[๙๕๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุสองรูปโต้เถียงกัน ในการโต้เถียงกันนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง
ได้พูดล่วงเกิน.
ครั้งนั้นแล ภิกษุผู้พูดล่วงเกินนั้นแสดงโทษโดยความเป็นโทษ (รับผิดและ
ขอโทษ) ในสำนักของภิกษุนั้น ภิกษุนั้นไม่รับ.
[๙๕๓] ครั้งนั้นแล ภิกษุเป็นอันมาก พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่งอยู่ ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง เมื่อนั่ง ณ ที่ควร
ส่วนหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอ
ประทานพระวโรกาส ภิกษุสองรูปได้เถียงกัน ในการโต้เถียงกันนั้น ภิกษุรูปหนึ่งได้
พูดล่วงเกิน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลำดับนั้น ภิกษุผู้พูดล่วงเกินแสดงโทษโดยความ
เป็นโทษในสำนักของภิกษุนั้น ภิกษุนั้นไม่รับ พระพุทธเจ้าข้า.
[๙๕๔] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลมี ๒ จำพวก
นี้ คือ ผู้ไม่เห็นโทษโดยความเป็นโทษ . ผู้ไม่รับตามสมควรแก่ธรรมเมื่อผู้อื่นแสดง
โทษ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลมี ๒ จำพวกนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัณฑิตมี ๒ จำพวกนี้ คือผู้เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ๑
ผู้รับตามสมควรแก่ธรรมเมื่อผู้อื่นแสดงโทษ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัณฑิตมี ๒
จำพวกนี้แล.
[๙๕๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทพ เมื่อจะ
ทรงยังเทวดาชั้นดาวดึงส์ให้พลอยยินดี ณ สุธรรมาสภา จึงได้ตรัสพระคาถานี้ในเวลา
นั้นว่า
ขอความโกรธ จงอยู่ในอำนาจ
ของท่านทั้งหลาย ขอความเสื่อมคลายใน
มิตรธรรม อย่าได้เกิดมีแก่ท่านทั้งหลาย
ท่านทั้งหลาย อย่าได้ติเตียนผู้ที่ไม่ควร
ติเตียน และอย่าได้พูดคำส่อเสียดเลย
ก็ความโกรธ เปรียบปานดังภูเขา ย่อมย่ำยี
คนลามก.
อรรถกถาอัจจยสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในอัจจยสูตรที่ ๔ ต่อไปนี้ :-
บทว่า สมฺปโยเชสุ แปลว่า ทะเลาะกัน. บทว่า อจฺจสรา ได้แก่ ล่วงเกิน.
อธิบายว่า ภิกษุรูปหนึ่ง ได้กล่าวคำล่วงเกินภิกษุรูปหนึ่ง. บทว่า ยถาธมฺมํ น ปฏิคฺ
คณฺหาติ ได้แก่ ไม่ยกโทษ. บทว่า โกโธ โววสมายาตุ ท่านแสดงว่า ความโกรธ
จงมาสู่อำนาจของพวกท่าน พวกท่าน อย่าไปสู่อำนาจของความโกรธ. คำว่า หิ
ในบทนี้ว่า มา จ มิตฺเต หิ โว ชรา เป็นเพียงนิบาต. ความเสื่อมในมิตรธรรม อย่า
เกิดแก่พวกท่าน. อีกอย่างหนึ่ง ตติยาวิภัตติลงในอรรถแห่งสัตตมีวิภัตติ. อธิบาย
ว่า ความเสื่อมในมิตรธรรมอย่าเกิดแล้ว คือว่าความเป็นโดยประการอื่นจากความ
เป็นมิตรจงอย่ามี. บทว่า อครหิยํ มา ครหิตฺถ ความว่า อย่าติเตียนผู้ไม่ควรติเตียน
คือบุคคลผู้เป็นขีณาสพ.
จบอรรถกถาอัจจยสูตรที่ ๔
ขอบพระคุณเจ้าค่ะ