ฒ. ไม่เฒ่าเล่าเรื่องกิน


ฒ. ไม่เฒ่าเล่าเรื่องกิน

ฒ. ไม่เฒ่าเล่าเรื่องกิน

 ปัจจุบันบ้านเรามีผู้สูงอายุ มากกว่า 2.5 ล้านคนแล้ว
สุขภาพของคนเราเมื่ออายุมากขึ้นความเสื่อมต่างๆในร่างกายก็มากขี้น ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ แต่เราสามารถชะลอได้

โดยหลักแล้วชีวิตคนเราทุกวัยมี 3 เรื่องที่ต้องดูแล คือ โภชนาการดี ออกกำลังกาย และการจัดการความเครียด การที่เราดูแลร่างกายอย่างดีก่อนที่อายุจะมากขึ้น ความเสื่อมต่างๆ จะชะลอมากเลยทีเดียว ผู้เขียนนำเคล็ดลับกับ 3 อ. ของการมีสุขภาพที่ดีไม่มีบั้นปลายมาบอกเล่าค่ะ.
อ.แรกหนีไม่พ้นเรื่องของอาหารการกินจะกินอย่างไรดี

ต้องกินให้ครบ5หมู่และหลากหลาย
ในอาหารแต่ละชนิดจะมีสารอาหารและคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกันไม่มีอะไรทดแทนกันได้

กินข้าวและธัญพืชที่ขัดสีน้อย
วิตามินบีที่อยู่ในอาหารประเภทนี้ จะช่วยดูแลเซลล์สมองให้เสื่อมช้าลงไม่ควรกินเกิน 5-6 ทัพพีต่อวัน

พืชผัก
ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์สูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดโรคมะเร็งได้ 20-30% ใยอาหารที่อยู่ในพืชผักยังช่วยในการระบายของเสียขึ้นชื่อว่าของเสียก็อย่าให้ มันอยู่ในตัวเรานาน เพราะจะดูดซับสารพิษกลับเข้ามาในร่างกาย ผักต่างๆควรกินให้ได้อย่างน้อย 3 ขีด – ½ กก.การกินผักนั้น
ไม่ต้องห่วงเรื่องเคี้ยวไม่ออก สามารถนึ่งให้สุกนิ่มๆก่อนได้ เรื่องวิตามินที่จะสลายไปกับน้ำนั้นน้อยมาก แต่ใช้วิธีนึ่งหรือเอาเข้าไมโครเวฟเป็นอันสิ้นเรื่อง

ผลไม้คู่หูของผัก
ควรกินหลังอาหารทุกมื้อละไม่เกิน 10 คำ ถ้าเป็นผล เช่น ส้มเขียวหวาน 1 ผล , ชมพู่ 2 ผล ,กล้วยหอม 1 ผล เป็นต้น เพราะในผลไม้จะมีน้ำตาลสูงกินมากกว่านี้จะอ้วนเสียเปล่าๆ

เนื้อสัตว์
วัยนี้ควรกินปลา เป็นหลักเพราะปลาเป็นอาหารที่ให้โปรตีนที่มีคุณภาพสูง ย่อยง่าย ไขมันต่ำ หรือจะเป็นไข่ขาวก็ดี ไม่มีไขมันเลยมีแต่โปรตีนล้วนๆ กินแค่วันละไม่เกิน 2 ขีด ก็พอแล้ว

ดื่มนม
ควรดื่มนมพร่องมันเนยอย่างน้อยวันละ 1 แก้วหรือกินโยเกิร์ตก็สามารถทดแทนกันได้ แต่ต้องเลือกชนิดที่เป็นรสธรรมชาติ เพื่อเพิ่มแคลเซียมในร่างกาย

หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
รสหวานจัด เค็มจัด เผ็ดจัด มันจัด เพราะอาจเกิดปัญหากับระบบย่อยอาหารได้

หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มอัลกอฮอร์
เพราะวัยสูงอายุการดูดซึมสารอาหารที่กินมีประสิทธิภาพลดลงอยู่แล้ว การดื่มเครื่องดื่มอัลกอฮอร์เข้าไป จะยิ่งไปขัดขวางการดูดซึมสารอาหารไปอีกด้วย

เมื่อถึงวัยสูงอายุแล้ว ต้องลดพลังงานจากการกินอาหารลง เนื่องจากระบบการเผาผลาญอาหารลดลง แต่ในขณะเดียวกันก็ร่างกายก็ต้องการสารอาหารเพิ่ม เพื่อไปซ่อมแซมเซลล์ที่เริ่มเสื่อม ฉะนั้นจะต้องเลือกกินอาหารที่ให้ประโยชน์ที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

อ.ที่สองออกกำลังกาย
ควรหาวิธีการออกกำลังที่เหมาะสมกับตัวเองและออกกำลังอย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 วันๆละอย่างน้อย ½ ชั่วโมง

อ.อารมณ์
เมื่อเกิดความเครียดเข้าหรือไม่สบายใจ พยายามสลัดออกให้เร็ว อย่าหมกมุ่น หาทางออกด้วยวิธีการนั่งสมาธิ ไหว้พระ ออกกำลังกาย อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกับลูกหลาน

วัยสูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก บางคนสามารถปรับตัวยอมรับสภาพการเปลี่ยนแปลงได้ ในขณะที่หลายคนไม่สามารถปรับตัวได้
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลกระทบต่อ การบริโภคอาหารและสุขภาพกาย สุขภาพใจของผู้สูงอายุได้ การดูแลอย่างใกล้ชิด จัดอาหารถูกต้อง เหมาะสมกับความต้องการ การรับประทานอาหารร่วมกันหรือการเปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหารบ้าง
เป็นสิ่งจำเป็นที่ลูกๆหลานๆ ไม่ควรละเลย

เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุ มีสุขภาพจิตดี รู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ท่ามกลางลูกหลานและส่งผลถึงการรับประทานอาหารได้ตามปกติ เป็นทางหนึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาขาดสารอาหารและมีความสุข และแล้ว” ท่านที่คุณรัก” ก็ค้นพบความสุขที่ไม่มีบั้นปลายค่ะ

หมายเลขบันทึก: 395473เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2010 13:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2012 11:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เอาไว้ใช้ตอนแก่กันดีกว่าอิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท