หอมกลิ่นข้าวใหม่


กลิ่นข้าวใหม่เป็นกลิ่นที่หอมหวนยวนใจจริงๆ อีกทั้งยังอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง

***หอมกลิ่นข้าวใหม่***

          ช่วงนี้เป็นหน้าเก็บเกี่ยว ชาวนาต่างรีบขวนขวายที่จะเก็บเกี่ยวข้าวให้เสร็จโดยไว บรรดารถเกี่ยวทั้งหลายวิ่งให้วุ่นเต็มไปหมด เห็นแล้วทำให้หวนคิดถึงเมื่อครั้งยังเยาว์วัย

          พี่น้องในหมู่บ้านต่างช่วยกันเก็บเกี่ยวข้าว ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ลงแขกเกี่ยวข้าว” (การลงแขก ก็คือ การลงแรงช่วยกัน โดยการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปแต่ละบ้าน โดยไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง) และในช่วงนี้ ก็จะมีการทำลานข้าว

          การทำลานข้าวนั้น เริ่มจากการถากและถางตอซังข้าวให้ได้บริเวณพอประมาณ เมื่อได้พื้นที่ตามที่ต้องการแล้ว เจ้าของลานข้าวก็จะนำเอาขี้ควายผสมน้ำให้มันเละๆ แล้วนำมาทาลานข้าว ทิ้งไว้ซักวันสองวันลานข้าวก็แห้ง พร้อมที่จะนำมัดข้าว (ฟ่อนข้าว) ที่เก็บเกี่ยวไว้ มาวางเรียงกันเป็นแถวและเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมที่จะนวดข้าว (ตีข้าว) ให้ได้เมล็ดข้าวตามที่ต้องการ

          การนวดก็ไม่พ้นการลงแขกอีกตามเคย

          ช่วงเวลานวดข้าว เป็นเวลาที่มีความสุขสนุกสนานของบรรดาเด็กๆ รวมทั้งคนหนุ่มคนสาว หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ต่างก็มีความสุขไปตามๆ กัน

          การนวดข้าว มีเพลงร้องประจำเพื่อให้เข้าจังหวะกับการนวด โดยจะร้องว่า “โจ๊ะหนึ่งก็ต้องเป็นสอง สองก็ตามด้วยสาม สามก็ตามด้วยสี่ แต่จะให้เข้าที ก็ต้องตีให้ถึงแปดๆ” บางที เมล็ดข้าวยังไม่หมดจากมัดข้าวด้วยซ้ำ ก็รีบทิ้งซะแล้ว

          แต่ก็ไม่ต้องกลัว เพราะมีพวกผู้หญิงเขาคอยตีซังข้าวที่ทิ้งมาอีกทีหนึ่ง เรียกว่า ตีข้าวสะนุ คือ การเอามัดข้าวที่ทิ้งมาแล้วนำมาตีอีกทีหนึ่งโดยการตัดต้นข้าวที่ใช้มัดฟ่อนข้าวออกแล้วตีด้วยท่อนไม้ที่มีขนาดและความยาวพอเหมาะมือ อาจจะเป็นกิ่งไผ่ หรือไม้อะไรก็ได้ ที่พอจะหาได้แถวๆ นั้นตามที่เห็นสมควร แล้วนำมาฟาดกับกองซังข้าวเพื่อให้ได้ข้าวที่ยังเหลือติดกับซังข้าวอีกที ยังไงเมล็ดข้าวก็ไม่มีทางหลุดรอดไปได้หรอกน่า.........

          เมื่อนวดข้าวแล้ว ก็จะมีการทำลอมฟาง พวกเด็กๆ ก็จะไปมุดลอมฟางข้าวทำเป็นที่นอนแก้หนาว อบอุ่นดีนักแล บางทีนอนอยู่ดีๆ มีคนเดินมาเหยียบซะนี่ ทำให้ต้องร้องเสียงหลงกันไปเลย

          พอนวดข้าวเสร็จ ก็จะกรอกข้าวใส่กระสอบ นำขึ้นไปเก็บไว้ในยุ้งในฉาง โดยความร่วมมือของเพื่อนพ้องและน้องพี่ในหมู่บ้านอีกตามเคย

          เดี่ยวนี้ ไม่มีการทำลานนวดข้าวอีกแล้ว เพราะปัจจุบันใช้รถในการเก็บเกี่ยว เกี่ยวเสร็จก็บรรจุใส่กระสอบได้เลย สะดวกสบาย แต่กระเป๋าแห้ง เพราะราคาเก็บเกี่ยวต่อไร่ไม่ใช่น้อยๆ

          หน้านี้เป็นหน้าที่ทุกคนรอคอย เพราะจะได้กินข้าวใหม่ เนื่องจากกลิ่นข้าวมันหอมหวนยวนใจจริงๆ อีกทั้งยังอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้างเหมือนข้าวเก่า โบราณท่านจึงว่า “ข้าวใหม่ปลามัน” เป็นช่วงที่ทุกคนต้องการ

          จริงๆ กลิ่นข้าวใหม่ จะเริ่มหอมตั้งแต่ข้าวเริ่มออกรวงแล้วหละ เวลาเดินผ่านท้องทุ่งนา กลิ่นหอมๆ จะลอยมากระทบจมูกทำให้ชื่นไปทั้งหัวใจ

          มาถึงปัจจุบัน รู้สึกว่ากลิ่นข้าวใหม่ จะจางหายไป แม้แต่เวลานึ่งหรือหุงสุกแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะได้กลิ่นหอมที่สุด เดี่ยวนี้ ก็จะแทบไม่ได้กลิ่นเลย เนื่องจากสารเคมีจากปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชมันเยอะเหลือเกิน ก็เลยกลบกลิ่นหรือทำลายกลิ่นหอมของข้าวใหม่ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่เคยลบเลือนไปจากความทรงจำของผมตราบนานเท่านาน

***********************

 

หมายเลขบันทึก: 407230เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2010 07:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีค่ะ ตามกลิ่นข้าวใหม่มาค่ะ

ได้กินข้าวใหม่แล้วสิ อิจฉาจัง

แต่ถ้าจะให้อร่อย ก็ต้องเอาไปทาไข่ แล้วจี่เป็นข้าวจี่นะครับ........... กลิ่นหอมฉุย............เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลยจริงๆ..............

สวัสดีค่ะ

ที่บ้านก็เริ่มเกี่ยวข้าวล่ะค่ะ รอกินข้าวใหม่อยู่เหมือนกัน อิอิ

บรรยายเห็นภาพแบบวิถีชีวิตดั้งเดิมเลยครับ หอมกลิ่นข้าวใหม่ จรุงใจอยากได้กิน ถวิลหาบรรยากาศ จะไม่พลาดและรีรอ จะขอกินข้าวใหม่ให้หนำใจครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาด้วย "หอมกลิ่นข้าวใหม่" ค่ะ นึกถึงสมัยก่อนที่บ้านทำไร่ ก็จะได้กินข้าวใหม่หอม ๆ....  แต่ทุกวันนี้ ไม่มีให้ได้กลิ่นแล้วค่ะ
  • สัญญาหน้าหนาวมาแล้ว รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                               บุษราเลยนำดอกบัวมาฝากด้วยค่ะ

สวัสดีครับ คุณกอหญ้า.................ขอให้มีความสุขและสดชื่นกับกลิ่นหอมของข้าวใหม่นะครับ.................

สวัสดีครับ...คุณ Peter p เอาไปเลยครับคนละกะติ๊บ..............ร้อนๆเลยครับ...........

ขอบคุณครับ.....คุณบุษรา..........ที่นำดอกบัวมาฝาก............ หวังว่า.....ผมคงจะเป็นบัวเหนือน้ำนะครับ.................................... ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ......................

ขอบคุณ..........ท่าน ผอ.วัฒนา.............ที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ..................

ได้วิถีชีวิตเดิมๆของเรากลับคืนมาแบบนี้บ้างก็ดีนะครับ มีแต่ความเจริญของคนเมือง กับหนี้ของคนชนบท ไม่ยุติธรรมเลย

ขอบคุณ.......คุณ Thongmai........ที่ตามกลิ่นข้าวใหม่มา.............. วันหลังจะตอบแทนด้วยข้าวใหม่ 1 กะติ๊บ ครับ...............................

ขอบคุณ..........ท่านอาจารย์โสภณที่มาเยือน............ครับ.......

...สวัสดีค่ะ..คุณหนุ่มลำน้ำมูล...

จบคอร์สนี้สามารถร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวได้เลยนะคะเนี่ย...

ชอบกลิ่นทุ่งข้าวเหมือนกันค่ะ

ไปต่างจังหวัดทีไรก็ไปนั่งปล่อยอารมณ์มองทุ่งข้าวรวงอ่อนๆ

มีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยมา สบายใจค่ะ

....

แวะมาทักทาย ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...

สวัสดีครับ คุณน้ำผึ้งหวาน............................

น่าจะประมาณนั้นแหละครับ.................5555555555555++++++++++++

จริงครับ..........อยู่กับธรรมชาติมีความสุขที่สุดครับ................

ยินดีเช่นกันนะครับ........ที่ได้รู้จัก...........จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ...........

รักษาสุขภาพนะครับ.........................

หอมกลิ่นข้าวใหม่..ให้ความรู้สึกจริงๆ

ยิ่งเป็นข้าวหอมมะลิ..ต้นข้าวก็หอม

สำหรับเช้าวันทำงานจ้า

สวัสดีตอนเช้านะครับ.................คุณครู ป.1 หอมกลิ่นกาแฟจังครับ.........................

กลิ่นของข้าว............เป็นกลิ่นของชีวิตครับคุณครู................

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท