อาม่าเล่าเรื่อง (๑๐) ของฝากเมืองจีน


       อาม่าได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีนเมื่ออายุ ๖๐ ปี พอดี โดยเดินทางไปพร้อมกับน้องชาย (อากู๋) โคราช และ น้องสาว (อาอี้) กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งคู่เคยเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีนมาก่อนแล้ว การไปครั้งนี้จึงเป็นไปได้ด้วยดี โดยเดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ไปลงที่เกาะฮ่องกงก่อน แล้วนั่งรถยนต์ต่อไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยการใช้บริการเรือขนส่งขนาดใหญ่ ที่สามารถนำรถยนต์ลงไปในเรือแล้วเมื่อเดินทางไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ก็เดินทางต่อไปด้วยรถยนต์คันเดิมจนถึงโรงแรมที่พักในซัวเถา  ต่อจากนั้นญาติที่เมืองจีนก็จะมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านเกิด  สำหรับอาม่านั้น อากู๋ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของอาม่าเป็นผู้เดินทางมารับ และได้พักอยู่ที่บ้านอากู๋คนนี้ในช่วงที่อยู่ที่เมืองจีน  และอากู๋คนนี้ต่อมาก็ได้เดินทางมาเยี่ยมอาม่าที่เมืองไทยด้วยในปี พ.ศ. ๒๕๔๕

 

ภาพอากู๋โคราช พาอากู๋จากเมืองจีน ๒ คน และอากู๋จากไต้หวัน

มาเยี่ยมอาม่าที่บ้านปักธงชัยเ มื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

          อาม่าเล่าให้ฟังว่า  คนจีนที่มาอยู่เมืองไทยแล้วสามารถเดินทางกลับไปเยี่ยมพ่อแม่และญาติพี่น้องที่ประเทศจีนได้นั้น ทางญาติ ๆ ที่ประเทศจีนจะเข้าใจว่าอยู่ที่เมืองไทยสบายและร่ำรวยกันทุกคน ดังนั้นเขาจะพากันคาดหวังว่าการกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดจะต้องนำเงินนำทองและสิ่งของต่าง ๆ ไปมอบให้ญาติ ๆ กันทุกคน  ในสมัยเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ประธานเหมาเจ๋อตุงเพิ่งเสียชีวิตไปใหม่ ๆ สิ่งของที่ประชาชนชาวจีนต้องการเป็นของฝากนอกเหนือไปจากเงินทองแล้วก็จะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ  ที่อาม่านำไปฝากญาติในคราวนั้น เป็นสิ่งของที่ผู้จัดการทัวร์จะจัดให้คนละ ๑ ชุด ประกอบด้วย จักรเย็บผ้า  รถจักรยานสองล้อ ผ้าห่ม ผ้าพับสำหรับตัดเสื้อผ้า นาฬิกาข้อมือ  อย่างละ ๑ ชิ้น  โดยทางผู้จัดการเกี่ยวกับการเดินทาง จะเป็นผู้จัดการเรื่องการจัดซื้อจัดหาจากฮ่องกง และนำส่งจนถึงที่ปลายทางประเทศจีนให้ตามที่อยู่ที่ระบุด้วย แต่มีข้อจำกัดว่าหนึ่งท่านต่อ ๑ ชุดเท่านั้น  อาม่าเล่าว่า  ทั้งสามคนคืออาม่าเอง อากู๋โคราช และ อาอี้กรุงเทพฯ ได้ซื้อวิทยุขนาดเล็ก ที่ฮ่องกงราคาถูกกว่าไปฝากญาติด้วยคนละหนึ่งเครื่อง โดยเอาใส่กระเป๋าเสื้อผ้าไปเอง

          ช่วงที่พักอยู่ที่บ้านอากู๋เมืองจีน ก็จะมีคนเอาของต่าง ๆ มาเสนอขายให้เกือบทุกวัน เพราะจะเป็นที่เข้าใจว่า แขกผู้มาเยี่ยมญาติจากเมืองไทยที่เรียกกันว่า “เซี่ยมแขะ” จะมีเงินและซื้อของฝากต่าง ๆ กลับมาเมืองไทยจำนวนมาก ทำให้ผมคิดถึงในสมัยโน้นตอนที่ผมไปทำงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์   ได้รับทราบว่าเวลา คนไทยไปช๊อปปิ้งที่สิงคโปร์ พวกพ่อค้าแม่ค้าที่สิงคโปร์จะเรียกกันว่า “เซี่ยมตือ” มาแล้ว “ ไม่รู้ที่เมืองจีนจะเหมือนกันหรือเปล่า  สิ่งที่อาม่าซื้อกลับมาจากเมืองจีนก็คือ หยกเมืองจีนจำนวนหลายเม็ด และหยกสีเขียวหนึ่งเม็ดในจำนวนนี้ อาม่าเอาไปทำเป็นหัวแหวนทองคำ มอบให้ผมในช่วงที่ผมย้ายจากเชียงใหม่มาทำงานที่โคราชในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ แหวนทองหัวหยกวงนี้ จะเป็นแหวนที่ผมใส่ติดนิ้วมาจนถึงในปัจจุบัน

          ของที่อาม่านำกลับมาจากเมืองจีนในครั้งนั้นอีกอย่างที่ผมได้รับก็คือ ชามกระเบื้องเซรามิก ที่อากู๋ ที่เป็นน้องชายแท้ ๆ มอบให้มา  เป็นชามกระเบื้องเก่า ที่อากู๋บอกว่า มีอายุมากกว่าร้อยปีแล้ว  ผิวของชามมีลักษณะแตกเป็นลายงา มีลวดลายเป็นรูปดอกไม้ ที่ด้านล่างของชามมีตัวหนังสือจีนอยู่หนึ่งตัว  ผมเอาไปถามอาม่าว่ามันอ่านว่าอะไร  อาม่าบอกว่าตัวหนังสือตัวนั้นอ่านว่า “สุง” แปลเป็นไทยว่า “อยู่เย็นเป็นสุข” คำที่ปรากฏอยู่ใต้ชามนี้ หมายถึงอะไร อาม่าไม่แน่ใจ  ท่านใดมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอความกระจ่างด้วยครับ

หมายเลขบันทึก: 402303เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2010 15:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม 2013 10:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณค่ะ..ได้สัมผัสวัฒนธรรมในยุคนั้นมากมาย..และมีชามเก่าให้ชมด้วยค่ะ

                           

สวัสดีค่ะ

      ชอบเข้ามาอ่านบันทึกของคุณ Panda ค่ะ เพราะชอบฟังเรื่องเล่าจากอาม่า

เหมือนได้ฟังญาติผู้ใหญ่เล่าเรื่องการเดินทางผจญภัยของบรรพบุรุษ เป็นเรื่อง

จริงที่น่าสนใจ  ที่ไม่มีสอนในตำราประวัติศาสตร์ค่ะ

                     

  • ขอบคุณ พี่ใหญ่ มากครับ ที่แวะมา
  • ตัวหนังสือคำว่า "สุง" ที่ใต้ชามเก่า ถ้าเป็นชามที่ผลิตเพื่อเป็นของที่ระลึก อาจจะเป็น คำเพื่อให้เป็น ศิริมงคล แก่ผู้รับ ในกรณีนี้ น่าจะเขียนไว้ในที่เห็นเด่นชัด (ด้านบนมากว่า)
  • การที่เขียนไว้ด้านล่าง ผมคิดว่า อาจจะเป็น "ชื่อ ผู้ผลิต หรือ ชื่อ โรงงานที่ผลิต"
  • ไม่ทราบว่า มีท่านไหนมีความรู้ในเรื่องนี้บ้างครับ
  • ขอบคุณ KRUDALA  มากครับ
  • เป็นเรื่องที่ผมได้รับการบอกเล่าจากการเดินทางและชีวิตจริงของ อาม่า ครับ
  • ช่วงนี้ผมจะไปอยู่กับ อาม่า ในวันที่มีเวลาว่างครับ ก็หาโอกาสสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิต เพราะ ผู้สูงอายุ จะมีความสุข เมื่อได้เล่าเรื่องเก่า ๆ ครับ

 

  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาชมของฝากจากเมืองจีนค่ะ "ชามกระเบื้องเซรามิก" ใต้ชามยังมีตัวหนังสือ ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายดี ๆ แปลกดีค่ะ
  • มีความสุขกับวันฝนตกนะค่ะ

                               

อ่านแล้วนึกถึงสมัย พ่อ กับแม่ ไปเมืองจีน เมื่อหลายปีก่อน เมื่อไปถึง ต้องจัดเลี้ยงญาติ ในหมู่บ้านอย่างน้อย 1 มื้อ

และแม่เล่าให้ฟังว่าของไหว้บรรพบุรุษทีฮวงซุ้ย ไม่ได้มากมาย หลายชนิดเหมือนเมืองไทย

  • อาจารย์ Panda คะ
  • ถามพ่อแล้ว พ่อบอกว่า คำนี้ ภาษาแต้จิ๋ว อ่านว่า "สุง" ภาษาจีนกลาง อ่านว่า "ซุ้ง" แปลว่า ราบรื่น
  • พ่อยังยกตัวอย่างว่า เวลาใครจะเดินทางออกทะเล จะอวยพรกันว่า "สุ่งสุง" แปลว่าเดินทางโดยสวัสดิภาพนะ
  • เพราะฉะนั้น คนที่ให้ชามใบนี้มาก็คงจะเป็นการอวยพรให้ผู้ไปเยี่ยมเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพน่ะคะ
  • ขอบคุณ Ico48 และ Ico48 แวะมาครับ
  • ขอบคุณมากครับ อาจารย์ Ico48 ที่กรุณาถามคุณพ่อมาเสริมข้อมูลให้ครับ
  • โดยเฉพาะที่ว่า "คนที่ให้ชามใบนี้มาก็คงจะเป็นการอวยพรให้ผู้ไปเยี่ยมเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพน่ะคะ" ทำให้ชามนี้มีความหมายขึ้นมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท