ในขณะนี้จะเห็นว่าพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันได้ขยายเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นแหล่งผลิตเดิมหรือพื้นที่ใหม่ อาจสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐตามโครงการปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อทดแทนพลังงานหรือโครงการส่งเสริมของจังหวัด เพื่อต้องการขยายพื้นที่ให้ได้ตามจำนวนพื้นที่ที่กำหนด จนมีคำถามตามมาว่าบางพื้นที่หรือบางจังหวัดเหมาะสมหรือไม่ ขณะที่เราถกเถียงกันอยู่เกษตรกรเดินหน้าปลูกกันไปไม่รู้ไปกี่ร้อยกี่พันไร่แล้ว เมื่อต้นปี2549 การปลูกปาล์มน้ำมันเริ่มชะลอตัวลงการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับต้นกล้าปาล์มน้ำมันเริ่มซบเซา ราคายางพาราก็แผ่รัศมีมาบดบังมาประจวบกับราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ แว่วมาว่าสาเหตุเกิดจากผลผลิตปาล์มน้ำมันออกล้นตลาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้เราฐานะนักส่งเสริมเริ่มตระหนักว่า นับจากนี้หากไม่มีมาตรฐานการจัดการรองรับผลผลิตที่ชัดเจนปัญหาผลผลิตล้นตลาดก็จะตามมาอีก ผมได้มีโอกาสพูดคุยพบปะเกษตรกรสวนปาล์มรายย่อยส่วนใหญ่ จะมาตัดพ้อว่า สวนปาล์มน้ำมันของเขาลงทุนดูแลบำรุงรักษาอย่างดี เพื่อให้ผลผลิตได้คุณภาพและทยอยออกสม่ำเสมอ เมื่อมาประสบภาวะราคาตกต่ำก็รู้สึกท้อเพราะต้นทุนเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมีซึ่งเปลี่ยนแปลงไปมาก <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"><div align="left" style="text-align: center"> การผลิตสินค้าเกษตรของเกษตรกรที่ให้ได้คุณภาพและมาตรฐานเป็นการผลิตให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐไม่ใช่หรือ ถ้าหากเป็นไปได้ในอนาคตน่าจะมีการดูแลในเรื่องการซื้อขาย ผลผลิตแบบคัดเกรดจากเปอร์เซนต์น้ำมันเป็นไปด้วยความยุติธรรมและไม่เป็นข้ออ้างของโรงงานเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์น้ำมันเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้มีโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ยั่งยืนต่อไป</div> <div align="left" style="text-align: center"></div> <div align="left" style="text-align: center"></div> <div align="left" style="text-align: center"><div style="text-align: center"></div></div></p><div style="text-align: center"></div>