ทักษะการใช้เทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับผู้บริหาร
ประกอบด้วย 5 ทักษะที่สำคัญ คือ
ทักษะที่ ๑ ทักษะการคิดวิเคราะห์
ผู้บริหารต้องสามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาจากสภาพและปัจจัยต่างๆ และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาได้ว่าปัญหาใดที่ควรจะต้องแก้ไขเร่งด่วน ปัญหาใดควรจะต้องแก้ไขลำดับต่อไป และต้องวิเคราะห์บนพื้นฐานของสารสนเทศที่ถูกต้องแม่นยำและเชื่อถือได้ผู้บริหารสามารถคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมในการปฏิบัติงาน ผู้บริหารโรงเรียน ควรได้รับการฝึกฝนและพัฒนาทักษะด้านวิสัยทัศน์ การได้รับประสบการณ์ตรงจากการอบรมสัมมนา หรือการศึกษาดูงานการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา ที่เป็นองค์ความรู้ใหม่ เป็นการเพิ่มพูนความรู้ และเป็นการจุดประกายความคิดในการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรม โดยเขตพื้นที่การศึกษาควรวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนให้ครอบคลุม เพื่อให้ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะทางการบริหาร การสร้างเครือข่ายการพัฒนา เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมทักษะทางการบริหารอย่างมีประสิทธิผล
ทักษะที่๒ ทักษะการคิดนอกกรอบ
ผู้บริหารต้องมีความคิดและกล้าที่จะคิดนอกกรอบคือเป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมีคุณภาพและพัฒนาอย่างยั่งยืนผู้บริหารสามารถใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อลดความขัดแย้งของบุคลากร เนื่องจากผู้บริหารต้องทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยคนอื่น คนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น ผู้บริหารโรงเรียนจึงควรฝึกฝนและพัฒนาตนเองในการใช้ทักษะการบริหารทั้ง 4 ด้านอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ บูรณาการเข้ากับการใช้เทคนิคและกระบวนการบริหารในรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสมตามสถานการณ์ เพื่อบริหารจัดการศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์
ทักษะที่๓ ทักษะในการคิดสร้างสรรค์
ผู้บริหารต้องมีความคิดที่สร้างสรรค์ คิดในสิ่งใหม่ๆและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและเกิดผลคือได้ทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลผู้บริหารสามารถบูรณาการความคิดของบุคลากรไปใช้ในการปฏิบัติงาน ควรพัฒนาตนเอง โดยการเปิดใจกว้างและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมงาน การเข้าร่วมอบรม ประชุมสัมมนา หรือการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกันกับผู้บริหาร ทำให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็นกระบวนการสร้างความมีส่วนร่วม สร้างการรับรู้ร่วมกัน และมีการทำงานเป็นทีม การฝึกฝนตนเองโดยการนำหลักธรรรมมาประยุกต์กับทักษะทางการบริหาร เช่น กัลยาณมิตตา โยนิโสมนสิการ และพรหมวิหาร 4 จะช่วยให้ผู้บริหารโรงเรียนสามารถครองตน ครองคนและครองงาน เป็นการเพิ่มสมรรถนะทางการบริหารและสามารถบริหารจัดการศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ
ทักษะที่๔ ทักษะการสื่อสารสร้างการเข้าใจ
ผู้บริหารต้องเป็นผู้ที่สามารถเข้าใจในทุกๆเรื่องทุกๆคน เข้าใจทุกทุกสภาพปัญหา และสื่อความหมายให้กับทุกคนเข้าใจด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา คือ การนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์โดยการนำระบบเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ เช่น ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรทัศน์ เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่โต้ตอบกับผู้ใช้ ประกอบกับการใช้แหล่งความรู้ที่หลากหลาย จะทำให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ตามความสนใจ นอกจากนี้จะพบว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารยังมีศักยภาพในการลดข้อจำกัดด้านเวลาและระยะทางส่งผลให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ ก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ทักษะ๕ ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ผู้บริหารต้องสามารถสื่อสารกับทุกคนทุกเพศทุกวัยได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งเป็นผู้ส่งสารหรือเป็นผู้รับสารก็ตาม ต้องสร้างสื่อเพื่อสื่อสารกับสังคมหรือโลกได้และเป็นการประชาสัมพันธ์ข้อมูลขององค์กรตนให้กับสังคมโลกรับทราบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มีบทบาทสำคัญมากขึ้น ต่อการพัฒนาประเทศทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการศึกษา ในขณะเดียวกันเทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมากโดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งทุกระบบและทุกภาคส่วนมีการใช้อย่างกว้างขวาง และหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งด้านการจัดการศึกษา
ไม่มีความเห็น