เหนื่อยแต่ไม่ท้อ


หลังจากรถเสีย ก็ไม่ได้ไปเยี่ยมฟาร์ม สองอาทิตย์ เจ้าของสวนโทรหาว่าเมื่อไหรจะมา เหนื่อยจะตายแล้วหาแกลบก็ไม่ได้ ฝนก็ตกนำ้ป่าทะลักเข้าคอกหมู หมูนอนแช่น้ำทั้งคืน ช่วยมาแวะหาหน่อย ผมก็ติดงานกลุ่มโซนอำเภอให้ช่วยนำเสนองานป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และเจ้าหน้าที่จากเชียงใหม่ก็จะมาเยี่ยมด้วย และเจาะลงไปว่าจะเข้าเยี่ยมสวนลุงสมัยที่น้ำท่วมนี้พอดีเลยก็เลยมีโอกาสเข้าไปดูหมูที่คิดถึงว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ไปถึงรีบไปดูก่อนเลย ตลกดีเห็นแต่ลูกตา ขาวขาวๆทั้งตัวเลอะโคลนขี้หมูดูดำไปหมด 

ส่วนสมัยเจ้าของสวนที่เลี้ยงหมูก็นั่งบนกับเจ้าหน้าที่ที่มาว่าเหนื่อยหาเงินมาได้เอาไปจ่ายค่าแกลบให้หมูหมดเลย จะทำยังไงดีว่างั้น

เจ้าหน้าที่ก็ดีครับช่วยแนะนำให้ขายหมูออกบ้าง อย่าเลี้ยงเกินกำลัง 

สมัยถามอีกว่าหมูไม่โต สงสัยว่าพันธุ์ไม่ดีมั้งเลี้ยงอาหารหมักมาห้าเดือนกว่าแล้วยังหนักแค่ 40- 50 กิโลเท่านั้น

เจ้าหน้าที่เขาตอบว่าเลี้ยงหมูหลุมนะไม่ใช่หมูขุน ถ้าจะเลี้ยงขุนอาหารต้องถึง ทุนต้องสูง มีเงินไปชื้ออาหารสำเร็จมาให้ก็โตได้เพราะโปรีสูง โปรตีนมีความจำเป็นมากสำหรับขุน ต้องเข้าใจตรงนี้ 

 ลุงสมัยได้ปรับทุกข์ พอแม่บ้านมาก็มาบ่นบ้างว่าเหนื่อยไม่มีเวลาเลย ปีก่อนยังได้ปลูกผัก พริกไปขายพอมีรายวัน แต่วันนี้ต้องรอเงินเดือนลูกชายมาจุนเจือเลี้ยงหลานกินไปวันๆ ดีที่เข้าไม่ได้ชื้อไม่งั้นหนักเข้าไปอีก

เจ้าหน้าที่พากันปลอบให้กำลังใจนะแต่ไม่ได้ให้กำลังเงิน อิอิ แล้วก็จากไป 

ผมพยายยามอยู่ห่างๆให้ลุง ป้า ปรับทุกข์ได้เต็มที่ไม่เกรงใจผมชึ่งสนับสนุนส่งเสริมให้ทั้งสองเลี้ยงหมูหลุม

เหนื่อยครับแต่ไม่ท้ออุปสรรคมี ไว้ไห้แก้ไขครับ

หมายเลขบันทึก: 387092เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2010 10:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 22:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท