ความรู้ทั่วไปและพื้นฐานการวิจัยชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียน
ในการออกแบบแผนการวิจัยนั้นมีองค์ประกอบที่สำคัญๆ บางส่วนที่ควรจะมี ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้มักจะเป็นปัญหาค่อนข้างมากสำหรับผู้ที่เริ่มทำวิจัย องค์ประกอบดังกล่าว ได้แก่
1. โจทย์วิจัยและคำถามการวิจัย (Research problem and question) ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด เพราะการทำวิจัยจะทำไม่ได้เลยหรือถ้าหากทำได้ก็เป็นการทำที่ผิดทิศทาง ถ้านักวิจัยไม่มีโจทย์หรือคำถามการวิจัยที่ชัดเจน ทั้งนี้เนื่องจากการทำวิจัยนั้นจะเริ่มจากความสงสัย การมีปัญหาใคร่รู้คำตอบเกี่ยวกับตัวแปรหรือความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ดังนั้นหากไม่สงสัยหรือไม่มีโจทย์เสียแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำการวิจัยไปเพื่ออะไร
โจทย์วิจัยหรือปัญหาการวิจัย (Research problem) และคำถามการวิจัย (Research question) นี้บางครั้งก็ใช้ทดแทนกันได้ในความหมายที่เหมือนกัน แต่ถ้าจะแยกความแตกต่างแล้ว โจทย์วิจัยหรือปัญหาการวิจัยก็จะมีการนำไปใช้ที่กว้างกว่าคำถามการวิจัย นั่นคือ เมื่อกำหนดโจทย์วิจัยหรือปัญหาการวิจัยได้แล้วก็นำปัญหานั้นๆ มาแยกแยะตั้งเป็นคำถามย่อยๆ ซึ่งประเด็นคำถามย่อยๆ นี้ ก็คือ คำถามการวิจัย (Research question) นั่นเอง
2. กรอบเชิงทฤษฎีและกรอบแนวคิด (Theoretical and conceptual framework) ในการดำเนินงานวิจัยเรื่องใดๆ ก็ตาม ปัญหาการวิจัยและแนวทางที่จะหาคำตอบให้กับปัญหามิได้เกิดมาบนความว่างเปล่า หากล้วนแต่ต้องมีพื้นฐานที่มาที่จะช่วยอธิบายเชื่อมโยงระหว่างปรากฏการณ์หรือตัวแปรต่างๆ ที่ผู้วิจัยสนใจศึกษาหาคำตอบ ซึ่งพื้นฐานดังกล่าว ได้แก่ ทฤษฎีและข้อค้นพบบางอย่างจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์หรือตัวแปรที่ผู้วิจัยจะศึกษา ถ้าทฤษฎีและข้อค้นพบจากงานวิจัย (เดิม) นี้ มีการเขียนในลักษณะเป็นรูปแบบหรือแบบจำลอง รูปแบบหรือแบบจำลองนี้ก็คือ กรอบเชิงทฤษฎี (Theoretical framework) นั่นเอง
สำหรับกรอบแนวคิดการวิจัย (conceptual framework) นั้นก็คือ กรอบเชิงทฤษฎีที่ลดรูปลงมาเพื่อใช้สำหรับการวิจัยในเรื่องนั้นๆ กล่าวคือ ในขณะที่กรองเชิงทฤษฎีได้แสดงให้เห็นถึงปัจจัยหรือความสัมพันธ์ของตัวแปรทั้งหมดที่นักวิจัยต้องศึกษาที่มาจากทฤษฎีแนวคิดและผลงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อดำเนินการวิจัยในเรื่องดังกล่าว นักวิจัยได้พิจารณาลดตัวแปรบางตัวลง หรือทำให้ตัวแปรบางตัวเป็นตัวแปรคงที่ จึงทำการปรับกรอบเชิงทฤษฎีใหม่ก็จะได้เป็นกรอบแนวคิดการวิจัย (conceptual framework) สำหรับการวิจัยในเรื่องนั้นๆ
3.ขอบเขต (Scope) ข้อจำกัด (Limitation) และข้อตกลงเบื้องต้น (Basic assumption) จากกรณีที่นักวิจัยทำการลดรูปกรอบเชิงทฤษฎีเป็นกรอบแนวคิดการวิจัยดังในหัวข้อที่ผ่านมาก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงขอบเขต (Scope) ของการวิจัย นั่นคือ ถ้าผลการวิจัยเป็นเช่นไรแล้วจะมีขอบเขตในการสรุปอ้างอิงไปสู่เฉพาะนักเรียนในกลุ่มนี้เท่านั้น หากมีปัจจัยหรือตัวแปรที่ไม่ได้ศึกษา (ทั้งๆ ที่มีความสัมพันธ์กับปัจจัยหรือตัวแปรที่ศึกษา) ต้องระบุเป็น ข้อจำกัด (Limitation) ของการวิจัยครั้งนี้ด้วย นอกจากนั้นแล้วถ้านักวิจัยระบุว่าปัจจัยหรือตัวแปรที่ไม่ได้นำเข้ามาศึกษาในครั้งนี้มีผลอย่างสุ่มหรือผลคงที่กับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ การระบุเช่นนี้ก็เรียกว่า ข้อตกลงเบื้องต้น (Basic assumption)
4. กรอบการวิจัย (Research flow chart) กรอบการวิจัยหรืออาจจะเรียกว่า กรอบวิธีดำเนินการวิจัย หมายถึง แผนภูมิที่เขียนขึ้นในลักษณะเป็นผังไหล (flow chart) แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนกิจกรรมและผลที่จะได้รับจากการดำเนินการวิจัยในแต่ละขั้นตอน เพื่อสื่อให้ผู้อ่านงานวิจัยเกิดความคิดรวบยอด (Concept) เข้าใจภาพรวมทั้งหมดของการดำเนินงานวิจัยในเรื่องนั้นๆ
เอกสารอ้างอิง
รัตนะ บัวสนธ์. (2551). ปรัชญาวิจัย (Philosophy of Research). กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรุณี อ่อนสวัสดิ์. (2553). เอกสารประกอบการบรรยาย วิชา ระเบียบวิธีวิจัยขั้นสูง (390611).
พิษณุโลก. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ไม่มีความเห็น