เมื่อผมลงมาปิดหน้า จนรู้สึกว่า “รำคราญ”
มันง่ายดีนะคะ กับความไม่พอใจที่จะเกิดขึ้น ช่วงนี้ผมที่อยู่บนหัว มักจะต้องโดนมัด โดนกิ๊ฟ หนีบไว้เสมอ จนทำให้พอจะเข้าใจว่า “ทำไมพระท่านจึงต้องโกนผม”
เพราะการไมมีผม ลดเหตุปัดใจของความขุ่นมัวไปได้มาก
รู้สึกรำคาญจนอยากจะตัดทิ้ง แต่ก็บอกตนเองว่า อยากตัดนักใช่ไหมได้
“งั้นก็ไว้ผมยาว”
เป็นคำง่าย ๆที่มันดังขึ้นขณะเดินข้ามถนนกลับจากทานข้าวเที่ยง
เมื่อสิ่งที่ต้องเรียนรู้ มันอยู่ภายในตนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้สิ่งไกล ๆ ก็เอามันตรงนี้แหละ
รู้สึก “เบื่อ” เหมือนกัน กับการที่ต้องคอยวิ่งไป วิ่งมา แล้ว ปัญญาก็ไม่มี
ตอนนี้ในใจรู้สึกเหมือนหมา “จนตรอก”
รู้สึกเหมือนโดนบีบคั้นอยู่ทุกขณะ จนอยากจะหนีไปเล่นเกม หนีไปทำอย่างอื่น “ฆ่าเวลา”
แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่า เพราะก็แค่ “ยาชา” ดูท่าทางจะเป็นยาชาเฉพาะที่ซะด้วยซิ
ไม่ได้เป็นยารักษาอาการผิดปกติ บ้าบอที่เป็นอยู่เลย
การรับยาชาบ่อย ๆ นาน ๆ ไปก็ดูจะดื้อยา
ดู ๆ ไป แล้ว ชักจะไม่ไหว
งั้นก็ รักษากันแบบ ดิบ ๆ สด ๆ ไปเลยละกัน ทำไงได้ ก็มันยังโง่อยู่
อยากทำอะไร ก็ไม่ต้องทำ
จะตายก็ให้มันรู้ไป
เขียนข้อความข้างบนเสร็จเห็นโทสะมันพุ่งปี๊ด แต่ตอนนี้ก็เบาลงละ นี่อะไรเหรอ
ผม ทั้ง ๆที่ ความรู้สึกหวงแหนไม่มี แต่มาพิจารณาดู ท่าทางมันจะเป็นความรู้สึกผลักไสนะ ที่ปรากฏขึ้น
มันก็เป็นแรงผลักเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนข้าง จากที่เคยรัก
เคยหวงแหน มันก็เปลี่ยนมาเป็น ผลักไส
ไม่ใช่ความเบาสบายในใจเลย................ยังโง่อยู่หนอ
ไม่มีความเห็น