ค่ายตุลาอาสาปันน้ำใจ '53


ค่ายตุลาอาสาปันน้ำใจ '53

ค่ายตุลาอาสาปันน้ำใจ 17-24 ตุลาคม 2553 ณ โรงเรียนบ้านหนองแก้ว ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี โดย ชมรมอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์ มหาวิทยาลัยบูรพา


"ค่าย 8 วัน ไม่สามารถไปได้ 8 วัน ไป 2 วันก็ยังดี 1 วันก็ยังได้ มาแค่สูดกลิ่นค่ายหนึ่งฟ้อด..แล้วก็กลับ..ก็ยังจะมาเลย.."

 

22 ต.ค. 2553

                วันนี้วันศุกร์ วันทำงาน รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ ที่จะได้ไปค่าย..รอมานาน เก็บกระเป๋าเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืน ทำงานรอเวลา จนกระทั่งสามโมงเย็น ขออนุญาตออกก่อนสองชั่วโมง หยิบกระเป๋า..ขึ้นรถ..เดินทาง..มุ่งหน้าสู่..ประจันตคาม..

                ยืนโบกรถข้างทาง..รถมา..ขึ้นรถสาย ระยอง..โคราช มาลงที่กบินทร์บุรี ต่อรถตู้ ลงที่ อ.ประจันตคาม เรียกวินมอไซค์ “พี่..ไปโรงเรียนวัดหนองแก้ว”

                ตามเส้นทางที่มอเตอร์ไซค์วิ่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนา ทุ่งหญ้า เลี้ยวขวา..ตรงไป..และก็เลี้ยวซ้าย..ถึงโรงเรียนวัดหนองแก้ว..ตอนนั้นประมาณห้าโมงครึ่ง ยังไม่ค่ำ มองเห็นโรงเรียน มองเห็นชุมชน

                จ่ายตังค์วิน..เดินเข้ามาในค่าย..น้องๆ..หวัดดี..ทักทาย..บรรยากาศเก่าๆ แว๊บเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง เดินไปดูโครงงานหลัก..อืม..ยังเหลืออีกเยอะ..วางกระเป๋า..หยิบเกรียงฉาบ..หยิบกระบะตักปูน..ฉาบ..ร่วง..ฉาบ..ร่วง..

                ฝีมือตกครับ ไม่ได้แตะมานาน..ฉาบปูนร่วงไปเป็นกระแป๋ง ถึงเริ่มจะติดผนัง..อืม..ภาพเก่าๆ..แว๊บเข้ามาในหัว..สมัยที่ยังเรียนและยังทำค่ายอยู่..มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก..ที่ได้กลับมา..ออกแรง..ทำเพื่อคนอื่น..อีกครั้ง..

                ค่ายนี้น้องๆ ตั้งใจไปสร้างห้องสมุด และที่กำลังฉาบอยู่นี้ ก็คือห้องสมุด ก่ออิฐผนังเสร็จแล้ว หลังคามีแล้ว ผนังด้านในฉาบแล้ว ส่วนผนังด้านนอก..กำลังฉาบอยู่ ในใจก็คิดว่า..ทำไม..งานเหลือเยอะจัง..ประเมินคร่าวๆ ถ้าจะฉาบให้เสร็จ..รับรอง..ทั้งคืน..เสร็จพรุ่งนี้แน่ๆ

                ขึ้นนั่งร้าน..ฉาบ..ไปหลายกระแป๋ง..รู้สึกเมื่อยมือ เพราะไม่ได้ออกแรงมานาน มองเห็นชาวค่าย ช่วยกันทำงาน ผสมปูน..ฉาบปูน..ปูกระเบื้อง..ขนปูน..คุยกัน..เล่นกัน..ยิ้มแย้ม..สนุกสนาน..เห็นแล้วมันปลื้มใจ

                เวลาผ่านไป..ค่ำแล้ว..น้องๆก็เรียกชาวค่ายกินข้าว ชาวค่ายก็พากันพักงานไว้ชั่วคราว..ไปกินข้าว..

                บรรยากาศกินข้าว ก็ยังเหมือนเดิม มีสันทนาการ..เต้นๆๆๆ..เพลงเดิม..เปิบข้าว..พิจารณาอาหาร..กินๆๆ

                กับข้าวมื้อนี้..อร่อยจริงๆ..ฝีมือแม่ครัวไม่เบาเลย..ซัดจนกับหมด..ก้างปลาก็ไม่เหลือ..น้ำปลาพริกยังอร่อยอ่ะ..คิดดู..

                หลังกินข้าว มีเวลาให้วิ่งเล่นแป๊บนึง..จากนั้น เป็นการประชุมค่าย..

                บรรยากาศการประชุม..เหมือนเดิม..ประธาน..นั่งแท่น..ชาวค่ายล้อมรอบ..แนะนำพี่มาใหม่..ติดตามงาน..จบการประชุม..เร็วแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง..เพราะ..จะได้มีเวลาทำโอหรือทำโครงงานหลักที่ยังไม่เสร็จต่อ..

