ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน


“โหลด” ซึ่งเมื่อผมได้ยินคำนี้ผมก็เริ่มที่จะงงว่าอะไรคือการโหลด ซึ่งผมมาทราบภายหลังว่า การที่จะนำกระเป๋าเดินทางติดตัวไปนั้น จะมีกระเป๋าที่นำไปด้วยแต่จะไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบินนั้น จะต้องนำกระเป๋าไปให้กับพนักงานของสายการบินที่เราจะขึ้น เพื่อลำเลียงผ่านสายผานไปยังจุดรวม และจะมีรถนำกระเป๋าที่เราโหลดเรียบร้อยแล้ว นำไปขึ้นไว้ใต้เครื่องบินที่เราจะโดยสารไป

       หลังจากที่จ่ายเงินให้กับแท็กซี่ที่มาส่งผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้เดินเข้าไปสู่ในสนามบิน เพื่อไปที่จุดนัดหมาย คือ อาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ประตู   2-3 แถว D เคาน์เตอร์สายการบินไทย ซึ่งเมื่อผมเดินเข้าถึงจุดนัดหมายผมก็ได้พบกับครูปุ๊กหรือคุณครูรัตนาภรณ์ วงศ์ศรีอ่อน จากโรงเรียนสามเสนนอก  โดยที่ครูปุ๊กได้มาถึงก่อนเวลานัดหมายนานแล้ว จากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามากันเรื่อยๆ  เมื่อผมได้พบกับศึกษานิเทศก์เจี๊ยบและศึกษานิเทศก์ต้อยและรองฯ มาสวิมล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น  เพราะศึกษานิเทศก์เจี๊ยบทราบเป็นอย่างดีว่า  ผมไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ท่านจึงให้ความช่วยเหลือผมตลอดการเดินทางและเตือนให้ผมรีบไปแลกเงินให้เรียบร้อย       ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมยังไม่ได้แลกเงิน จึงรีบไปแลกเงิน ซึ่งผมก็ได้ความรู้เพิ่มว่า ถ้าเราจะไปเมืองจีนนั้น เงินที่นั้นเขาจะเรียกกันว่าเงินหยวน ซึ่งขณะนั้นค่าเงินหยวนจะเป็น   1  หยวน จะเท่ากับ 4.95 บาทไทย  และเมื่อถึงเวลานัดหมาย  9.00 น. ทางมัคคุเทศก์ที่นำเราไปในครั้งนี้ก็ได้มีการแจกของที่ทางบริษัท เตรียมไว้ให้ในการเดินทางในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นหมวก ร่ม อาหารรองท้องในมื้อเช้า   และพร้อมทั้งป้ายชื่อติดกระเป๋าเดินทางแต่คนที่ไป  และยังได้ให้เอกสารที่จำเป็นในการเดินทางเข้าประเทศจีนในครั้งนี้

                จากนั้นทางมัคคุเทศน์ได้ให้ทุกคนนำกระเป๋าที่เรียบร้อยแล้วนำไป “โหลด” เมื่อผมได้ยินคำนี้ผมก็เริ่มที่จะงงว่าอะไรคือการโหลด ซึ่งผมมาทราบภายหลังว่า การที่จะนำกระเป๋าเดินทางติดตัวไปนั้น จะมีกระเป๋าที่นำไปด้วยแต่จะไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบินนั้น จะต้องนำกระเป๋าไปให้กับพนักงานของสายการบินที่เราจะขึ้น เพื่อลำเลียงผ่านสายผานไปยังจุดรวม และจะมีรถนำกระเป๋าที่เราโหลดเรียบร้อยแล้ว นำไปขึ้นไว้ใต้เครื่องบินที่เราจะโดยสารไป

                หลังจากที่กระเป๋าเราโหลดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อไปก็คือการตรวจคนก่อนออกนอกประเทศ ซึ่งผมก็ได้ตามนิเทศน์เจี๊ยบไป  เมื่อไปถึงจุดตรวจเขาก็บอกให้เรานำกระเป๋า และของที่ติดตัวมาทั้งหมดใส่ไว้ในตระกร้า           เพื่อตราจสอบ และต้องถอดเข็มขัดที่เป็นโลหะด้วย ซึ่งในตอนนั้นผมรู้สึกอึดอัดอย่างหนึ่งที่บอกใครไม่ได้ก็คือ          เมื่อถอดเข็มขัดออกกางเกงที่ผมใส่ไปในวันนั้น มันไม่ยังไม่พอดีกับเอวซักเท่าไรนักเลยมีความรู้สึกว่าเหมือนมันจะหลุดออกจากเอว แต่ยังดีที่เจ้าหน้าที่เขาตรวจด้วยความรวดเร็ว ทำให้เหตุการณ์ที่ไม่อยากจะคิดก็ไม่เกิดขึ้นกับตัวผม จากนั้นผมก็ต้องเดินเข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งคน  โดยนะจุดนี้ผมต้องนำหนังสือเดินทางที่ติดตัวยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจความถูกต้องของบุคคลที่จะออกนอกประเทศด้วย  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงได้ผ่านเข้าไปสู่ ณ จุดรอด้านใน  ซึ่งผมก็เพิ่งจะเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยจุดนี้เองที่ทุกคนสามารถจับจ่ายซื้อของ ปลอดภาษี หรืออีกอย่างหนึ่งที่คนทั่วไปมักจะได้ยินก็คือ   Duty Free

หมายเลขบันทึก: 407408เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2010 19:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท