หัดเขียนเรื่องเล่า

กรกฎา 52  อสม.ตำบลคลองนารายณ์ กว่า 100 คน นั่งฟังเรื่องโรคระบาดใหม่ที่กำลังเป็นข่าว ว่าระบาดอยู่ทั่วประเทศอย่างตั้งใจ  เพราะนอกจากเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่รู้แล้ว  เหตุผลที่ต้องฟังอย่างตั้งใจเป็นเพราะผู้ที่พูดให้ฟัง กำลังแจ้งว่า ตำบลคลองนารายณ์มีผู้ป่วยแล้วเป็นรายที่ 4 ของจันทบุรี  เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าหลังจากสิ้นสุดการประชุมในวันนั้นแล้ว ข่าวร้ายและข่าวดี คงถูกแจ้งและกระจายไปสู่ประชาชนตำบลคลองนารายณ์อย่างรวดเร็ว  และผลที่ตามมาก็คือไม่ว่าจะเป็นไข้ เป็นหวัด ไอ จาม น้ำมูก ทุกอาการที่เข้าข่าย มากบ้างน้อยบ้างก็ไปหาหมอกันทุกคน   mask ที่เคยเบิกใช้ที่สถานีอนามัยปีละ ไม่ถึงกล่อง หมดภายในครึ่งวัน   โชคดีที่เหตุการณ์ความตื่นตัวดังกล่าวมีระยะเวลาไม่นานไม่เช่นนั้น และโชคร้ายก็คือพฤติกรรมการป้องกันโรคของคนคลองนารายณ์เกลับมาเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีโรคระบาดที่น่ากลัวเกิดขึ้นเลยในความทรงจำ

มกรา 53  คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.คลองนารายณ์ อสม. และประชาชนส่วนหนึ่งถูกเกณฑ์ไป ทำแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ ของตำบลคลองนารายณ์ อย่างเสียไม่ได้ เต็มใจบ้าง จำใจบ้าง  รวมสามวันสองคืน ก็ได้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ของกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.คลองนารายณ์ ทั้ง 1 ปี  3 ปี  5 ปี ตามลำดับ 

24 มีนา 53 วันวัณโรคโลก ปีนี้มีข่าวงานวัณโรคโลกทางทีวี  ตัวแทนอสม.เข้าอบรมติดตามการกินยา    อนามัยต้องจัดนิทรรศการ  สรุปรายงานเคสวัณโรค นับไปนับมาปีที่ผ่านมา เคสวัณโรคล้มหายตายจากไป 4-5 คน แต่สาเหตุการตายไม่ได้ระบุว่าวัณโรค   แต่ก่อนตาย 4-5 รายนี้เป็นผู้ป่วยวัณโรคที่กำลังรับยาทั้งสิ้น

กรกฎา 53  คนส่วนใหญ่เกือบลืมไปแล้วว่า มีโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 อยู่ในโลกใบนี้ แต่คนคลองนารายณ์ ไม่ลืม   สาเหตุการตายของคนงานทำสวนหนุ่ม  ร่างกายแข็งแรง แบบกะทันหันยังครุมเครือ   “หมอไม่เห็นบอกอะไรเลย”   “ไปโรงพยาบาลวันเดียวตาย”   “ช็อคเบาหวาน”  แต่คำตอบสุดท้ายของข้อสงสัยคือ 2009 

ถึง  สิงหา 53  ด้วยความที่ตายคนแรกแรกของจังหวัด  ข่าวก็ดังเป็นพิเศษ แล้วปีนี้ไม่เหมือนปีที่แล้วไม่มีการเตือน ไม่มีข่าวระบาด  รู้อีกทีคนใกล้ๆ บ้านเรานี่เองก็เป็น 2009 ตายเสียแล้ว  ความตื่นตัวเกิดขึ้นในคนที่รู้ข่าวและคนในวงการ( อสม. อบต. โรงเรียน) โจทย์ก็คือ ทำยังไงให้พฤติกรรมการป้องกันโรคขั้นพื้นฐานกลับมา  และอยู่กับคนคลองนารายณ์นานหน่อย หรือตลอดไป คิดคนเดียวไม่ออกต้องช่วยกันคิด 

ปลาย สิงหา 53  เมื่อครั้งที่ร่วมกันทำแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์  แขนงหนึ่งของความต้องที่จะเห็นจากการทำแผนที่ความคิด ที่ยังไม่ได้นำมาต่อยอดตาราง 11 ช่อง ก็คือ  การปัญหาโรคระบาดอย่างทันท่วงที  ถูกนำมาผ่านกระบวนการคิด ทั้งเดียว ทั้งกลุ่ม อย่างเป็นทางการ(ในประชุมกลุ่ม)  และอย่างไม่เป็นทางการ  อีกครั้ง เป็นแผนภายใน 1 เดือน อยู่ภายใต้หลักการของการตีเหล็กต้องตีตอนร้อน  คือ  การรณรงค์เพื่อให้ประชาชนในตำบลคลองนารายณ์ มีความรู้  เห็นความสำคัญ  และเชื่อมั่นว่า ตนเองสามารถเป็นผู้ป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจที่น่ากลัว ได้ด้วยตนเอง 

ต้น กันยา 53 อบต. อนุมัติเงิน และแรงงานมาช่วยจัดงาน  อสม.ประชาสัมพันธ์งานและเตรียมงาน  หมออนามัยเตรียม นิทรรศการ และ กิจกรรม  ประชาชนทุกหลังคาเรือนได้รับข่าวการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างทั่วถึง

24 กันยา 53   กิจกรรมรณรงค์โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ จัดขึ้น ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดสระบาป  เป้าหมาย  250 คน คาดว่าซักบ้านละคน ผู้จัดก็หน้าบานแล้ว แต่ยอดลงทะเบียน เกือบสามร้อย  อสม.ประชาสัมพันธ์ทะลุเป้าจริงๆ  ผู้ร่วมรณรงค์ได้รู้จักโรคที่ติดกันทางการหายใจ  ทั้งแบบรุนแรงและแบบเรื้อรัง   รู้วิธีป้องกันตนเอง  และรับผิดชอบสังคมด้วยการป้องกันคนอื่นในกรณีที่เราป่วย  วิธีล้างมือที่สะอาดกว่าเดิม  กินร้อน ช้อนกลางฯ ไม่ใช่เรื่องที่ทำยากอย่างที่คิด วัณโรคโรคที่กำลังจะกลับมา  จากวิทยากรที่พูดภาษาเดียวกับชาวบ้าน  ได้ความรู้ ความสนุก กันเอง รู้จริง ลองทำจริงเพื่อเกิดทักษะและความเชื่อมั่น ...

ปัจจุบัน  ยอดผู้ป่วย 2009 ปีนี้หยุดอยู่ที่  4 ราย  และไม่มีคนตายเพิ่ม  ส่วนวัณโรคนั้นคงต้องดูกันในระยะยาว เห็นคนใส่หน้ากากอนามัยกันมากขึ้น ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่แต่เดิมคิดว่าใส่แล้วอึดอัด ผู้ป่วยต้องสงสัย เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะป่วยจริงไม่ใช่เพราะความตื่นตูม  ในทางวิชาการดัชนีชี้วัดความสำเร็จของโครงการคือตัวเลข  ร้อยละ นัยสำคัญทางสถิติ  แต่ความร่วมมือกันของชุมชนเพื่อกำจัดความไม่รู้ ให้กับเพื่อนร่วมตำบลคงไม่สามารถประเมินเป็น ตัวเลขทางวิชาการเหล่านั้นได้ เพียงแต่สร้างความภูมิใจเล็กๆให้กับคนทำงานด้านสุขภาพในระดับรากหญ้า ของตำบลคลองนารายณ์  ให้มีแรงขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพในระดับตำบลต่อไป