                ตอนพวกเราไปกินข้าว ชาวบ้านก็มาช่วยกันฉาบ แบบว่าแท็กทีมกันมา ชาวบ้านน่ารักมาก เห็นแล้วก็ปลื้มใจอีกแล้ว..นี่แหละ..น้ำใจใสบริสุทธิ์..

                ต่อ..จับเกรียง..ฉาบๆๆๆ...ชาวค่ายก็ช่วยกันเหมือนเดิม..สามัคคีกันจริงๆ..เวลาผ่านไป..ดึกขึ้นๆ..ก็เริ่มหายไปทีละคนสองคน..ไปไหน?..ไปนอน..ก็มันง่วง..จริงๆผมก็ง่วง..แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำผนังด้านหน้าที่ค้างคาอยู่ให้เสร็จ..ถึงจะนอน..ฉาบกับพี่เจีย..มันไม่ง่ายเลย..เมื่อยมือ..ล้า..แทบหมดแรง..พักก่อน..แม่ครัวตั้มถั่วเขียวมาตั้งไว้..กินต้มถั่วเขียว..ไม่คิดเลยว่าพลังถั่วเขียวจะคึกขนาดนี้..มีแรงขึ้นมาทันที..

                พักนั่งเล่นกีต้าร์..แป๊บเดียว..ทำงานต่อ..คึก..เพราะต้มถั่วเขียว..

                เวลาดึกขึ้นๆ เที่ยงคืนผ่านไป ตีหนึ่งผ่านไป.. ชาวค่าย..เริ่มหายไปมากขึ้น..เหลือแต่ผู้ที่กร้านชีวิต..สู้กันต่อ..ตีสองผ่านไป..ตีสามผ่านไป..ตีสี่ผ่านไป..เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง..เริ่มปาดฟองน้ำ..เรียบนะ..สำหรับเรา...ตีห้า..เสร็จพอดี..พอดูได้..ต้องพึ่งสีนิดหน่อย..รับรอง..สวยงาม..วางเกรียง..ล้าง..ไปอาบน้ำ..นอน..ฟ้าเริ่มสางพอดี..

                แต่มีน้องๆชาวค่ายบางคน..ยังไม่นอน..ยังต่อได้อีก..ได้ใจพี่จริงๆเลยน้อง

 

23 ต.ค. 2553

                ตื่นมา..แปดโมงครึ่ง..ไม่ได้ออกกำลังกายเลย..เสียดาย..ลุกไม่ไหว..ง่วง..เพลีย..

                แปรงฟัน..ล้างหน้า..น้องๆกำลังสันทนาการเด็กๆ..เนื่องจากวันนี้เป็นวันสันทนาการ..เป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะปิดค่ายในวันพรุ่งนี้ วันนี้เป็นวันออกพรรษา มีการทำบุญที่วัดที่อยู่ติดกับโรงเรียน ชาวบ้านก็เลยมอบกับข้าว ข้าวต้มมัด มาเยอะแยะ ผมก็อาศัยข้าวพระล่ะมื้อนั้น..

                วันนี้อากาศดี แดดแรง ลมเย็น ชาวค่ายบางส่วนก็ยังคงทำโครงงานหลักอยู่ ด้านกำแพงที่ผมช่วยกันฉาบเมื่อคืน บัดนี้ น้องๆกำลังช่วยกันทาสีอยู่ ถึงฝีมือฉาบจะไม่เรียบสักเท่าไหร่ แต่ทาสีแล้ว ยังกับมืออาชีพมาทำเอง..น่าน..ชมตัวเองเห็นๆ..

                เวลาใกล้เที่ยง..บริษัท..ที่ให้การสนับสนุนค่าย..เดินทางมาทำพิธีมอบห้องสมุดให้โรงเรียน..อาจารย์วิโรจน์ ที่ปรึกษาชมรม..ก็มาด้วย..พิธีมอบเป็นไปอย่างเป็นทางการ..ประธานค่ายกล่าว..ตัวแทนบริษัทกล่าว..อาจารย์วิโรจน์กล่าว..ผอ.โรงเรียนกล่าว..มอบของ..ถ่ายรูป..เสร็จพิธี

                เวลาต่อมา ก็พากันไปกินข้าว..ทั้งประธาน..ทั้งอาจารย์..ชาวค่าย..ชาวบ้าน..มื้อนี้มีขนมจีนน้ำยา..แกงเขียวหวาน..และอื่นๆ อีกมากมาย..มีชาวบ้านใจดีนำมาให้พวกเรา..เราก็ตอบสนองน้ำใจของท่านทันที..อิ่มท้อง..และ..อิ่มใจ..

                บ่ายคล้อย..ได้เวลากิจกรรมสันทนาการตอนบ่าย..ผมก็แอบมาเป็นพิธีกรจำเป็นกับพี่เจีย..ฆ่าเวลาที่น้องๆ เตรียมความพร้อม..เล่นกับเด็กๆ..แต่..เอาเด็กไม่อยู่..มีเกมแต่เล่นไม่ได้..เละ..พี่เจียของเราที่รักเด็กมาก..ยังอารมณ์เสียเลย..คิดดู..

                แล้วสันทนาการก็เริ่มขึ้น..มีเกมสนุกๆมากมาย..สไตล์เดิม..และก็ลงเอยด้วยการเตะบอล..ระหว่างชาวค่ายและชาวบ้านหนองแก้ว..ฝนปรอยๆลงมาพอดี..แต่ก็เล่นได้ สักพักฝนหยุด ได้มีโอกาสลงสนามกับเขาในครึ่งแรก..เตะกันไปมา..ปิดท้ายด้วยการยิงจุดโทษ..ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง..ไม่สำคัญ..จบเกม..มอบรางวัล..ถ่ายรูปกันทั้งสองฝ่าย..กระชับมิตร..กระชับใจ

                จากนั้น..ชาวค่ายก็พากันเตรียมการแสดงรอบกองไฟสำหรับคืนนี้..เป็นประเพณีของค่ายอาสา ที่ต้องมีกิจกรรมรอบกองไฟ จัดขึ้นเพื่อมอบความบันเทิงให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านหนองแก้ว..พวกเราอยู่ที่นี่มาเจ็ดแปดวัน..ชาวบ้านหนองแก้วดูแลพวกเราเป็นอย่างดี..พวกเราไม่มีอะไรมากมายตอบแทน..มีแต่การแสดงเล็กๆน้อยๆ เพื่อมอบความสุขและความสนุกสนานให้ทุกๆท่าน..ตอบแทนน้ำใจที่มีให้พวกเราชาวค่าย..

                ท้องฟ้าเริ่มมืดลง..มืดลง..ชาวค่ายก็ซักซ้อมการแสดงกันอย่างเต็มที่..ผมเองก็ไปสอนน้องๆ ควงกระบองไฟ..ไม่อยากเห็นมันหายไปจากชมรม..เพราะตอนนี้..ไม่มีลานเกือกมาให้ซ้อมกระบองไฟเหมือนแต่ก่อน..ค่ายนี้ผมปล่อยให้น้องๆ แสดงฝีมือกันเองโดยที่ผมไม่ได้ร่วมควงด้วย..อยากดูน้องๆ..ทำเอง..เล่นเอง..

                การแสดงหลักๆ ก็มีห้าอย่าง เหมือนกับค่ายก่อนๆ..แต่เปลี่ยนบรรยากาศ..เปลี่ยนสถานที่..เปลี่ยนนักแสดง..เปลี่ยนผู้ชม..เท่านั้นเอง..

                ทางโรงเรียนได้จัดเครื่องไฟมาอลังการมาก ทั้งแสง สี เสียง ยังกับงานวัด ดูมันยิ่งใหญ่มาก..

                ถึงเวลาหัวค่ำ หลังจากกินข้าวเย็นกันเรียบร้อยแล้ว ชาวค่ายก็แยกย้ายทำหน้าที่ของตัวเอง..พิธีกร..เริ่มพูด..ประธานในพิธี..มา..พึ่งรู้นะว่านายอำเภอมาเป็นประธานเองเลย..มาถึงก็ขอไมค์พูดเชิญชวนชาวบ้าน..เอง..สุดยอด..

                ชาวบ้านก็ทยอยกันมา..เด็กๆก็มากับผู้ปกครอง..เมื่อทุกคนพร้อม..เราก็ปล่อยการแสดงชุดแรกออกไป..คือ..ควงกระบองไฟ..ผมได้โอกาสเป็นคนพากษ์ควงกระบอง..ผู้ชมยังตื่นเต้นเหมือนเดิม..ลุ้น..ตลอดเวลา..ว่ามันจะไหม้หัวใครก่อน..

                ต่อมาเป็นการแสดงซูลู..ผม..อีกแล้ว..เป็นล่ามซูลู..เตรี๊ยมกันไว้กับน้องๆ..ตอนเย็น..ห่างหายไปนาน..คิดมุขไม่ออก..ได้แค่นี้..ก็บุญแล้ว..เหอๆ..

                เสร็จแล้วก็เป็นการรำพวงมาลัย..การแสดงของเด็กๆ..แล้ว..มีแถม..การแสดงของรุ่นพี่..เซโรงังแดนซ์..ชาวค่ายฮา..ชาวบ้านงง..

                ต่อไป เซิ้งทะลายโลก...มีละครของชาวบ้านมาแสดงให้เราดูด้วย..เรื่องพระเวสสันดร..ชาวบ้านฮา..ชาวค่าย..งง..

                ปิดท้ายเป็นละครห้ารส..พล็อตเดิม..เล่นครบห้ารส..แล้ว..มีเซอร์ไพรซ์อีก..มีพี่ชาวบ้าน..มาเล่นโฟลค์ซองให้พวกเราฟัง เล่นสองเพลง..อบอุ่นมาก..

                ปิดท้ายด้วยการปิดพิธีรอบกองไฟ..แล้วร้องเพลงสามัคคีชุมนุมร่วมกัน..เป็นอันว่าเสร็จพิธี..

                ชาวค่ายแยกย้ายกันเก็บของ..มีข้าวต้มมื้อดึกเช่นเคย..ค่ายนี้ของกินไม่ขาดปากเลย..หลังจากนั้น..มีเวลาไปอาบน้ำอาบท่า หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน..

                แล้วประธานค่ายก็เรียกประชุม..เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของค่าย..ในคืนนี้ จะมีการเปิดใจ..คือ..การที่ชาวค่ายสามารถระบายความในใจ..ความรู้สึกใดๆ..ออกมาให้ทุกคนได้ฟัง ไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี..แต่เมื่อจบการเปิดใจแล้ว จะต้องไม่มีโกรธเคืองกัน..

                ตอนนั้นดึกแล้ว กว่าจะเปิดใจกันหมดก็ตีสามล่ะมั้ง?..เปิดใจแล้ว..ร้องเพลง..ศรัทธาเมื่อมาค่าย..คะนึง..อาสาพัฒนา..และมีพิธีผูกข้อมือน้องๆ..ครั้งนี้ได้น้องทรายเป็นคนเล่นกีตาร์..หลังจากเพาะบ่มมานาน..ก็พึ่งเห็นเมล็ดงอกงามก็วันนี้แหละ..

                ต่อมาก็เป็น..พิธีการ..นอน..ล่ะครับ..ไม่ง่วงเท่าไหร่แต่กลัวพรุ่งนี้ไม่ไหว..ก็เลยไปนอน..

 

24 ต.ค. 2553

                รู้สึกตัวขึ้นมา แปดโมงกว่าๆ..น้องๆ เริ่มจะเคลียร์ของกันบ้างแล้ว..ก็รีบตื่น ล้างหน้าแปรงฟัน..น้ำ..ไม่อาบ..เหมือนเดิม..

                วันนี้มีการทำบุญเลี้ยงพระ..ขึ้นห้องสมุดใหม่..เข้าไปในครัวก็มีชาวบ้านและชาวค่าย..กำลังทำอาหารอยู่..กลิ่นหอมยั่วน้ำลายโชยมาแต่ไกล..ชาวค่ายต่างก็เก็บกระเป๋า..เก็บพัสดุ..ผมก็เก็บกระเป๋า..เตรียมกลับ..แต่..ยังไม่อยากกลับเลย..

                เวลาผ่านไป..น้องๆ เรียกชาวค่ายกินข้าว..กับข้าวมื้อนี้ก็เป็นอีกมื้อที่อร่อย..ทั้งของชาวค่ายและชาวบ้าน..ยกมาให้ถึงที่..อิ่มท้อง..อิ่มใจ..ไปตามๆกัน

                เวลาใกล้เพล พระกำลังจะมา ชาวบ้านให้ผมยกไก่ต้มตัวโตๆ ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่เขาให้ความเคารพนับถือ อยู่ข้างๆโรงเรียน  เขาบอกว่า..ขออะไรก็ได้..ผมเลยขอให้.....ยาวเลย..ฮ่ะๆ

                เสร็จแล้วไปนั่งไหว้พระ ใส่บาตร ทำบุญ..ชาวบ้านก็มาทำบุญกับเราจำนวนหนึ่ง..นั่งไป ดูคนหลับไป..ดูคนแกล้งคนหลับไป..น้องข้างๆนี่..อยู่ไม่สุขจริงๆ..

                จบจากการทำบุญ พวกเราก็ไปทำพิธีปิดค่าย เข้าแถวครึ่งวงกลม..ประธานกล่าว..ผอ.กล่าว..มอบของ..เชิญธง..ร้องเพลง..ถ่ายรูป..เป็นอันเสร็จพิธี..

                จากนั้น..ก็เป็นการเปิดบัดดี้..แต่ผม..ไม่มีบัดดี้เพราะตามมาทีหลัง..เลยได้แต่ดู..ระหว่างนั้น..ไอ้คุชวนเล่นเกมฟันถั่ว..แต่ถั่วไม่มี..เลยใช้ผักบุ้งไปก่อน..เกมนี้..มีของ..ของใครแรง..ของใครแน่..มาลองดูสักตั้ง..

                และแล้วก็ได้ผู้โชคดี..มาลองของกับเรา..ฟันฉับ..ฉับ..ฟันโดนตลอด..จึงต้องปิดตาข้างเดียว..และก็..ฉับ..ฉับ.. ชาวค่ายต่างก็มามุงดูด้วยความตื่นเต้น..และ..สนุกสนาน..ไม่เล่าแล้ว..เดี๋ยวรู้..เอาเป็นว่า..ฮาละกัน..

                จากนั้นก็เป็นการมอบเกียรติบัตรให้ The Best ประจำค่ายอาสา ค่ายสร้างมักจะมีการโหวตคะแนนเสียงจากชาวค่ายว่า คนใด เป็น The Best ที่สุดของค่าย ซึ่ง..ได้แก่..ตำแหน่ง..หล่อสุด..สวยสุด..ถึกสุด..อู้สุด..จัญไรสุด..ขาเมาท์..ขาแดก..มุกแป๊ก..ขวัญใจชาวค่าย..ฯลฯ..เกียรติบัตรตำแหน่งต่างๆนี้ สามารถนำไปสมัครงานได้..

                มอบรางวัลยังไม่ทันเสร็จ รถมารับแล้ว เป็นรถบัส 2 คัน รถหกล้อ 1 คัน..ใจหายว๊าบ..ถึงเวลาต้องกลับแล้วหรือเนี่ย?..มันรวดเร็วอะไรเช่นนี้..

                พอรถมา..ชาวค่ายก็ช่วยกันขนของขึ้นรถ..เก็บกระเป๋า..เคลียร์ของคืนวัด..คืนโรงเรียน มื้อนั้นยังคงเป็นผัดมาม่าใส่ถุง..ห่อไปกินบนรถ..ไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกว่ามื้อสุดท้ายของค่ายต้องห่อไปกินบนรถ..และ..ต้องเป็นมาม่าผัดด้วย..เห็นมาม่ามาหลายค่ายมากๆ..ที่จริงจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นบ้างก็ได้นะ..

                เวลานั้นประมาณบ่ายสองโมงแล้ว..ชาวค่ายก็ต่างเก็บของขึ้นรถ..ขึ้นไปจับจองที่นั่ง..ชาวบ้าน..ผอ...เด็กๆ..ก็มาส่งพวกเราด้วย ผมอยากไปกับรถบัสมาก..แต่ว่า..ไอ้คุขับรถมาคนเดียว..และมันยังชวนไปเที่ยวน้ำตกอีก..ผมก็เลยต้องไป..และ..มีไอ้โอ..ไอ้แบงก์..ไอ้บาล์ม..พี่ทด..พี่เจีย..ไปด้วย..

                ผมนั่งอยู่ที่สนามเด็กเล่น..รอจนชาวค่ายขึ้นรถไปกันหมด..และรถเริ่มเคลื่อนที่ออกไปจากโรงเรียน..ผมนั่งมองรถวิ่งไปอย่างช้าๆ..ทันทีที่รถลับตาไป..เหลือเอาไว้แต่ความเงียบ..ว่างเปล่า..ถ้าผมเป็นชาวบ้านและเด็กๆ ผมก็คงจะรู้สึกใจหายเหมือนกัน..ผมมองไปรอบๆข้าง..ยังเหลือสิ่งที่เป็นอนุสรณ์แห่งน้ำใจของพวกเราชาวค่าย..นั่นคือ..ห้องสมุด..ถึงแม้มันจะยังไม่เสร็จดี..แต่ก็เต็มที่ของพวกเรา..และอีกไม่นาน..มันก็คงจะเสร็จสมบูรณ์..ถึงแม้มันจะไม่ใหญ่โต..แต่มันก็ยิ่งใหญ่ในใจของพวกเรา..ถึงแม้มันจะไม่สวยงาม..แต่มันก็งดงามในใจของชาวค่ายและชาวบ้านหนองแก้วที่นี่ทุกคน..และ..ถึงมันจะใช้เวลาสร้างอย่างรวดเร็ว..แต่..มันจะอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป..

                นี่เป็นค่ายแรกในบรรดาค่ายยี่สิบกว่าค่ายแล้ว..ที่ผมเคยไปมา..ที่ไม่ได้กลับมอ..กลับกับรถบัส..กลับพร้อมชาวค่าย..เป็นการนั่งดูชาวค่ายจากไป..เหลือไว้แต่ความเงียบเหงา..ได้ความรู้สึกแปลกๆ..อย่างไม่เคยสัมผัสมาก่อน..

                จากนั้นก็ถึงเวลาไปน้ำตก..ไอ้คุขับรถไปอย่างช้าๆ..ไอ้โอขับตามมาทีหลัง..มุ่งหน้าสู่..น้ำตกตะคร้อ..ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณสิบกิโล..

                ไปถึงน้ำตก..แก้ผ้า..เล่นน้ำ..ห้ามทำเสียงอื้อฉาว..น้ำตกกว้างมาก..ไหลเชี่ยวด้วย..เป็นน้ำตกที่ไหลเย็นเห็นใส้เดือน..

                หลังจากเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้ว..ก็ถึงเวลากลับ..ประมาณสี่โมงครึ่งแล้ว..ใจนึงอยากจะไปมอ..ใจนึง..ก็อยากกลับห้องที่โรงงาน..เพราะ..พรุ่งนี้เป็นวันทำงานซะด้วย..ถ้าไปมอ..ถึงนู้นคงดึก..ก็เลยตัดสินใจกลับห้อง..ซึ่งเป็นทางผ่านพอดี..ก็ได้รถเขียวไอ้คุอีกแหละ มาส่งถึงหน้าห้อง..

                เอาเป็นว่า..ทริปนี้..รู้สึกไม่เต็มอิ่มเลย..อาจเพราะเราไปแค่สองวัน..สองคืน..ยังไงก็แล้วแต่..การเดินทางครั้งนี้..ถือว่าคุ้มค่า..ได้ความประทับใจ..ความสุข..กลับมา..และ..ได้เห็นน้องๆ..ก้าวเดินด้วยขาของตัวเอง..เดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยรอยเท้าของรุ่นพี่..ซึ่งเคยเดินมาก่อน..มากมาย..เวลา..อาจทำให้สองข้างทางเปลี่ยนไป..อาจทำให้วิธีการเดินต่างกัน..เล็กน้อย..แต่..พวกเรายังคงเดินทางบนเส้นทางเดียวกัน..

                ไม่มีอะไรน่าสุขใจกว่านี้อีกแล้ว..สำหรับพี่..และพี่ๆ..ทุกคน..

ค่ายตุลาอาสาปันน้ำใจ 17-24 ตุลาคม 2553 ณ โรงเรียนบ้านหนองแก้ว ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

 

ชีวิตคนวัยทำงาน ไม่เหมือนชีวิตวัยเรียน เรียน..มีปิดเทอม ทำงาน..ไม่มีปิดเทอม ยกเว้น..ครู

                ค่าย 8 วัน ไม่สามารถไปได้ 8 วัน ไป 2 วันก็ยังดี 1 วันก็ยังได้ มาแค่สูดกลิ่นค่ายหนึ่งฟ้อด..แล้วก็กลับ..ก็ยังจะมาเลย..

22 ต.ค. 2553

                วันนี้วันศุกร์ วันทำงาน รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ ที่จะได้ไปค่าย..รอมานาน เก็บกระเป๋าเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืน ทำงานรอเวลา จนกระทั่งสามโมงเย็น ขออนุญาตออกก่อนสองชั่วโมง หยิบกระเป๋า..ขึ้นรถ..เดินทาง..มุ่งหน้าสู่..ประจันตคาม..

                ยืนโบกรถข้างทาง..รถมา..ขึ้นรถสาย ระยอง..โคราช มาลงที่กบินทร์บุรี ต่อรถตู้ ลงที่ อ.ประจันตคาม เรียกวินมอไซค์ พี่..ไปโรงเรียนวัดหนองแก้ว

                ตามเส้นทางที่มอเตอร์ไซค์วิ่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนา ทุ่งหญ้า เลี้ยวขวา..ตรงไป..และก็เลี้ยวซ้าย..ถึงโรงเรียนวัดหนองแก้ว..ตอนนั้นประมาณห้าโมงครึ่ง ยังไม่ค่ำ มองเห็นโรงเรียน มองเห็นชุมชน

                จ่ายตังค์วิน..เดินเข้ามาในค่าย..น้องๆ..หวัดดี..ทักทาย..บรรยากาศเก่าๆ แว๊บเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง เดินไปดูโครงงานหลัก..อืม..ยังเหลืออีกเยอะ..วางกระเป๋า..หยิบเกรียงฉาบ..หยิบกระบะตักปูน..ฉาบ..ร่วง..ฉาบ..ร่วง.. 

                ฝีมือตกครับ ไม่ได้แตะมานาน..ฉาบปูนร่วงไปเป็นกระแป๋ง ถึงเริ่มจะติดผนัง..อืม..ภาพเก่าๆ..แว๊บเข้ามาในหัว..สมัยที่ยังเรียนและยังทำค่ายอยู่..มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก..ที่ได้กลับมา..ออกแรง..ทำเพื่อคนอื่น..อีกครั้ง.. 

                ค่ายนี้น้องๆ ตั้งใจไปสร้างห้องสมุด และที่กำลังฉาบอยู่นี้ ก็คือห้องสมุด ก่ออิฐผนังเสร็จแล้ว หลังคามีแล้ว ผนังด้านในฉาบแล้ว ส่วนผนังด้านนอก..กำลังฉาบอยู่ ในใจก็คิดว่า..ทำไม..งานเหลือเยอะจัง..ประเมินคร่าวๆ ถ้าจะฉาบให้เสร็จ..รับรอง..ทั้งคืน..เสร็จพรุ่งนี้แน่ๆ

                ขึ้นนั่งร้าน..ฉาบ..ไปหลายกระแป๋ง..รู้สึกเมื่อยมือ เพราะไม่ได้ออกแรงมานาน มองเห็นชาวค่าย ช่วยกันทำงาน ผสมปูน..ฉาบปูน..ปูกระเบื้อง..ขนปูน..คุยกัน..เล่นกัน..ยิ้มแย้ม..สนุกสนาน..เห็นแล้วมันปลื้มใจ 

                เวลาผ่านไป..ค่ำแล้ว..น้องๆก็เรียกชาวค่ายกินข้าว ชาวค่ายก็พากันพักงานไว้ชั่วคราว..ไปกินข้าว.. 

บรรยากาศกินข้าว ก็ยังเหมือนเดิม มีสันทนาการ..เต้นๆๆๆ..เพลงเดิม..เปิบข้าว..พิจารณาอาหาร..กินๆๆ 

                กับข้าวมื้อนี้..อร่อยจริงๆ..ฝีมือแม่ครัวไม่เบาเลย..ซัดจนกับหมด..ก้างปลาก็ไม่เหลือ..น้ำปลาพริกยังอร่อยอ่ะ..คิดดู.. 

