การจัดการไฟมอดเชื้อ
การจัดการกับไฟมอดเชื้อ
ประชุม โพธิกุล
ให้ตระหนักถึงอาการไฟมอดเช้ือ ปรับวิถีชีวิตใหม่ กลับเข้าสู่แนวทางที่ถูกต้อง พลังชีวิตก็จะกลับคืนมา
ไฟมอดเช้ือ หมายถึงอาการที่คนอารมณ์เสีย ร่างกายอ่อนเพลียอันเนื่องมาจากงานรุมเร้าและแรงกัดดันจากงาน
สรุปได้ว่าไฟมอดเช้ือเกิดจากการที่ท่านมีความคาดหวังที่ จะได้รับความพึงพอใจจากการงานมากเกินไป
อาการที่แสดงออกมีอาการเครียด เหนื่อย จิตใจหดหู่สิ้นหวัง ขาดความกระตือรือร้น มีอาการเจ็บปวดทางกายเช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ โรคกระเพาะ ความดันโลหิตสูง
การจุดประกายไฟใหม่ให้กับชีวิต
ท่านยอมรับในอาการที่เกิดขึ้น และเข้าใจสาเหตุของไฟมอดเชื้อ ขั้นตอนต่อไปก็คือทำให้พลังชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่ ต่อไปนี้เป็นข้อเสนอแนะจากหนังสือการนิเทศเชิงปฏิบัติการ
1.ให้ย้อนกลับไปมุ่งเน้นเพื่อนร่วมงานมากขึ้น ให้มอบหมายงาน พยายามมอบหมายงานให้เพื่อนร่วมงานมากขึ้น มิใช่งานมาสุมอยู่กับท่านคนเดียว ท่านอาจจะเกิดความอึดอัดบ้างในการที่ท่านจะทำให้เพื่อนร่วมงานมีความเต็มใจที่จะรับผิดชอบ
2.ทบทวนเป้าหมายและมาตรฐานในการทำงาน ถ้าท่านมีงานมากควรปรึกษากับผู้จัดการอาจจะลดงานลงได้บ้าง
3.ทดลองเปลี่ยนแปลงดูบ้าง เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในการทำงาน การเปลี่ยนแปลงทำให้ลดความจำเจ และเกิดแรงบันดาลใจที่จะปรับปรุงงานให้ดีขึ้น
4.กำหนดขั้นตอนอย่างดีในการทำให้เกิดการยอมรับ เมื่อตัวท่านและกลุ่มรู้สึกว่าทำงานสำเร็จมีคุณค่ามากขึ้น แต่กำลังถูกมองข้าม ควรคัดค้านและพูดขึ้นมาบ้างเพื่อให้เกิดการยอมรับในผลงาน
5.ฉลองชัยในความสำเร็จของงาน การมีเจตคติที่ดีจะทำให้เราสามารถตัดวงจรเสริมแรงของไฟมอดเชื้อได้ตลอด
6.ดูแลตนเอง เหยื่อของคนที่ไฟมอดเชื้อส่วนมากเกิดจากไม่ดูแลสุขภาพของตนเอง ท่านต้องออกกำลังให้พอดี อาหารดี พักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลมากอย่ามองข้าม เป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต
เมื่อกลับมาทำงานใหม่ สิ่งแรกต้องกำหนดความคาดหวังใหม่ กำหนดเป้าหมายที่มีความเป็นจริงในงานที่ทำ นึกถึงอาการไฟมอดเชื้อ เข้าใจสาเหตุและจุดประกายความคิดใหม่พลังชีวิตของท่านจะกลับมา
การลดความเครียดในการทำงานของท่าน
ความตึงเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การมีความตึงเครียดมีผลดีกับชีวิต ต้องเรียนรู้ และทำให้ความตึงเครียดเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของท่าน ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำ
1.กำหนดว่างานไหนที่ท่านชอบและทำมันอย่างน้อยหนึ่งชิ้นต่อวัน ถึงแม้ว่าท่านไม่สามารถที่จะลดความตึงเครียดในการทำงานได้ แต่ท่านต้องมั่นใจว่าไม่มีงานใดที่จะทำลายความพึงพอใจจากความคิดส่วนตัวของท่านได้
2.จัดสรรเวลา เพื่อทำให้มีสมาชิกในการทำงาน สิ่งนี้จะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน ลดความรู้สึกต้องพึ่งพาผู้อื่น
3.ให้ความสนใจกับบุคคลที่ให้การยอมรับ ส่งเสริมตัวท่าน ท่านควรเป็นผู้ฟังที่ดี ในการรับฟังข้อเสนอแนะของเขาในยามที่ท่านรู้สึกไม่มั่นใจ หรือรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัย
4.สนใจงานอดิเรก อาจศึกษารายวิชาที่ท่านสนใจในสถานศึกษาบางแห่งนอกเวลาหรือทำกิจกรรมใหม่ๆ
5.ออกกำลังกาย การมีกำลังกายที่แข็งแรง ท่านจะรู้สึกดีขึ้น อารมณ์ดีขึ้น ตรวจร่างกาย จำกัดนำ้หนักตัว รับประทานอาหารให้ถูกส่วน
6.ดูแลตนเอง ทำสิ่งที่ท่านชอบ ให้รางวัลตัวเอง เที่ยวต่างจังหวัด ใช้เวลาเพื่อการพักผ่อน
7.ข้อแนะนำที่ตรงกับประเด็นปัญหาก็คือ อย่าทำงานมากเกินกว่าความสามารถที่ท่านจะจัดการได้ ต้องยอมรับว่าท่านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทั้งหมด ค่อยๆทำไปทีละอย่าง
อย่าอยู่ในสังคมที่มีแต่ความตึงเครียด รีบเร่ง รบกวนท่านเสมอ ไม่มีเหตุผลที่ท่านจะเป็นเหยื่อของเวลา ท่านควรบริหารเวลามิใช่เวลามาจัดการกับท่าน ต้องตระหนักถึงอาการของไฟมอดเชื้อ ใช้เทคนิคลดความตึงเครียด ถ้าท่านสามารถเรียนรู้ที่จะทำงานในสำนักงานให้เหมือนชีวิตในบ้านของท่าน ท่านก็จะเกิดความพึงพอใจ
Practical Supervision,sept-15,1990.
How to make stress work for you from the Toastmaster,January 1991.
ความเห็น (2)
ตอนนี้หลายคนเริ่มมีอาการไฟมอดเชื้อแล้วครับ บางคนเปลี่ยนเส้นทางใหม่เข้าสู่อาชีพใหม่ เป็นเจ้าของสวนยาง ทำไร่
อาชีพครูเขาว่ารวยยาก แต่ผมกลับมองว่าอาชีพอื่นนั้นยากกว่าความเป็นครู จึงคิดว่าครูอาชีพน่าจะดีกว่าคำว่าอาชีพครูครับท่าน
มีอาการเหมือนไฟมอดเชื้อบ้างแล้ว แต่พยายามเตือนตัวเองคิดถึงบทบาทหน้าที่ของความเป็นข้า....ราชการ ได้แนวทางจากท่านช่วยได้มากทีเดียว ขอบคุณค่ะ