ผู้บริหารสถานศึกษากับการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศยุคโลกาภิวัฒน์


ผู้บริหารสถานศึกษากับการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศยุคโลกาภิวัฒน์

ผู้บริหารสถานศึกษากับการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศยุคโลกาภิวัฒน์

 คำว่า  เทคโนโลยีสารสนเทศในยุคโลกาภิวัฒน์นั้น หมายถึง  ทั้งเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  เทคโนโลยีฐานข้อมูล  เทคโนโลยีการสื่อสาร เทคโนโลยีการศึกษา  มีความรวดเร็วทันสมัยทั้งต่อผู้ใช้บริการและผู้รับบริการ  เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตไร้สาย ใยแก้ว ไวเรส ระบบสามจีซึ่งจะมีใช้ในไทยอีกไม่นาน  โดยมีลักษณะสำคัญคือ

-เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการประมวลผลรายวัน

-เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการระบบเอกสาร เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการองค์กร

-เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ

-เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์

ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการอันมีเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนการสอน ดังนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหาร
การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ สถานศึกษาหรือโรงเรียนควรมีแนวทางในการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสารสนเทศในอันที่จะก่อให้เกิดการตัดสินใจแก้ปัญหาในทางที่ถูกต้อง สามารถกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการที่มีข้อมูลสารสนเทศสนับสนุนมากกว่าการคาดเดา ข้อมูลสารสนเทศดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสองส่วนด้วยกันคือ
1.1 ด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ส่วนนี้ถือว่าเป็นพื้นฐานของพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียน การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นระบบเครือข่ายจะสามารถทำให้การจัดการข้อมูลในแต่ละส่วนของโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบต้องสามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์แม่ข่ายได้ การเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนนั้น จัดทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพความพร้อมและงบประมาณ ดังนั้นโรงเรียนควรมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องระบบเครือข่ายเพื่อให้คำปรึกษาหรือจัดวางระบบให้ได้มาตรฐาน และรองรับการขยายตัวของระบบเครือข่ายในอนาคต
1 แนวทางการพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างง่าย
1.2 ด้านซอฟท์แวร์ สำหรับบริหารจัดการข้อมูล ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับระบบ เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายที่ดี แต่ถ้าไม่มีซอฟท์แวร์สำหรับบริหารจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้ระบบสารสนเทศในโรงเรียนไม่เป็นไปตามความคาดหวัง จะไม่มีข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการตัดสินใจแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
ซอฟท์แวร์ หรือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการบริหารงานที่ดีควรมีองค์ประกอบดังนี้
1.2.1 ควรเป็นโปรแกรมที่มีระบบการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกฝ่ายงาน ผ่านระบบเครือข่าย
1.2.2 ควรเป็นโปรแกรมที่สามารถประมวลผลข้อมูลใหม่ได้ทันทีที่ต้องการ (Real Time)
1.2.3 ควรเป็นโปรแกรมที่สามารถนำข้อมูลของแต่ละฝ่ายงานมาประมวลผลเป็น สารสนเทศที่เอื้ออำนวยต่อการบริหารงานในโรงเรียน
1.2.4 ควรเป็นโปรแกรมที่มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลตามลำดับชั้นของผู้รับผิดชอบ
รูปที่ 2 แสดงการบริหารข้อมูลพื้นฐานนักเรียน และการเรียกใช้
ฐานข้อมูลที่โรงเรียนควรต้องดำเนินการจัดเก็บเป็นข้อมูลกลางที่ฝ่ายต่าง ๆ สามารถเรียกใช้ผ่านระบบเครือข่าย ควรมีข้อมูลต่อไปนี้
ก. ข้อมูลนักเรียน   ข. ข้อมูลบุคลากร  ค. ข้อมูลแผนงาน/โครงการ 
สารสนเทศพื้นฐานที่จำเป็นต่อการบริหารงาน
ก. สารสนเทศเกี่ยวกับตัวนักเรียน เช่น
- สารสนเทศเกี่ยวสภาพครอบครัว
- สารสนเทศเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
- สารรสนเทศเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ข. สารสนเทศเกี่ยวกับบุคลากร
- สารสนเทศเกี่ยวกับประวัติบุคลากร
- สารสนเทศเกี่ยวกับความชำนาญการ และเชี่ยวชาญ
- สารสนเทศเกี่ยวกับการฝึกอบรม
ค. สารสนเทศเกี่ยวกับงานแผนงาน โครงการต่าง ๆ
- สารสนเทศเกี่ยวกับการดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ
- สารสนเทศเกี่ยวกับการใช้งบประมาณ
- สารสนเทศเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ของงาน โครงการ
นอกจากนี้โรงเรียนอาจจัดระบบข้อมูลอื่น ๆ ตามความจำเป็น ให้สามารถตอบโจทย์ได้ว่าโรงเรียนได้ดำเนินการให้บรรลุผลตามจุดประสงค์ ปรัชญา และวิสัยทัศน์ของโรงเรียนมากน้อยเพียงใด
2. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนการสอน
การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนการสอนนี้ ต้องอาศัยนโยบายด้าน ICT ของโรงเรียน เพราะการนำเทคโนโลยีมาเพื่อการเรียนการสอนนั้นต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง โดยโรงเรียนต้องดำเนินการให้มีวัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการใช้งานในอัตราส่วนที่เหมาะสมและสะดวกในการใช้งาน กระจายสู่ห้องเรียน มากกว่ารวมอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง และเน้นการใช้สื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และ สื่ออีเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินการ ดังนี้
2.1 ด้านอุปกรณ์ (Hard ware)โรงเรียนจำเป็นต้องจัดหาวัสดุอุปกรณ์โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ให้พอเพียงต่อการใช้งาน และกระจายลงสู่ห้องเรียน มากกว่ากระจุกอยู่ในห้องใดห้องหนึ่ง ซึ่งจะเอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมให้นักเรียนได้มีโอกาสใช้อุปกรณ์เพื่อนำเสนอผลงาน และศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ได้สะดวกและรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ควรจัดให้มีในห้องปฏิบัติการต่าง ๆ
ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ (เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์)
ห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์
ห้องปฏิบัติการทางภาษา (ภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ)
ห้องปฏิบัติการศูนย์การเรียนรู้
ห้องสมุดสำหรับสืบค้นข้อมูล และใช้สื่อประเภทต่าง ๆ
ห้องเรียนอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละโรงเรียน
2.2 ด้านสื่อการเรียนการสอน (Soft ware) โรงเรียนจำเป็นต้องจัดหาสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและสนับสนุนให้ครูใช้สื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเนื้อหาบทเรียนที่สอน โดยจัดเป็นศูนย์บริการสื่อการเรียนการสอน ซึ่งสื่อด้านอีเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ เช่น สื่อประเภทคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สื่อประเภทสารคดี สื่อประเภทสถานการณ์จำลอง สื่อประเภทฝึกทักษะต่าง ๆ

สรุปแล้วผู้บริหารสถานศึกษากับการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศยุคโลกาภิวัฒน์มีความสำคัญมากสำหรับสถานศึกษาทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าจริงหรือ??????????????เชิญแสดงความคิดเห็น

หมายเลขบันทึก: 380294เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2010 13:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 15:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ  จริงครับถูกต้องตามที่ท่านนำมาแบ่งปัน  แต่ไม่ได้สำคัญแต่เฉพาะปัจุบันและอนาคตเท่านั้น  แต่ในอดีตก็สำคัญด้วย  ที่การจัดการศึกษาเป็นอย่างนี้อยู่เพราะไม่มีใครคิดถึงอดีต  อดีตจะบอกว่าเราพลาดตรงไหน  พลาดตรงที่ผู้บริหารไม่ได้มองความสำคัญในด้านนี้ กลับมองว่าตัวตนของผู้บริหารสำคัญ  นี่คือสาเหตุที่โรงเรียนแต่ละโรงมีผลผลิตที่แตกต่างกัน  แต่ละวันทำหน้าที่หรือไม่แค่ไหน หรือไปทำหน้าที่อื่น ๆ  ทิ้งโรงเรียน ทิ้งเด็ก ทิ้งครูหรือไม่อย่างไร  ผู้บริหารที่เห็นความสำคัญตามสาระที่นำมาแบ่งปันได้ร้อยละ 50 ขึ้นไป  จะติดอันดับผู้บริหารชั้นเลิศได้  แม้แต่เรื่องที่จะต้องรู้ที่ท่านนำมาแบ่งปันนี้ผู้บริหารสนใจอยากรู้แค่ไหน  ที่ผมเสนอมามานี้เป็นภาพรวมนะครับ  ไม่ได้กระทบให้มีความรู้สึกที่ไม่ดีกับผู้บริหารครับ  แต่ด้วยความห่วงใยที่การไม่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารของผู้บริหารสามารถทำให้การจัดการบริหารสถานศึกษาล้าหลังไปด้วย  นี่สิสำคัญครับ   ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

ขอบคุณที่คอมเมนท์มาครับ จริงแล้วอย่างที่ท่านพูดมาแล้วทุกอย่างครับผู้บริหารบางคนเห็นประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตนเองครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท