หลายท่านที่ทำงานด้านรังสีการแพทย์แต่ยังมีข้อสงสัยว่าเวลาดูสเปคเครื่องเอกซเรย์จะดูว่าค่าอะไรที่สำคัญๆบ้างจะได้เลือกใช้หรือเลือกซื้อเครื่องใหม่ได้ถูกต้องครับ
กำลังของเครื่องจะนับเป็น kilowatts(kw.) โดยปกติแล้วจะคิดจาก output ที่จ่ายออกมาจาก gerenerator หรือเรียกว่าเป็นกำลังงานที่ให้ออกมา (loading power) จะได้จากสูตร loading power = kV(ที่ตั้ง) x mA(ที่ใช้)
เช่น ถ้าให้กำลังสูงสุดออกมา(maximum loading power) 50kw.
แสดงว่าเมื่อตั้งค่า kV.สูงสุด 120kV. จะตั้งค่า mA. มากที่สุดเท่ากับ 416.66 mA.
และเมื่อเลือกใช้ 500 mA. ก็จะตั้งค่า kV. ได้สูงสุดเพียง 100kV. เท่านั้น
จากตัวอย่างก็จะเห็นว่าถ้าเครื่องใดที่มีค่า loading power สูงก็แสดงว่าสามารถให้ค่า mA.และ kV. ได้สูงกว่าเครื่องที่มี loading power ต่ำกว่า ซึ่งทำให้เลือกใช้ sec. ที่สั้นมากๆ ได้ช่วยลดการเกิด motion artifacts ได้ดีขึ้น
แต่การเลือกใช้เครื่องที่มีค่า loading power สูงก็จะมีราคาเครื่องที่สูงกว่าเครื่องที่มีขนาด loading power ต่ำ ดังนั้นควรเลือกเครื่องให้เหมาะกับงาน โดยทั่วไปอาจเลือกดังนี้
ขนาดเครื่อง น้อยกว่า 20kW มักเป็นเครื่อง portable
21-30kw เหมาะสำหรับเอกซเรย์ทั่วไป อวัยวะที่ไม่หนามากนัก chest, แขนขา เป็นต้น
31-40kw เหมาะสำหรับการถ่ายเอกซเรย์ทั่วไปทั้ง chest, abdomen, skull spine
41-50kw เหมาะสำหรับการถ่ายเอกซเรย์ทั่วไปและตรวจพิเศษเช่น IVP,spine, pelvis
51-80kw เหมาะสำหรับติดตั้งระบบ fluoroscopy, Angiography, DSA เป็นต้น
สำหรับเครื่อง CT. อาจต้องคำนึงปัจจัยอื่นๆประกอบกับ maximum loading power โดยเฉพาะเรื่องของ Heat capacity, Cooling rate กับเรื่องของ Scantime ด้วยครับ
ไม่มีความเห็น