ในบรรดาเพลงไทยสากล (เพลงลูกกรุง) และเพลงไทยลูกทุ่ง (เพลงลูกทุ่ง) ที่ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทย (เพลงไทยเดิม) นั้น ต้องยกให้เพลง ๔ เพลงดังต่อไปนี้เป็นสุดยอดของการดัดแปลง
๑. เพลงน้ำใจชาวเหนือ พยงค์ มุกดา เป็นผู้แต่ง
ท่อน ๑ ของเพลงนี้นำทำนองมาจากเพลงสร้อยลำปาง ๒ ชั้น (หรือลาวลำปางเล็กหรือลาวสร้อยลำปาง) ท่อน ๑ ส่วนท่อน ๒ ของเพลงน้ำใจชาวเหนือมาจากเพลงพม่าเขว ๒ ชั้น
เพลงสร้อยลำปางเป็นเพลงในชุดลาวลำปาง ซึ่งนอกจากสร้อยสำปางแล้ว ยังมีลาวลำปางใหญ่ (หรือลาวลำปางหลวง) แม่แล้ลำปาง (หรือแม่สะเรียง) และลาวพึม(หรือลาวคลึง) เป็นเพลงที่มีมาแต่เก่า ไม่ทราบนามผู้แต่ง เพลงสร้อยลำปางมีทำนอง ๒ ท่อน เฉพาะท่อนที่ ๑ ซึ่งเป็นที่มาของเพลงน้ำใจชาวเหนือมีโน้ตดังนี้
---- |
---ซ |
---ด |
-ดดด |
-ม-ร |
-ด-ร |
-ม-ด |
-ดดด |
---- |
---ซ |
---ด |
-ดดด |
-ม-ร |
-ด-ร |
---ม |
---ซ |
---- |
-ด-ร |
-ม-ร |
-ด-ซ |
---- |
-ด-ร |
-ม-ร |
-ด-ล |
---- |
---ม |
---- |
-ซ-ล |
-ด-ซ |
-ด-ล |
---ซ |
---ม |
---ด |
-ร-ม |
-ซ-ม |
-ร-ด |
-ด-ร |
-ด-ซ |
-ม-ซ |
-ล-ด |
---ด |
-ร-ม |
-ซ-ม |
-ร-ด |
-ด-ร |
-ด-ซ |
-ม-ซ |
-ล-ด |
ฟังเดี่ยวจะเข้เพลงสร้อยลำปาง http://www.phrapiyaroj.com/djk/page9.html
สำหรับเพลงพม่าเขวเป็นเพลงเก่าไม่ทราบนามผู้แต่ง เพลงนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศเมื่อคุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลงได้ใช้ทำนองเพลงพม่าเขวแต่งเป็นเพลง “ช้าง” เพื่อให้นักเรียนร้องตามโครงการวิทยุโรงเรียน โดยมีเนื้อร้องว่า “ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวยาวเรียกว่างวง สองเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหูมีตามหางยาว” เพลงพม่าเขว ๒ ชั้นมีทำนองดังนี้
---- |
---ซ |
---ซ |
---ซ |
---- |
-ซ–ม |
--รม |
-ซ–ด |
---- |
---ซ |
---ซ |
---ซ |
---- |
-ซ–ม |
-ร–ม |
-ซ–ด |
---- |
-ซ–ม |
--รม |
-ด–ร |
-ดํ–ล |
-ดํ–ดํ |
--ซล |
-ดํ-- |
-ดํ–ล |
-ดํ–ดํ |
--ซล |
-ดํ -- |
-ซ–ล |
-ซ–ม |
---ร |
----ด |
หมายเหตุ
โน้ตเพลงที่นำเสนอเป็นทางหรือระดับเสียงที่เป็นมาตรฐานของเพลงนั้น ๆ
หากนำเพลงตั้งแต่ ๒
เพลงมาเล่นต่อกันให้กลมกลืนกันอาจต้องเพิ่มลดระดับเสียงของเพลงใดเพลงหนึ่ง
ฟังเพลงพม่าเขว บรรเลงโดยวงดุริยางค์ทหารบก http://www.youtube.com/watch?v=-4r2ztwF9a8
เพลงน้ำใจชาวเหนือ
คำร้อง พยงค์ มุกดา
(ท่อน ๑ ลาวสร้อยลำปาง ๒ ชั้น ท่อน ๑)
หมู่เฮาเอยฟังข้าเจ้าเผยถ้อยวาที ก่อนเคยมีสาวงามที่ชื่อเครือฟ้า ผู้ชายชาวใต้แอ่วมา ชื่อนามว่าร้อยตรีพร้อม ได้เครือฟ้าชมสมอุราดมดอม แล้วก็จากไปทิ้งให้สาวตรอม สาวซื่อบ่ยอมผูกพันชายใด
(ท่อน ๒ พม่าเขว ๒ ชั้น)
สาวเหนือจ๋า ร้อยตรีกลับมาเชียงใหม่ พร้อมด้วยเมียรักร่วมใจ เธอชื่อจำปาหน้าผ่องใส มาก่อวิวาทให้บาดใจ เครือฟ้าหาใครจุนเจือ
(ท่อน ๓ ลาวสร้อยลำปาง ๒ ชั้น ท่อน ๑)
สิ้นวาสนาสาวเอยเครือฟ้าจึงลาตาย ชีพวางวายถือความสัตย์ไว้ยิ่งเหลือ นี่คือน้ำใจชาวเหนือ ดุจเกลือรักษาความเค็ม หนุ่มชาวใต้อย่าใช้ความรักเป็นเกม รูปหล่อปากหวานระรานเลาะเล็ม เห็นหญิงเป็นเกมแห่งการกีฬา
(ท่อน ๔ พม่าเขว ๒ ชั้น)
สาวเอ๋ยสาว ข้าเจ้าจะเตือนสาวว่า สงวนใจกันไว้บ้างหนา ใจอ่อนเกินไปจะหมดท่า ดังแม่ปิงไหลบ่กลับมา ดังสาวเครือฟ้าอาดูร
ฟังเพลงน้ำใจชาวเหนือ
๒. เพลงรักจางที่บางปะกง สดใส รุ่งโพธิ์ทอง แต่ง โดยท่อน ๑ ของเพลงมาจากเพลงทะเลบ้า ๒ ชั้น ส่วนท่อน ๒ ของเพลงมาจากเพลงแขกมอญบางขุนพรหม ๒ ชั้น ท่อน ๓
เพลงทะเลบ้า อัตราสองชั้นเป็นเพลงเก่า ประเภทหน้าทับสองไม้ มี ๒ ท่อน มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา นิยมนำมารวมไว้ในเพลงเรื่องฉิ่งใหญ่
ฟังเพลงทะเลบ้า ๒ ชั้นบรรเลงแบบสากล http://www.4shared.com/audio/H03x_4pm/_online.htm
ส่วนเพลงแขกมอญบางขุนพรหมเป็นเพลงพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ มาจากเพลงทำนองเก่าที่มีชื่อว่า เพลงมอญตัดแตง เพลงแขกมอญบางขุนพรหม ๒ ชั้น เป็นเพลงหน้าทับปรบไก่ มี ๓ ท่อน ท่อน ๑ มี ๔ จังหวะ ท่อนที่ ๒ มี ๔ จังหวะ และท่อน ๓ มี ๖ จังหวะ นิยมใช้บรรเลงต่อจากเพลงกราวในและเพลงพม่าห้าท่อน
ฟังเพลงแขกมอญบางขุนพรหม ๒ ชั้น http://www.4shared.com/audio/u_gLD3bY/04_.htm
ท่อน ๑ ของเพลงรักจางที่บางปะกง มาจากเพลงทะเลบ้า ท่อน ๑ และท่อน ๒
(ทะเลบ้า ๒ ชั้น ท่อน ๑)
- ม ซ ล |
- - ด ล |
- ร - ล |
- ด ด ด |
- ร ร ร |
- ม - ซ |
- ล - ด |
- - - ด |
ใฝ่พะวง |
หลงเฝ้า |
สาวเจ้า |
บางปะกง |
พางวยงง |
หลงเก้อ |
เพ้อ |
หา |
- ม ซ ล |
- - ด ล |
- ร - ล |
- ด ด ด |
- ร ร ร |
- ม - ร |
ด ท ล ซ |
- - - ซ |
โอ้เวรกรรม |
จำพราก |
จากไป |
ไกลตา |
ในอุรา |
ระทม |
ตรม |
ไหม้ |
- ม ซ ล |
ด ซ ล ด |
ซ ล ด ร |
ม ด ร ม |
- ล ซ ม |
- ร - ด |
- ร ม ซ |
- ร - ม |
เจ้าทำเมิน |
พี่หมอง |
โธ่เจ้ามอง |
พี่เหมือน |
ผ้าพัน |
กันเปื้อน |
นานก็เลือน |
ร้างไป |
- - - - |
- - - ม |
- ม ม ม |
- - ม ม |
|
|
|
|
---- |
ไย |
มาตัด |
ไมตรี |
|
|
|
|
(ทะเลบ้า ๒ ชั้น ท่อน ๒)
- - - - |
- - ล ซ |
- - ฟ ม |
- - - - |
- - ล ซ |
- - ฟ ม |
ซ ม ร ด |
- ร - ม |
น้องมี |
แฟนใหม่ |
---- |
---- |
ทิ้งชาว |
นาไร่ |
ไปกับหนุ่ม |
เศรษฐี |
- - - - |
- ล ด ซ |
ล ซ ฟ ม |
- - - - |
- ล ด ซ |
ล ซ ฟ ม |
ซ ม ร ด |
- ร - ม |
---- |
น้องลืม |
เรือบด |
---- |
นั่งรถ |
อร่าม |
งามด้วย |
ศักดิ์ศรี |
- ม ซ ล |
ด ซ ล ด |
ซ ล ด ร |
ม ด ร ม |
- ล ซ ม |
- ร - ด |
- ร ม ซ |
- ร - ม |
ยามพี่ล่อง |
เรือมา |
ตามประสา |
บ้านเรา |
หาคนงาม |
ถามข่าว |
มองหาสาว |
ไม่มี |
- - - - |
- - - ม |
- ม ม ม |
- - ม ม |
|
|
|
|
---- |
ชี- |
-วีแทบ |
ขาดรอน |
|
|
|
|
ท่อน ๒ มาจากเพลงแขกมอญบางขุนพรหม ๒ ชั้น ท่อน ๓
- - - ซ |
- - ฟ ซ |
- - ล ซ |
ฟ ร ฟ ซ |
- - - ซ |
- - ฟ ซ |
- - ล ซ |
ฟ ร ฟ ร |
บาง |
ปะกง |
น้ำคง |
ขึ้นๆลงๆ |
ใจ |
อนงค์ |
ก็คง |
เลอะเลือนกระล่อน |
- - - ซ |
- - ฟ ซ |
- - ล ซ |
ฟ ร ฟ ซ |
- ฟ ซ ล |
- ร ฟ ซ |
- ด ร ฟ |
- ท ด ร |
ปาก |
น้ำเค็ม |
ไหลขึ้น |
ก็จืดก็จาง |
ใจ |
น้องนาง |
รักนาน |
เลยจางจากจร |
- ม ม ม |
ซ ม ร ด |
ร ด ล ด |
- ร - ฟ |
ซ ฟ ล ซ |
ล ฟ ซ ร |
ฟ ร ซ ฟ |
ซ ร ฟ ด |
ใจนารี |
สวยสด |
คงคด |
ดั่งลำน้ำ |
พี่ขืน |
พายจ้ำ |
คงต้องช้ำ |
แน่นอน |
ซ ล ท ด |
ร ด ท ล |
ซ ฟ ซ ล |
ซ ล ท ด |
ร ร ร ซ |
ร ฟ ร ด |
ท ด ซ ล |
ท ร ด ท |
ต้องจอดเรือ |
ขอลา |
แม่กานดา |
งามงอน |
วอนหลวงพ่อ |
โสธร |
จงดลใจ |
ให้ยอดชู้ |
- ล - ซ |
- ฟ - - |
- ร - - |
- ด - ร |
- ฟ - - |
- ด - ร |
- - - ด |
- ท - - |
---- |
เจ้าอยู่ |
แห่ง |
ไหน |
อยู่ใกล้ |
หรือไกล |
สุด |
กู่ |
- ซ - ร |
- ด - ร |
ฟ - ด ร |
- ด - ท |
- ฟ ซ ล |
ฟซซซ |
ลซฟร |
- ฟ - ซ |
ได้ยิน |
เพลงร้อง |
น้องจง |
คืนสู่ |
พี่จะคอย |
พธู |
อยู่ที่บาง |
ปะกง |
หมายเหตุ โน้ตเพลงที่นำเสนอเป็นทางหรือระดับเสียงที่เป็นมาตรฐานของเพลงนั้น ๆ หากนำเพลงตั้งแต่ ๒ เพลงมาเล่นต่อกันให้กลมกลืนกันอาจต้องเพิ่มลดระดับเสียงของเพลงใดเพลงหนึ่ง
ฟังเพลงรักจางที่บางปะกง
๓. เพลงวันวิวาห์ ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง ขับร้องโดยคัมภีร์ แสงทอง
เพลงนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักเมื่อเทียบกับเพลงน้ำใจชาวเหนือหรือเพลงรักจางที่บางปะกง แต่ความพิสดารของเพลงอยู่ที่ในเพลงท่อนเดียวกัน ตอนต้นของท่อนเพลงเป็นทำนองสร้อยสนตัด ๒ ชั้น แต่ตอนปลายของท่อนเป็นทำนองลาวครวญ ๒ ชั้น
เพลงสร้อยสนเป็นเพลงเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา อัตรา ๒ ชั้น เป็นเพลงอันดับที่ ๒ ในเพลงตับเรื่องอรุ่ม และเป็นเพลงประเภทเพลงช้าเรื่องสร้อยสน ซึ่งมีอยู่ ๔ ท่อน ๒ ท่อนแรกเรียกชื่อสร้อยสน ๒ ท่อนหลังเรียกเพลงพวงร้อย เพลงเรื่องสร้อยสน เป็นเพลงประเภทเพลงช้าที่มีท่วงทำนองไพเราะงามสง่า แสดงถึงจริยาวัตรอันงดงาม ปี่พาทย์พิธีจึงนิยมนำมาบรรเลงต่อจากเพลงโหมโรง และใช้บรรเลงรับพระสงฆ์เมื่อเดินทางมาถึงสถานประกอบมงคลพิธี เพลงสร้อยสนเมื่อตัดทำนองลง จึงเรียกชื่อเสียใหม่ว่า “สร้อยสนตัด”
โน้ตเพลงสร้อยสนตัด
---- |
มซซซ |
ลซดํม |
-ซ-ล |
--ดร |
มรดํล |
---ซ |
มลซม |
---- |
ซลลล |
ดํรํดํล |
-ซ-ม |
--ซร |
มดรม |
---ซ |
ลมซล |
---- |
---- |
-ดํ-ล |
-ลลล |
--ดํล |
ซมซล |
--รํดํ |
ลดํ-รํ |
--ดํมํ |
-ซํ-รํ |
-มํซํรํ |
มํรํดํล |
ซลซดํ |
-รํ-มํ |
ซํลํซํมํ |
-รํ-ดํ |
ฟังเพลงสร้อยสนตัด http://www.4shared.com/audio/YHek8HxD/04_-_.htm
เพลงลาวครวญเป็นเพลงเก่า ไม่ทราบนามผู้แต่ง เป็นเพลงไทยสำเนียงลาว มีท่อนเดียว อัตราจังหวะสองชั้น มีโน้ตดังนี้
---- |
---- |
-ซ-ม |
รดรม |
---- |
ซลดํรํ |
-ดํ-มํ |
รํรํรํรํ |
--- ซ |
-ซซซ |
ลซมซ |
-ล-ดํ |
---ดํ |
-ดํดํดํ |
-ซํ-ม |
รํดํ-รํ |
ฟังเพลงลาวครวญ
เดี่ยวระนาดเอกโดยขุนอิน http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sweethome&month=05-05-2009&group=16&gblog=14
บรรเลงโดยวงโรงเรียนจิตรลดา ขับร้องโดย ณัฐวิภา มูลธรรมเกณฑ์ ใช้เนื้อร้องเดิมจากบทละครเรื่องพระลอ พระนิพนธ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=7365
เพลงวันวิวาห์
ท่อน ๑ (สร้อยสนตัด) แว่วเสียงโห่ดัง น้ำตาของพี่ตกใน มองเห็นคนมากมาย กลุ่มหญิงชายเริงร่า ไชโยไชโย ฟังเขาโห่กันมา น้ำตาพี่นองหน้า วันลาของเจ้ามาแล้ว (ลาวครวญ) หัวใจอาดูร ใจอาดูรต้องสูญรักแล้ว เสียดายนัก รักมาผิดแนว รักแล้วต้องแค้นกัน
ท่อน ๒ (สร้อยสนตัด) บ้านเรือนเคียงกัน แค่เพียงรั้วกั้นตรงกลาง แอบแย้มบานหน้าต่างมองเห็นคนจุ้นจ้าน น้ำตาร่วงพรู เห็นเขาคู่เคียงกัน สังข์ลงมือนาง ดังน้ำกรดรดฉัน (ลาวครวญ) เสียดายเอวกลึง เอวกลึงน้ำผึ้งพระจันทร์ จะถูกเขาลิ้มชิมรสหวาน เห็นพลันจะเป็นลม
๔. เพลงน้ำตาแสงไต้
เพลงนี้มาจากเพลงเขมรไทรโยคสามชั้นและเพลงลาวครวญสองชั้น การแต่งทำนองได้ดัดแปลงแนบเนียนจนฟังไม่ค่อยออกว่ามาจากทำนองเพลงอะไร มีแต่ตอนต้นเพลงและตอนกลางของเพลงแต่ละท่อนพอฟังออกได้บ้างว่าเป็นทำนองเพลงใด ดีที่ผู้ประพันธ์คือ สง่า อารัมภีร์ (แจ๋ว วรจักร) ได้เคยให้ข้อมูลไว้ว่าได้ทำนองมาจากเขมรไทรโยคกับลาวครวญ มูลเหตุแห่งการแต่งเพลงนี้เนื่องจากจะต้องใช้ในการแสดงละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์ เพลงเอกของเรื่องยังแต่งไม่เสร็จ ครูแจ๋วที่จริงไม่ได้มีหน้าที่แต่งเพลง แต่เมื่อคณะละครเป็นกังวลว่าเพลงไม่เสร็จก็จะมีปัญหากับการเปิดการแสดงในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๘๗ ครูแจ๋วจึงเป็นกังวลไปด้วย จนได้ฟังครูเพลงคนหนึ่งร้องเพลงลาวครวญและเพลงเขมรไทรโยคในขณะที่รับประทานอาหารด้วยกัน เห็นว่ามีความไพเราะมาก เมื่อนอนหลับในคืนนั้นจึงฝันเห็นว่ามีคนเล่นเพลงที่เคล้าเพลงเขมรไทรโยคและเพลงลาวครวญเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จึงจำทำนองมาเล่นให้มารุต (ทวี ณ บางช้าง) และเนรมิต (อำนวย กลัสนิมิ) ซึ่งเป็นผู้กำกับละครฟัง เป็นที่ชอบใจว่าไพเราะและมีความเป็นไทยเหมาะสมกับละครมาก ให้ชื่อว่าเพลงน้ำตาแสงไต้ โดยมารุตกับเนรมิตช่วยกันแต่งคำร้องเสร็จภายใน ๑๐ นาที เพลงนี้กลายเป็นเพลงลูกกรุงอมตะเพลงหนึ่ง (ข้อมูลเรื่องนี้เก็บความมาจาก http://muzik4event.multiply.com/journal/item/21) สำหรับเนื้อเพลงที่ขึ้นต้นว่า “นวลเจ้าพี่เอย” นั้น นวลเป็นชื่อคนรักของพันท้ายนรสิงห์ เป็นชื่อสมมุติที่แต่งขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงละคร แต่การณ์ภายหลังปรากฏว่ามีคนเชื่อว่าเป็นคนรักของพันท้ายนรสิงห์จริง ๆ ถึงขั้นมีการสร้างศาลเจ้าแม่นวลขึ้นคู่กับศาลเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์ในที่สุด
เพลงน้ำตาแสงไต้
คำร้อง มารุต - เนรมิต
ทำนอง สง่า อารัมภีร์
นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ ถ้อยคำเหมือนจะชวน
ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย
น้ำตาอาบแก้ม เพียงแซมเพชรไสว แวววับจับหัวใจ เคล้าแสงไต้งามจับตา
นวลแสงเพชร เกล็ดแก้วอันล้ำค่า คราเมื่อแสงไฟส่องมา
แวววาวชวนชื่นชม
น้ำตาแสงไต้ ดื่มใจพี่ร้าวระบม ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์
จำใจข่มใจไปจากนวล
ฟังเพลงน้ำตาแสงไต้
วิพล นาคพันธ์
๑๐ กันยายน ๒๕๕๓
อ่านข่าวสารทั้งหมดของวิพล นาคพันธ์ ได้ที่ http://gotoknow.org/blog/wiphon/toc
ไม่มีความเห็น