เดือนรอมฎอนปีนี้ทำให้ผมหวนคิดถึง ตอนที่ยังเรียนหนังสือโดยเฉพาะช่วงชีวิตที่อยู่หอพัก ตอนสมัยเรียนระดับมัธยมที่นครศรีธรรมราช ผมก็ได้ไปฝากท้องละศีลอดที่สุเหร่าซอลาฮุดดีน แต่พอโตมาหน่อยเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ สุเหร่าที่ไปละศีลอดเป็นประจำ ก็คือสุเหร่าศูนย์กลาง ถนนรามคำแหง
และตอนที่พักอยู่แถวลาดกระบัง ก็ได้ละศีลอดและทานข้าวมื้อก่อนสว่างที่ร้านพี่นก ซึ่งอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวถึงร้านพี่นกเลยจะขอบันทึกความดี ความร่ำรวยน้ำใจของพี่นกเอาไว้ในบันทึกนี้ด้วย
ปกตินักศึกษามุสลิมก็จะมาอุดหนุนร้านพี่นกเป็นประจำ แต่ในเดือนรอมฎอนพี่นกจะบอกให้น้องๆ ชมรมมุสลิมทุกคนมาละศีลอด และรวมทั้งมื้อก่อนสว่างฟรี แต่มาช่วยทำอาหารกันเอง ทั้งๆที่เห็นว่าพี่นกไม่ได้เป็นคนร่ำรวย แถมมีภาระเลี้ยงดูลูกวัยเรียนอีกสองคน แต่พี่นกยอมสละให้นักศึกษามาใช้ข้าว ปลาอาหารเครื่องปรุงในร้านแบบไม่คิดเงินเลยตลอดทั้งเดือน
ด้วยความขัดสนเรื่องค่าครองชีพในสมัยเรียน เดือนรอมฎอนจึงช่วยให้ผมรู้สึกว่าเรามีที่พึ่งพิงในเรื่องอาหารการกิน แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผู้ที่ขัดสนแล้ว ผมคนหนึ่งยืนยันได้ว่าอาหารทุกคำที่กินมันมีความหมายอยากเกินคำอธิบายให้เข้าใจได้ และตอนที่ผมกินอาหาร ก็เคยคิดไปว่าน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมศาสนาอิสลามจึงบอกให้ผู้คนบริจาคทาน โดยเฉพาะให้แก่ผู้ที่ขัดสนในเดือนนี้ อย่างน้อยที่สุดผู้ที่มีมากกว่าก็สัมผัสรสชาติความหิวโหยด้วยตนเอง และจากการปฏิบัติด้วยตนเองเช่นนี้ น่าจะมีส่วนทำให้เข้าใจได้บ้างว่ารสชาติของความหิวโหย ซึ่งเป็นด้านหนึ่งของผู้ที่ขัดสนนั้นเป็นเช่นไร
ท้ายนี้ขอประทานพรจากเอกองค์อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ตอบแทนผลบุญแก่เขาผู้ให้เหล่านั้น ทั้งที่ข้าพเจ้ารู้จักและไม่รู้จักด้วยเทอญ อามีน
หลายวันก่อนได้เห็นพี่ธวัชละหมาดที่สำนักงานช่วงกลางวัน นึกยกย่องชื่นชมว่าพี่ธวัชนี่เป็นผู้ที่มีความประพฤติและปฏิบัติตนได้ดี โดยเฉพาะการทำหน้าที่ศาสนิกที่ดี ก็ทำได้แม้จะอยู่ในความแวดล้อมที่แตกต่าง (ต่างศาสนา) ซึ่งต้องอาศัยกำลังใจภายในตัวมากกว่าทำ
นึกเลยไปว่า คนดีนี่มีอยู่ทุกที่ทุกศาสนาครับ
นับถือ นับถือ
จำอีเมลืไม่ได้เลยฝากมาทางนี้ก็แล้วกัน ขอมาอัฟด้วย