                หลังกินข้าว มีเวลาให้วิ่งเล่นแป๊บนึง..จากนั้น เป็นการประชุมค่าย.. 

                บรรยากาศการประชุม..เหมือนเดิม..ประธาน..นั่งแท่น..ชาวค่ายล้อมรอบ..แนะนำพี่มาใหม่..ติดตามงาน..จบการประชุม..เร็วแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง..เพราะ..จะได้มีเวลาทำโอหรือทำโครงงานหลักที่ยังไม่เสร็จต่อ.. 

                ตอนพวกเราไปกินข้าว ชาวบ้านก็มาช่วยกันฉาบ แบบว่าแท็กทีมกันมา ชาวบ้านน่ารักมาก เห็นแล้วก็ปลื้มใจอีกแล้ว..นี่แหละ..น้ำใจใสบริสุทธิ์..

                ต่อ..จับเกรียง..ฉาบๆๆๆ...ชาวค่ายก็ช่วยกันเหมือนเดิม..สามัคคีกันจริงๆ..เวลาผ่านไป..ดึกขึ้นๆ..ก็เริ่มหายไปทีละคนสองคน..ไปไหน?..ไปนอน..ก็มันง่วง..จริงๆผมก็ง่วง..แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำผนังด้านหน้าที่ค้างคาอยู่ให้เสร็จ..ถึงจะนอน..ฉาบกับพี่เจีย..มันไม่ง่ายเลย..เมื่อยมือ..ล้า..แทบหมดแรง..พักก่อน..แม่ครัวตั้มถั่วเขียวมาตั้งไว้..กินต้มถั่วเขียว..ไม่คิดเลยว่าพลังถั่วเขียวจะคึกขนาดนี้..มีแรงขึ้นมาทันที..

                พักนั่งเล่นกีต้าร์..แป๊บเดียว..ทำงานต่อ..คึก..เพราะต้มถั่วเขียว..

เวลาดึกขึ้นๆ เที่ยงคืนผ่านไป ตีหนึ่งผ่านไป.. ชาวค่าย..เริ่มหายไปมากขึ้น..เหลือแต่ผู้ที่กร้านชีวิต..สู้กันต่อ..ตีสองผ่านไป..ตีสามผ่านไป..ตีสี่ผ่านไป..เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง..เริ่มปาดฟองน้ำ..เรียบนะ..สำหรับเรา...ตีห้า..เสร็จพอดี..พอดูได้..ต้องพึ่งสีนิดหน่อย..รับรอง..สวยงาม..วางเกรียง..ล้าง..ไปอาบน้ำ..นอน..ฟ้าเริ่มสางพอดี..

แต่มีน้องๆชาวค่ายบางคน..ยังไม่นอน..ยังต่อได้อีก..ได้ใจพี่จริงๆเลยน้อง

 

23 ต.ค. 2553

ตื่นมา..แปดโมงครึ่ง..ไม่ได้ออกกำลังกายเลย..เสียดาย..ลุกไม่ไหว..ง่วง..เพลีย..

แปรงฟัน..ล้างหน้า..น้องๆกำลังสันทนาการเด็กๆ..เนื่องจากวันนี้เป็นวันสันทนาการ..เป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะปิดค่ายในวันพรุ่งนี้ วันนี้เป็นวันออกพรรษา มีการทำบุญที่วัดที่อยู่ติดกับโรงเรียน ชาวบ้านก็เลยมอบกับข้าว ข้าวต้มมัด มาเยอะแยะ ผมก็อาศัยข้าวพระล่ะมื้อนั้น..

วันนี้อากาศดี แดดแรง ลมเย็น ชาวค่ายบางส่วนก็ยังคงทำโครงงานหลักอยู่ ด้านกำแพงที่ผมช่วยกันฉาบเมื่อคืน บัดนี้ น้องๆกำลังช่วยกันทาสีอยู่ ถึงฝีมือฉาบจะไม่เรียบสักเท่าไหร่ แต่ทาสีแล้ว ยังกับมืออาชีพมาทำเอง..น่าน..ชมตัวเองเห็นๆ..

เวลาใกล้เที่ยง..บริษัท..ที่ให้การสนับสนุนค่าย..เดินทางมาทำพิธีมอบห้องสมุดให้โรงเรียน..อาจารย์วิโรจน์ ที่ปรึกษาชมรม..ก็มาด้วย..พิธีมอบเป็นไปอย่างเป็นทางการ..ประธานค่ายกล่าว..ตัวแทนบริษัทกล่าว..อาจารย์วิโรจน์กล่าว..ผอ.โรงเรียนกล่าว..มอบของ..ถ่ายรูป..เสร็จพิธี

เวลาต่อมา ก็พากันไปกินข้าว..ทั้งประธาน..ทั้งอาจารย์..ชาวค่าย..ชาวบ้าน..มื้อนี้มีขนมจีนน้ำยา..แกงเขียวหวาน..และอื่นๆ อีกมากมาย..มีชาวบ้านใจดีนำมาให้พวกเรา..เราก็ตอบสนองน้ำใจของท่านทันที..อิ่มท้อง..และ..อิ่มใจ..

บ่ายคล้อย..ได้เวลากิจกรรมสันทนาการตอนบ่าย..ผมก็แอบมาเป็นพิธีกรจำเป็นกับพี่เจีย..ฆ่าเวลาที่น้องๆ เตรียมความพร้อม..เล่นกับเด็กๆ..แต่..เอาเด็กไม่อยู่..มีเกมแต่เล่นไม่ได้..เละ..พี่เจียของเราที่รักเด็กมาก..ยังอารมณ์เสียเลย..คิดดู..

แล้วสันทนาการก็เริ่มขึ้น..มีเกมสนุกๆมากมาย..สไตล์เดิม..และก็ลงเอยด้วยการเตะบอล..ระหว่างชาวค่ายและชาวบ้านหนองแก้ว..ฝนปรอยๆลงมาพอดี..แต่ก็เล่นได้ สักพักฝนหยุด ได้มีโอกาสลงสนามกับเขาในครึ่งแรก..เตะกันไปมา..ปิดท้ายด้วยการยิงจุดโทษ..ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง..ไม่สำคัญ..จบเกม..มอบรางวัล..ถ่ายรูปกันทั้งสองฝ่าย..กระชับมิตร..กระชับใจ

จากนั้น..ชาวค่ายก็พากันเตรียมการแสดงรอบกองไฟสำหรับคืนนี้..เป็นประเพณีของค่ายอาสา ที่ต้องมีกิจกรรมรอบกองไฟ จัดขึ้นเพื่อมอบความบันเทิงให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านหนองแก้ว..พวกเราอยู่ที่นี่มาเจ็ดแปดวัน..ชาวบ้านหนองแก้วดูแลพวกเราเป็นอย่างดี..พวกเราไม่มีอะไรมากมายตอบแทน..มีแต่การแสดงเล็กๆน้อยๆ เพื่อมอบความสุขและความสนุกสนานให้ทุกๆท่าน..ตอบแทนน้ำใจที่มีให้พวกเราชาวค่าย..

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง..มืดลง..ชาวค่ายก็ซักซ้อมการแสดงกันอย่างเต็มที่..ผมเองก็ไปสอนน้องๆ ควงกระบองไฟ..ไม่อยากเห็นมันหายไปจากชมรม..เพราะตอนนี้..ไม่มีลานเกือกมาให้ซ้อมกระบองไฟเหมือนแต่ก่อน..ค่ายนี้ผมปล่อยให้น้องๆ แสดงฝีมือกันเองโดยที่ผมไม่ได้ร่วมควงด้วย..อยากดูน้องๆ..ทำเอง..เล่นเอง..

การแสดงหลักๆ ก็มีห้าอย่าง เหมือนกับค่ายก่อนๆ..แต่เปลี่ยนบรรยากาศ..เปลี่ยนสถานที่..เปลี่ยนนักแสดง..เปลี่ยนผู้ชม..เท่านั้นเอง..

ทางโรงเรียนได้จัดเครื่องไฟมาอลังการมาก ทั้งแสง สี เสียง ยังกับงานวัด ดูมันยิ่งใหญ่มาก..

ถึงเวลาหัวค่ำ หลังจากกินข้าวเย็นกันเรียบร้อยแล้ว ชาวค่ายก็แยกย้ายทำหน้าที่ของตัวเอง..พิธีกร..เริ่มพูด..ประธานในพิธี..มา..พึ่งรู้นะว่านายอำเภอมาเป็นประธานเองเลย..มาถึงก็ขอไมค์พูดเชิญชวนชาวบ้าน..เอง..สุดยอด..

ชาวบ้านก็ทยอยกันมา..เด็กๆก็มากับผู้ปกครอง..เมื่อทุกคนพร้อม..เราก็ปล่อยการแสดงชุดแรกออกไป..คือ..ควงกระบองไฟ..ผมได้โอกาสเป็นคนพากษ์ควงกระบอง..ผู้ชมยังตื่นเต้นเหมือนเดิม..ลุ้น..ตลอดเวลา..ว่ามันจะไหม้หัวใครก่อน..

ต่อมาเป็นการแสดงซูลู.

หมายเลขบันทึก: 405222เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2010 21:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อ่านไปก้อนึกถึงค่ายไป นึกขำๆ ว่าไม่ได้เตรียมตัวจะไปแต่ก้อไปรุตัวอีกทีก้ออยู่ที่ค่ายแระ ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก แต่เดียร์ก้อคิดว่าขอเป็นส่วนหนึ่งหรือส่วนร่วมซักเล็กน้อยก้อยังดี อิอิ

อาหารวันสุดท้ายได้แพรวมาเป็นแม่ครัวใหญ่ ด้วยนะ

ค่ายหน้าเจอกานเน้อ จะพยายามไป

เพราะมีใครซักคนบอกไว้ว่าอย่าทิ้งค่ายอย่าทิ้งชมรม ดังนั้น คำพูดต้องเป็นคำพูด จะพยายามไปให้ได้ นิส...นึงก้อยังดี 5555+

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท