วันนี้ทำต้มส้มปลาหมอครับ


กับข้าวสมัยเก่า อร่อยมากๆๆๆๆ

นกขมิ้นเข้าครัวทำต้มส้มปลาหมอ

 

          เดือนตุลาปลายปี 49 เกิดน้ำท่วมใหญ่อ่างทองเรา ผมกำลังเรียนอยู่ปี 3 ฝึกงานอยู่ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจังหวัดสุพรรณ อ่างทองซื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นอ่าง  ข้อเสียของอ่างทองคือ เราเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์เป็นอู่ข้าวอู่น้าแต่ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มลักษณะเหมือนแอ่งหรืออ่างนั่นล่ะ  เวลาน้ำท่วมก็จะนานกว่าบ้านอื่นเมืองอื่นสักหน่อย

 

          เราเศร้าไม่ได้นานก้อเริ่มมีกิจกรรมให้ทำ  เคยได้ยินโบราณบอกไหมว่าน้ำไปถึงไหนปลาไปถึงนั่น แน่นอนครับไม่ผิดจากที่โบราณบอกไว้หรอก พ่อกับยายผมเริ่มเป็นตัวตั้งตัวตีในการหาปลาผมเป็นกำลังสนับสนุน เริ่มจากลงข่าย ในนาที่น้ำท่วมข่าวนั่นล่ะ  ปลาชุมมากๆ โดยเฉพาะปลาตะเพียน (อีสานเรียกปลาขาว) และปลาหมอนี่เยอะมากๆๆ แต่ต้องระวังสัตว์ไม่พึงประสงค์จำพวกงูด้วยนะครับมันมักจะมาติดเหมือนกัน หลังจากนั้นเราก็เริ่มดักลอบ ไอ้โง่ (ชื่อเครื่องมือดักปลาชนิดหนึ่งไว้ว่างกั้นทางน้ำเพื่อดักปลา) ปลามากมายหลากหลายชนิดติดกันสารพัด กินปลากันไม่หวาดไหว 

 

           เราจะไปวางไว้ตอนเย็นๆ ไปเก็บเครื่องมือดักปลาในตอนเช้า ๆ ปลาติดได้วันล่ะครึ่งกระสอบทุกวัน เรียกว่าผมกินปลาทุกวันจนเบื่อนั่นล่ะ  แต่ปลาหมอนี่มีเยอะมากๆ  กินไม่เคยเบื่อแต่ถ้ามันเยอะมากๆ กินไม่ไหวต้องทำปลาเค็มหรือปลาแห้งไม่ชอบตอนนี้แหละเพราะเวลาเราทำปลาเงี่ยงมันมักจะทิ่มมือเป็นแผลไปตามๆกัน  คนที่เคยกินปลาหมอนาหน้าน้ำจะเข้าใจว่ามันอร่อยขนาดไหน ไข่เต็มท้องเลย มันอร่อยมาก  แนะนำเลยนะปลาหมดสดๆ ย่างทั้งเกล็ด กับน้าปลามะนาวพริกหอมแดงซอย  กินกับข้าวสวยร้อนๆ หลายคนอาจข้าวหมดหลายจานโดยไม่รู้ตัว (จริงๆ มีโอกาสไปหาลองซะ)

 

           ช่วงนั้นคุณตาผมยังมีชิวิตอยู่เป็นเมนูที่คุณตาผมชอบมากๆๆ และผมจะมาทำให้กินวันนี้ไงต้มส้มปลาหมอครับ นั่นล่ะ  อาหารชนิดนี้ที่ผมจะทำให้ทานเป็นสูตรเก่าแต่โบราณหากินไม่ค่อยได้นะในสมัยนี้ ไม่เหมือนกับต้มส้มปลากระบอกของทางภาคใต้นะ (พี่ที่ผมรู้จักบ้านอยู่ใต้ลองไปทำแล้วบอกด้วยนะครับว่าต้มส้มใต้กับของภาคกลางอร่อยต่างกันอย่างไงโพสให้ด้วยนะครับ)  

 

           เริ่มแรกจากนำปลาหมอสดคอดเกล็ดผ่างท้องล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน พักไว้ถ้าไม่มีแนะนำให้ใช้ปลาช่อนหั่นแว่นแทน จากนั้นหันมาสนใจกับตะไคร้ 3-4 ต้นก็พอหั่นเป็นแว่นๆ บางๆ โขลกกับหอมแดง 3-4 หัว และพริกไทยพอประมาณ ให้ละเอียด หลังจากนั้นตั้งหม้อใส่น้ำมันพื (ชสมัยก่อนเขาใช้น้ำมันจากปลาสร้อย) นิดหน่อย เอาเครื่องแกงในครกใส่พัดให้หอมและออกสีเหลืองเล็กน้อย เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไปพอประมาณ ใส่เกลือเกลือ 2 ซักช้อนโต๊ก็พอถ้าเราใส่น้ำปลาอย่างเดียวจะมีกลิ่นไม่อร่อย  จากนั้นใส่มะขามเปียกแนะนำว่าใส่ไปทั้งฝักซัก 2-3 ฝัก  อยากให้มีรสชาติดีก้อใส่หัวไชท้าวหั่นสวยงามซัก 2 หัว ลงไปจะอร่อยขึ้น หลังจากน้ำเดือดก็ใส่ปลาหมอลงไป  อย่าคนนะจะกว่าปลาจะสุกนะถ้าเราคนเดี๋ยวมันจะคาว  หลังจากเดือดอีกทีแล้วปลาสุกเราจึงปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาดี  ชิมรสให้ได้ เปรี้ยวหวานและเค็ม ตามความชอบแล้วกัน  ปิดไฟยกลงใส่ใบผักชีโรยหน้าเป็นอันเสร็จพิธี  

 

            รับรองทานกับข้าวสวยร้อน ๆ  ข้าวหมดหม้อไม่รู้ตัว ผมไม่ได้พูดเวอร์นะ ลองไปทำทานกันดูนะครับ กับข้าวอาหารเก่าๆ ผมไม่อยากให้หายไปกับคนสมัยก่อนลองไปทำดูนะครับ แล้วบอกผมด้วยว่า อร่อยถูกใจหรือเปล่า ถ้าจะให้ดีชวนผมไปกินด้วยแล้วกันครับ   

 

             ไว้วันหลังผมจะหาเมนูอาหารอร่อยๆ มาทำให้ทานกันนะครับ   พบกันฉบับหน้านะครับ....

                                                               

     นกขมิ้น   

                         0.35 น 1 ก.ค. 2553

 

หมายเลขบันทึก: 395404เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2010 10:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

หิวข้าวเลยค่ะ ที่นีตอนนี้มีปัญหานะซิพี่ดาไม่ทานปลาเป็นนานแล้วซิ เชียงใหม่มีขายนะ ปลาหมอพี่ดาไม่ได้ทานนานมากแล้ว ทราบดีว่าอร่อยมากโดยเฉพาะไข่ ทำอะไรก็อร่อยหมด ไม่ว่าจะฉู่ฉี่ โรยใบมะกรูดฝอยหอมๆ  ต้มยำใส่สายบัว ใส่ในปลาร้าหลน ปลาหมอแดดเดียว   หรือปลาหมอย่างทั้งเกร็ด  แต่สูตรที่บอกมาพี่ดายังไม่เคยทานแต่อยากลองทำค่ะ อ่านแล้วอยากทานเลย ตอนนี้น่ามะขามอ่อนออกแล้วด้วย  ค่ะพี่ดาจะทำทาน ขอบคุณมากค่ะ น้ำหนักขึ้นแน่ๆค่ะ

                    

          ตอนเด็กๆพี่ดาจะตกปลาหมอ ในนา แล้วเก็บสายบัวมาต้มยำ

โหเมนูที่พี่ดาเอ่ยมาทั้งหมดน่ะของโปรดผมเลยนะนี่

ทานปลาดีต่อสุขภาพผมชอบมากที่สุด

พี่ดาลองทำทานนะครับอร่อยมากๆๆๆๆๆ

มาอ่านตอนกลางคืนแล้วหิวข้าวนะคะ

ปลาหมอที่อร่อยที่สุดคือในช่วงที่ "ฟ้าผ่าหัวปลาหมอ ลมหักคอไม้ไผ่" ยืนยันฟันธงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท