การผลิตชาใบหม่อนในระดับครัวเรือน
วิโรจน์ แก้วเรือง
การทำชาใบหม่อนแบบครัวเรือน มุ่งเน้นเกษตรกรและบุคคลทั่วไปทำไว้บริโภคเองได้ เกษตรกรที่มีแปลงหม่อนเพี่อใช้เลี้ยงไหมอยู่แล้ว และบุคคลทั่วไปที่ปลูกหม่อนไว้ตามสวนหลังบ้าน หรือปลูกไว้เป็นไม้ประดับ สามารถทำชาใบหม่อนได้ด้วยตนเอง โดยการใช้อุปกรณ์ในครัวเรือนที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมประการใด เพราะจากการศึกษาพบว่า ชาใบหม่อนที่ได้จากการทำแบบครัวเรือน มีคุณสมบัติ เช่นเดียวกับการทำชาแบบอุตสาหกรรมโรงงาน การทำชาใบหม่อนแบบครัวเรือนอาจพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมภายในครอบครัวได้ แต่การทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายปริมาณมากๆ ต้องคำนึงถึงความสม่ำเสมอในเรื่องคุณภาพ เนื่องจากจะมีความแตกต่างกันในการทำแต่ละครั้ง รวมทั้งมีความแปรปรวนที่อาจเกิดจากความชำนาญของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะเรื่องความชื้น ถ้าคั่วชาไม่ได้ที่ ความชื้นในใบชาใบหม่อนสูง อาจก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียเข้าทำลายได้ ทำให้ชาใบหม่อนเสื่อมคุณภาพ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
การทำชาเขียวใบหม่อนแบบครัวเรือน
ใช้ใบหม่อนสดได้ทั้งใบอ่อนและใบแก่ มีขั้นตอนการทำดังนี้
ลักษณะทั่วไปของน้ำชา
- สี เขียวอ่อนปนน้ำตาล
- กลิ่น หอมใบไม้คั่ว เช่นเดียวกับใบชา แต่มีกลิ่นน้อยกว่า
- รส หวานเล็กน้อย ฝาดน้อยกว่าชาจากใบชา ไม่มีรสขม
ใบหม่อนสดพันธุ์ บร.60 เมื่อนำมาทำชาเขียวจะได้น้ำหนักใบชาเพียง 18.9 % ที่มีความชื้นน้อยกว่า 1.0 % ดังนั้นการจะได้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวหม่อนแบบครัวเรือน 1 กิโลกรัม จะต้องใช้ใบหม่อนสดประมาณ 5.3 กิโลกรัม
การทำชาจีนใบหม่อนแบบครัวเรือน
ลักษณะทั่วไปของน้ำชาใบหม่อน
- สี เหลืองอ่อนปนน้ำตาล
- กลิ่น หอมใบไม้คั่ว เช่นเดียวกับใบชา แต่มีกลิ่นน้อยกว่า
- รส หวานเล็กน้อย ฝาดน้อยกว่าชาจากใบชา
ใบหม่อนสดพันธุ์ บร.60 เมื่อนำมาทำชาจีนแบบครัวเรือนจะได้น้ำหนักใบชาเพียง 15.8 % ที่มีความชื้นน้อยกว่า 1.0 % ดังนั้นการจะได้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวหม่อนแบบครัวเรือน 1 กิโลกรัม จะต้องใช้ใบหม่อนสดประมาณ 6.3 กิโลกรัม
หมายเหตุ
การทำชาฝรั่งใบหม่อนแบบครัวเรือน
ลักษณะทั่วไปของน้ำชา
ใบหม่อนสดพันธุ์ บร.60 เมื่อนำมาทำชาฝรั่งแบบครัวเรือนจะได้น้ำหนักชาผงเพียง 15.8 % ที่มีความชื้นน้อยกว่า 1.0 % ดังนั้นการจะได้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวหม่อนแบบครัวเรือน 1 กิโลกรัม จะต้องใช้ใบหม่อนสดประมาณ 6.3 กิโลกรัม
ถ้าผลิตเพื่อจำหน่าย ต้องขออนุญาตไหม ถ้าขออนุญาตต้องขอหน่วยงานใดครับ