สวัสดีค่ะ พี่ๆน้องๆชาวบลอกทุกคน ครูปองต้องขอโทษด้วยที่เงียบไปไม่มีข่าวคราวเลย เผลอแป๊บเดียวใกล้ถึงวันสอบแล้ว…...จึงต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบกัน วันนี้จึงนำความรู้พื้นฐานของการวิจัยมาฝากให้อ่านกันนะคะ เริ่มจาก ตัวแปรละกันนะคะ
ตัวแปรกับการวิจัย
ตัวแปร : Variable มาจากคำว่า vary = ผันแปร เปลี่ยนแปลง able = สามารถ Variable = สิ่งที่สามารถแปรค่าได้
ตัวแปร คือ คุณลักษณะหรือสภาวะการณ์ต่างๆ ซึ่งแบ่งออกเป็นพวกหรือเป็นระดับหรือมีค่าได้หลายค่า
ตัวแปร คือ สิ่งที่โดยสภาพทั่วไปแล้วสามารถแปรค่าได้ค่าที่แปรออกมาของตัวแปรย่อมมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
ตัวแปร คือ สิ่งที่ผู้วิจัยสนใจที่จะวัดเพื่อให้ได้ข้อมูลออกมาในรูปใดรูปหนึ่ง โดยสรุปแล้ว
ตัวแปร หมายถึง คุณลักษณะของสิ่งต่างๆ ที่สามารถแปรเปลี่ยนค่าได้ เช่น เพศ แปรค่าได้เป็น เพศชายและเพศหญิง ระดับการศึกษา สิ่งที่แปรเปลี่ยนค่าไม่ได้ไม่ถือว่าเป็นตัวแปรเช่น คน แมว แต่ถ้าเป็น เชื้อชาติของคน สีของแมว จะกลายเป็นสิ่งที่แปรเปลี่ยนค่าได้จึงจะถือว่าเป็นตัวแปร
ดังนั้นจากการที่สิ่งทั้งหลายเหล่านี้แปรค่าได้จึงทำให้เกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่า ตราบใดที่สรรพสิ่งแปรเปลี่ยนค่าได้หรือยังมีสภาพเป็นตัวแปรนั้น เราก็ยังสงสัยในตัวแปรหรือสิ่งที่แปรค่าอยู่ร่ำไป จึงกล่าวได้ว่า การวิจัย ก็คือ การค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวแปร
จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า ตัวแปร หมายถึง คุณลักษณะหรือสิ่งที่เราต้องการศึกษา ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการศึกษา เช่นถ้าเป็นบุคคล ตัวแปรก็คือคุณลักษณะที่แปรเปลี่ยนไปในแต่ละบุคคล ได้แก่ ความสูง, รายได้, การนับถือศาสนา, อายุ เป็นต้น
ประเภทของตัวแปร
ตัวแปรในการวิจัยมีอย่างหลากหลาย บางตัวแปรมีหลายชื่อเรียกแม้จะเป็นสิ่งเดียวกันก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทหรือสถานการณ์การวิจัยว่าเป็นการวิจัยประเภทใด ตัวแปรในการวิจัยประกอบด้วย
1. Active variable (ตัวแปรกระทำ) เป็นตัวแปรที่ผู้วิจัยสามารถกำหนดให้กับผู้รับการทดลองได้เช่น วิธีสอน การจัดสอนซ่อมเสริม การจัดสภาพห้องเรียนและอื่น ๆ เป็นต้น มักใช้ในการวิจัยเชิงทดลอง
2. Treatment variable (ตัวแปรเงื่อนไขกระทำ) เป็นสิ่งเดียวกับตัวแปรจัดกระทำและตัวแปรกระทำ ซึ่งเป็นชื่อเรียกในงานวิจัยเชิงทดลองโดยเฉพาะ ตัวแปรนี้ก็คือ เงื่อนไขของการทดลองที่นักวิจัยสร้างขึ้นนั่นเอง
3. Manipulate variable (ตัวแปรจัดกระทำ) หมายถึง ตัวแปรที่เป็นเงื่อนไขที่ผู้วิจัยจงใจตั้งขึ้นเพื่อใช้ในการทดลอง และเพื่อสังเกตผลจากการใช้เงื่อนไขดังกล่าว ดังนั้นตัวแปรจัดกระทำก็คือ ตัวแปรต้น หรือตัวแปรกระทำ หรือตัวแปรทดลอง นั่นเอง
4. Experimental variable (ตัวแปรทดลอง) หมายถึง สิ่งที่ผู้วิจัยจงใจสร้างเป็นเงื่อนไขการทดลองให้กับสิ่งที่จะได้รับการทดลอง เพื่อพิจารณาว่าการให้เงื่อนไขดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลอะไรบ้าง ตัวแปรทดลองนี้ใช้เรียกเฉพาะในงานวิจัยเชิงทดลองเท่านั้น
5. Cause variable (ตัวแปรสาเหตุ) หมายถึง ตัวแปรที่ผู้วิจัยคิดว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอีกตัวแปรหนึ่ง ถ้าเป็นงานวิจัยเชิงทดลอง (Experimental research) ตัวแปรสาเหตุก็คือ เงื่อนไขที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น หากเป็นงานวิจัยที่ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เส้นทาง (Path analysis) ตัวแปรสาเหตุก็คือตัวแปรที่อยู่ตรงโคนลูกศรนั่นเอง
6. Effect variable (ตัวแปรผล) หมายถึง ตัวแปรที่เปลี่ยนค่าไปตามตัวแปรสาเหตุ มักใช้เรียกในงานวิจัยเชิงทดลองแต่ถ้าเป็นงานวิจัยที่ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เส้นทาง ตัวแปรผลก็คือ ตัวแปรที่อยู่ปลายลูกศรนั่นเอง
7. Independent variable (ตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระ) ตัวแปรที่ทำให้ตัวแปรอื่น (ตัวแปรตาม) มีค่าเปลี่ยนแปลงไป ถ้าเป็นงานวิจัยเชิงทดลอง ตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระก็คือตัวแปรทดลองหรือตัวแปรกระทำและเปรียบได้กับตัวแปรสาเหตุในงานวิจัยที่ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เส้นทางนั่นเอง
8. Dependent variable (ตัวแปรตาม) หมายถึง ตัวแปรที่มีค่าแปรผันเนื่องจากอิทธิพลของตัวแปรอื่นๆ เป็นตัวแปรที่จะมีความหมายก็ต่อเมื่อนำไปเข้าคู่สัมพันธ์กับตัวแปรอื่นๆ เช่น อาชีพกับรายได้ จะเห็นว่า รายได้จะแปรผันมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับอาชีพนั้นๆ ดังนั้น รายได้จึงถือเป็นตัวแปรตาม
9. Stimulus variable (ตัวแปรสิ่งเร้า) หมายถึง สิ่งที่เป็นเงื่อนไขใช้ในการกระตุ้นให้มนุษย์และสัตว์แสดงอาการตอบสนอง เพื่อให้นักวิจัยทำการสังเกตพฤติกรรม โดยมากนิยมใช้กันในการวิจัยทางจิตวิทยา ซึ่งก็คือสิ่งเดียวกับตัวแปรทดลองหรือตัวแปรสาเหตุในการวิจัยเชิงทดลองนั่นเอง
10. Response variable (ตัวแปรตอบสนอง) หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกมาเนื่องจากการได้รับการกระตุ้นโดยสิ่งเร้า (Stimulus) มักนิยมใช้เรียกแทนคำว่าตัวแปรตามหรือตัวแปรผลนั่นเอง ส่วนมากใช้ในงานวิจัยทางจิตวิทยา
11. Categorical variable (ตัวแปรจัดกลุ่ม) ตัวแปรที่มีค่าระดับการวัดอยู่ในระดับนามบัญญัติ (Nominal scale) ซึ่งจะช่วยจัดหน่วยหรือสิ่งที่วิจัยออกเป็นกลุ่มๆ ตามลักษณะของสิ่งนั้น บางครั้งเราเรียก ตัวแปรคุณภาพ (Qualitative variable) เช่น เพศ อาชีพ เชื้อชาติ ศาสนาที่นับถือ เป็นต้น
12. Nominal variable (ตัวแปรนามบัญญัติ) หมายถึง ตัวแปรจัดประเภทหรือตัวแปรจัดกลุ่ม (Categorical variable) เป็นตัวแปรที่แบ่งตามชื่อหรือกลุ่มหรือประเภทของสิ่งของนั้นๆ เช่น กลุ่มเพศ แปรเป็น เพศชายและเพศหญิง กลุ่มศาสนา แปรเป็น พุทธ คริสต์ อิสลาม เป็นต้น
13. Ordinal variable (ตัวแปรอันดับ) เป็นตัวแปรที่แบ่งตามระดับของตัวแปรที่สามารถจัดลำดับได้ หรือทราบได้ชัดเจนว่าอะไรมากกว่า หรืออะไรเกิดก่อน เช่น ลำดับการเกิด (บุตรคนที่) ระดับของข้าราชการ (ซี 1 ,2,3 ) เป็นต้น
14. Interval variable (ตัวแปรอันตรภาคชั้น) เป็นตัวแปรที่เกิดจากการวัดแบบอันตรภาคชั้น คือ การวัดที่เริ่มจากศูนย์สมมุติ (Arbitrary zero) เช่น การวัดอุณหภูมิ ศูนย์สมมุติก็คือระดับที่สสารยังมีปริมาณความร้อนอยู่แต่ถูกสมมุติให้เป็นศูนย์องศา หรือ คะแนนสอบ ถ้านักเรียนสอบได้ศูนย์คะแนน มิได้หมายความว่านักเรียนคนนั้นไม่มีความรู้ แต่ถูกสมมุติว่าถ้าสอบไม่ได้เลยให้ถือเป็นระดับศูนย์
15. Dichotomous variable (ตัวแปรแบ่งสอง/ตัวแปรทวิ) เป็นตัวแปรจัดกลุ่มหรือตัวแปรขาดช่วงที่มีการแปรค่าได้เพียงสองค่า เช่น เพศ (ชาย,หญิง) ผลการสอบ (ผ่าน,ไม่ผ่าน) เป็นต้น
16. Polychotomous variable (ตัวแปรพหุ) เป็นตัวแปรที่สามารถแปรค่าได้หลายระดับ เช่น ศาสนา (พุทธ, คริสต์, อิสลาม, อื่นๆ) อาชีพ (รับราชการ, รับจ้าง, หมอ, พยาบาล,...) เป็นต้น
17. Discrete variable (ตัวแปรขาดช่วง/ตัวแปรไม่ต่อเนื่อง) เป็นตัวแปรเชิงปริมาณที่มีค่าเฉพาะตัวของมัน แยกออกจากกันเด็ดขาด วัดค่าเป็นจำนวนเต็ม เช่น จำนวนคน ลำดับการเกิด จำนวนหนังสือ เป็นต้น
18. Continuous variable (ตัวแปรต่อเนื่อง) คือ ตัวแปรที่มีค่าต่อเนื่องกันตลอด เช่น ความสูง รายได้ คะแนนสอบ ส่วนสูง น้ำหนัก ค่าของตัวแปรเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเลขเต็มหน่วยพอดีอาจเป็นทศนิยมหรือเป็นเศษส่วนได้
19. Component variable (ตัวแปรประกอบ) หมายถึง ตัวแปรใหญ่ที่เป็นตัวแทนตัวแปรย่อยทั้งหลาย เช่น ฐานะทางสังคม เป็นตัวแปรประกอบ โดยมีตัวแปรย่อยต่างๆ ประกอบกัน คือ รายได้ ระดับการศึกษา อาชีพ เป็นต้น
20. Construct variable (Non – observable or latent variable) (ตัวแปรโครงสร้าง/ตัวแปรภาวะสันนิษฐาน/ตัวแปรที่สังเกตไม่ได้) เป็นตัวแปรที่สร้างขึ้นจากทฤษฎีหรือสมมุติฐานทางจิตวิทยา มักเป็นตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางสมองของมนุษย์ เช่น สติปัญญา ความเป็นครู ความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการนิยามศัพท์ให้ชัดเจนเพื่อสื่อถึงสิ่งที่สามารถจะวัดและสังเกตได้
21. Latent variable (ตัวแปรแฝง) คือ ตัวแปรที่อยู่ในตัวของมนุษย์ที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยตรง บางครั้งเรียกว่า ตัวแปรโครงสร้าง เมื่อจะทำการศึกษาต้องอาศัยการสร้างนิยามศัพท์เชิงปฏิบัติการ (Operational definition) เพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจตรงกัน เช่น สติปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ แรงจูงใจ เป็นต้น
22. Observable variable (ตัวแปรสังเกต) คือ ตัวแปรที่เราสามารถสังเกตได้โดยตรง หรือเป็นพฤติกรรมที่สังเกตหรือสิ่งที่ปรากฏภายนอก เช่น ความตื่นเต้น ความเหนื่อยล้า เป็นต้น
23. Predictor variable (ตัวแปรทำนาย) เป็นตัวแปรต้นในงานวิจัยที่ใช้เทคนิควิธีการทางสถิติวิเคราะห์ข้อมูลแบบการวิเคราะห์การถดถอย (Regression analysis) เช่น ในการวิจัยผู้วิจัยต้องการศึกษาว่าตัวแปรใดบ้างที่จะทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษได้ โดยนักวิจัยคัดเลือกตัวแปรกลุ่มหนึ่งประกอบด้วย ระดับการศึกษาของพ่อแม่ การเลี้ยงดูของครอบครัว แรงจูงใจในการเรียน และรายได้ครอบครัว ซึ่งตัวแปรกลุ่มนี้ เรียกว่า เป็นตัวแปรทำนาย และเรียก ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ว่าเป็นตัวแปรถูกทำนาย
24. Criterion variable (ตัวแปรเกณฑ์) คือ ตัวแปรหลักที่งานวิจัยนั้นสนใจที่จะทำ เช่น กระบวนการ
25. Distorter variable (ตัวแปรดัน/ตัวแปรบิดเบือน) หมายถึง ตัวแปรที่ส่งผลร่วมต่อตัวแปรที่ศึกษาให้มีค่าความสัมพันธ์สูงกว่าที่เป็นจริง
26. Suppressor variable (ตัวแปรกด) เป็นตัวแปรแทรกซ้อนที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับตัวแปรดัน กล่าวคือ ตัวแปรกดจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นและตัวแปรตามที่เราต้องการศึกษานั้นไม่ปรากฏหรือไม่มีความสัมพันธ์กัน ทั้งๆ ที่จริงแล้วตัวแปรทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน
27. Extraneous variable (ตัวแปรแทรกซ้อน) หมายถึง ตัวแปรที่ส่งผลรวมต่อตัวแปรที่เราศึกษา โดยที่เราไม่ได้ควบคุมหรือขจัดออกจนทำให้มีผลต่อตัวแปรที่เราศึกษา ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็สามารถจัดกระทำหรือควบคุมตัวแปรแทรกซ้อนนี้ไม่ให้มีผลต่อตัวแปรที่เราศึกษาก็ได้ ยกตัวอย่าง สมมุติเราต้องการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับการศึกษากับรายได้ ผลพบว่า มีความสัมพันธ์กัน (ทั้งๆ ที่จริงแล้วไม่มีความสัมพันธ์กัน) แต่ภายหลังเราควบคุมแหล่งที่อยู่ (ในเมืองกับชนบท) จากนั้นแยกพิจารณาเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในแหล่งเดียวกัน พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างระดับการศึกษากับรายได้ ลักษณะเช่นนี้ แหล่งที่อยู่จัดเป็นตัวแปรแทรกซ้อน
28. Intervening variable (ตัวแปรสอดแทรก) เป็นตัวแปรที่ร่วมกับตัวแปรต้นที่ส่งผลให้ตัวแปรตามที่ศึกษามีค่าเปลี่ยนแปลงผิดไป เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถรู้ได้ จัดกระทำ วัดและสังเกตไม่ได้ เช่น ความเครียด วิตกกังวล เป็นต้น
29. Moderator variable (ตัวแปรกลาง) เป็นตัวแปรแทรกซ้อนที่ผู้วิจัยสามารถควบคุมไม่ให้ส่งผลร่วมกับตัวแปรต้นที่มีต่อตัวแปรตามได้ หรืออาจจะนำเข้าเป็นมาเป็นตัวแปรต้นอีกตัวหนึ่งแล้วทำการศึกษาตัวแปรนี้ เช่น การทดลองใช้ยารักษาโรค ผู้ทดลองแบ่งกลุ่มผู้รับยาตามกลุ่มกรุ๊ปเลือด พร้อมทั้งสังเกตผลการใช้ยา กรณีนี้ ยาเป็นตัวแปรจัดกระทำ (ตัวแปรทดลอง) ผลของการใช้ยา เป็นตัวแปรผล (ตัวแปรตาม) ส่วนกรุ๊ปเลือดนั้นเป็นตัวแปรกลาง
30. Nuisance variable (ตัวแปรรบกวน) เป็นชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งของตัวแปรสอดแทรกนั่นเอง
31. Organismic variable (ตัวแปรอินทรีย์) เป็นชื่อเรียกตัวแปรที่เป็นสิ่งเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคลที่มีติดตัวได้มาตั้งแต่กำเนิดและเป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวบุคคล เช่น เพศ สีผิว กรุ๊ปเลือด แรงจูงใจ ความวิตกกังวล เป็นต้น
32. Antecedent variable (ตัวแปรนำ) เป็นตัวแปรที่เกิดขึ้นก่อนตัวแปรที่ผู้วิจัยศึกษา (ตัวแปรต้นและตัวแปรตาม) โดยที่ถ้าผู้วิจัยไม่ได้ควบคุมตัวแปรนี้ก็อาจทำให้การตีความผลการวิจัยผิดพลาดได้ เช่น ผู้วิจัยต้องการใช้วิธีสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แต่นักเรียนมีพื้นฐานแรงจูงใจในรายวิชานั้นแตกต่างกัน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนออกมาแตกต่างกัน ซึ่งถือว่าพื้นฐานแรงจูงใจในการเรียนเป็นตัวแปรนำที่มีต่อบทบาทวิธีสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
33. Dummy variable (ตัวแปรหุ่น) เป็นตัวแปรที่นักวิจัยสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยกำหนดตัวเลขให้กับตัวแปรจัดกลุ่มหรือตัวแปรขาดช่วง เช่น ตัวแปรเพศ ถ้าเป็นเพศชายให้ 0 และเพศหญิงให้ 1 ซึ่ง 0 และ 1 ในที่นี้เป็นตัวเลขที่มีคุณสมบัติเป็นเพียงระดับการวัดนามบัญญัติเท่านั้น
34. Ratio variable (ตัวแปรอัตราส่วน) เป็นตัวแปรที่เกิดจากระดับการวัดที่มีศูนย์แท้ (Absolute zero) และ 1 หน่วยใดๆ มีค่าเท่ากันหมด เช่น ความสูง ความเร็วรถ เป็นต้น
คราวหน้าพบกันในเรื่องของแบบแผนการวิจัยนะคะ...................บ๊ายบาย
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เรื่องตัวแปรเยอะเลย ไม่คิดว่าตัวแปรจะเยอะขนาดนี้
ขอบคุณมากๆคะ อยากทราบอีกนิดคะ การจัดกระทำกับตัวแปร คือการจัดสภาพ เงื่อนไขให้กับตัวแปร ใช่ไหมคะ