วยครับ