ประชุมกันตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง ถึง 16.30 น.
แบบกระทัดรัดได้ใจความเน้น
การหาหนทางสร้างความสุขแบบยั่งยืนให้กับผู้ป่วยเบาหวาน
ที่ขึ้นทะเบียนไว้และเข้ารับการรักษาจากศูนย์ccc
จากOPD ที่มีทั้งแพทย์พยาบาล และนักสุขศึกษา นักจิตวิทยา
และจากกลุ่มที่น้องหมอจอย (แพทย์หญิงนฤมล)คนสวย
จากตึกปฐมภูมิ ลงไปลุยคัดกรอง ตรวจรักษา ให้คำแนะนำ ติดตาม
รวมๆทั้ง 3 จุด แล้วเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ ถึง 7000 คน
หากเราไม่สามารถควบคุมกลุ่มผู้ป่วยนี้
ให้สามารถดูแล ควบคุมเบาหวานได้แบบเข้มแข็ง
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนโรคขึ้นมา
ถึงเวลานั้นเบาหวาน คงทำให้บุคลากรทางการแพทย์เหนื่อยอีกหลายยก
เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นไม่ใช่น้อยเลย
แนวคิดที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร อยากทำนั้นคือ
ให้ผู้ป่วยเบาหวานยืนหยัดสู้กับเบาหวานได้ด้วยตัวเอง
โดยจะวางแผนเสริมพลังใจ พลังคิดให้แยบยล
ให้ผู้ป่วยได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อส่งพลังใจให้กันและกัน ดูแลซึ่งกันและกัน
นึกถึงตรงนี้แล้ว ก็มองเห็นภาพ
มิตรภาพบำบัดเบาหวานเพื่อนช่วยเพื่อนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์
ด้วยหัวใจที่เบิกบาน
การช่วยเหลือกันในด้านจิตใจเป็นศิราณีโรคเบาหวานให้กันและกัน
ระหว่างผู้ป่วยกับผู้ป่วยแล้ว ดูออกจะสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนเบาหวานได้ดี
ที่น่าลองคือสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้ทั้งด้านภูมิความรู้ และภูมิชีวิต
ให้ผู้ป่วยด้วยกันมีทัศนคติที่ดีต่อโรคเบาหวาน
แม้เบาหวานจะเรื้อรังก็อยู่กับเบาหวานได้อย่างมีความสุข
หันมาดูจิต.....จิตวิญญาณของจิตอาสาที่ทำงานมิตรภาพเบาหวานบำบัด
เพื่อนช่วยเพื่อน ช่วยกันยืดอายุให้ผู้ป่วยมีวิถีชีวิตเหมือนคนปกติที่มีความสุขได้ไปนานๆ
พร้อมกันนี้ ผู้ร่วมประชุมทุกท่านซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญของโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ต่างมีความคิดที่จะทำงานเพื่อให้ผู้ป่วยมีสุขภาพดี
ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ
รวมทั้งพัฒนาให้ผู้ป่วย เรียนรู้การช่วยเหลือตนเองและผู้ป่วยด้วยกันเอง
นพ.โมลีได้ให้ข้อคิดแก่ที่ประชุมว่า ผู้ป่วยสามารถบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง
ให้ผู้ป่วยด้วยกันฟังได้ละเอียด และลึกซึ้งกว่าเล่าให้แพทย์ทราบ
ดังนั้นจึงเห็นว่าการสร้างมิตภาพเพื่อนช่วยเพื่อนนั้น
จะยังประโยชน์ให้แก่ผู้ป่วยเองเป็นอย่างมาก
อีกทั้งยังช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการรักษามากขึ้นอีกด้วย
สำหรับกลุ่มเบาหวานที่ถูกคุกคามด้วยโรคแทรกซ้อน
เป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่แล้ว
ที่จะดูแลให้การรักษาผู้ป่วยเพื่อให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขไปนานๆ
นึกถึงโรคแทรกซ้อนเบาหวานแล้วใจหายเหมือนกัน
ก็อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี
ระหว่างประชุมเห็นน้องสุภางค์เภสัชกรมือระวิงอยู่กับการพิมพ์รายงานการประชุม
คู่กับน้องมด เภสัชกรผู้ทำงานมากยิ่งกว่าเภสัชกรของโรงพยาบาล
งานนี้เห็นทีมเภสัชกรมากกว่าแผนกอื่นค่ะ
เห็นการประชุมแบบจริงจังแล้ว
ทั้งดีใจแทนผู้ป่วยทุกคนที่วงการแพทย์เอาใจใส่ผู้ป่วยเยี่ยงญาติมิตร
บอกตรงๆชื่นใจมาก..งานนี้มีโอกาสทุ่มสุดตัว
แล้วก็แอบนึกถึงงานของครูบ้าง
ดูเขาแล้วแอบย้อนมาดูตัวเอง ทำให้นึกถึงบางอย่าง
นึกถึงเวลาคุณครูประชุมกัน ในทุกระดับ ท่าทำแบบแบบนี้บ้าง
ถอดรหัสความคิดของแต่ละคนออกมาโชว์กลางจอให้ที่ประชุมเห็นทันที
เพราะบางครั้งพูดๆไป เสนอไปก็ลืมกลับประเด็นเดิมที่ยังไม่จบ
และคิดว่าถ้าจะให้ดี มีเครื่องcopy print สั่งบรื๊ดๆ....
ให้เรื่องที่ประชุมบรื๊ดออกมา...ออกมาทันทีที่ประชุมเสร็จ
แล้วแจกกลับบ้านเอาไปทบทวนได้ ไม่ต้องรออีกหลายๆวัน
กว่าจะได้สรุปรายงานรับรองซึ่งบางทีก็เผลอลืม
และพอกลับมาประชุมอีกครั้งหาเรื่องเดิมไม่เจอหรือต่อไม่ติด
กลายเป็นประชุมไปงั้นๆตามวาระเท่านั้นเองก็มี
หากไม่จดบันทึกเอาไว้บ้าง อาจนึกไม่ออก
ตอนท้าย...ที่ประชุมได้มอบความไว้วางใจให้เภสัชกรปราณี(น้องมด)
ได้ทำหน้าที่เลขาคนเก่งต่อไป
จนกว่าจะเอาชนะโรคเรื้อรังเบาหวาน........ได้สำเร็จตามเป้าหมาย
สำหรับการรายงานการดำเนินงานเพื่อให้ที่ประชุมรับทราบผล
และแนวทางทำงานที่ผ่านมาของน้องเภสัชกรปราณี(น้องมด)
รายละเอียดอื่นๆ รออ่านจากบันทึกของน้องมดอีกที
ก่อนจบนพ.อภิชาติ ตั้งคำถามให้ทุกคนหาคำตอบ
ว่าแกนนำจิตอาสาจะอยู่ที่ขาข้างไหนในจำนวน 4 ขา
ที่นพ.โมลีสรุปเรื่องการวางยุทธศาสตร์การทำงานรักษา
มันน่าคิดหลายประเด็นเหมือนกัน
ท้ายสุด นพ.โมลี และที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าหากออกมาในแนวนี้ได้ ในเวลา 3 ปี
ก็น่าจะเป็นตัวชี้วัดในการทำงานด้านสุขภาวะที่ดีของผู้ป่วยแบบยั่งยืนได้
อีกทั้งช่วยลดต้นทุนค่ารักษา แต่เพิ่มต้นทุนปัญญา ทุนชีวิตให้ผู้ป่วยแทน
ประหยัดงบประมาณมหาศาลที่ใช้รักษาผู้ป่วยเบาหวานเรื้อรัง
กลุ่มที่มีภาวะแทรกซ้อน
กลุ่มไตวาย หัวใจ ความดัน ไขมันในหลอดเลือด
ขอบคุณคุณนุ๊ยที่ช่วยเติมเต็มเรื่องตัวชี้วัด
ขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมประชุมเพื่อเบาหวานโดยแท้จริง
และวันนี้ขอนำบุญจากกิจกรรมแห่เทียนพรรษามาฝากค่ะ
แล้วรูปจะตามมาค่ะ
ขอบคุณทุกท่านทีแวะมาอ่านค่ะ
งานนี้มีนายแพทย์ร่วมประชุมถึง 4 ท่าน แพทย์หญิงคนเก่งอีก 1
เภสัชกรยกทีมมา มีคุณอำนวยนำหน้า
ครูมาร่วม 1 นักสุขศีกษาก็มาหลายคน นักสังคมมา 1
นักโภชนาการมา 1 นักจิตฯ และอีกหลายๆคนที่เคยร่วมงานเบาหวาน
พยาบาลวิชาชีพมากันเพียบ เห็นน้องโย่ง น้องอ๊อดแล้วอุ่นใจ
แต่พยาบาลสายฝนหายไป ได้ข่าวไปประชุม
งานนี้ยกนิ้วให้คุณหมอนพ.ทุกท่านที่ทำการบ้านมาอย่างดีทั้งๆที่คนไข้รอคิวยาวววว
รวมทั้งเภสัชกรปราณี (น้องมด) นั้นไม่ต้องพูดถึง
เธอเพียบพร้อมไปด้วยข้อมูล ....ขึ้นจอให้ชมกันเลยทีเดียว
อยากบอกว่าวันนี้ยิ้มสวย ยิ้มหล่อกันทุกคนเลยค่ะ
ท้ายบันทึกสบายๆไม่มีเรื่องเครียดนี้ แม้ความเครียดมันจะมาจ่อคิวรอตอนเผลอก็ตาม
ก็อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีทั้งกาย และใจค่ะ
อ๋อลืมบอกข่าวดี สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ทางน้องมด และจิตอาสาเตรียมงานสังสรรค์สำหรับผู้ป่วยเร็วๆนี้ค่ะ
รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขอบคุณ ที่ได้อ่านเรื่องราวดี ๆ ครับ
สวัสดีค่ะพี่ครูต้อยติ่งมาอ่านแล้วดีจังเลยค่ะการทำงานที่มีระบบที่ดี สุดยอดของการให้บริการนะคะ
สวัสดีค่ะพี่
มีความสุขมากมากนะคะ
ทำดีมากมายขนาดนี้
ชีวิตได้รับสิ่งดีดีเสมอค่ะ
เชื่อค่ะ...พระมองเห็นคนดีเสมอ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีดีนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ปล.ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ห้ามทำงานหนักค่ะ
เป็นห่วง
สวัสดีค่ะพี่
*** มาชื่นชมคนทำงาน....มีความสุขมากๆนะคะ
ขวัญ และกำลังใจของผู้ป่วยทุกคน
เป็นเรื่องที่ผู้ให้การรักษาดูแลเอาใจใส่อยู่แล้ว
สำคัญที่ผู้ป่วยเองจะสู้หรือไม่
ขอบคุณ คุณทิมดาบ ค่ะ
ขอบคุณค่ะน้องสาวNatcha Chalermklang
เข้ามาเม้นท์นี้พี่ก็มีความสุขแล้วค่ะ
งานดูแลผู้ป่วยนี่เป็นงานหนักนะคะ
ทั้งพยาบาล และคุณหมอนี่ น่าเห็นใจ
ไม่รู้ว่าเคยเจอผู้ป่วยหัวเราะอารมณ์ดีบ้างไหม
ประเภทเจอหมอแล้วขำ..คงไม่มีนะ
พี่อยากเห็นผู้ป่วยที่เข้มแข็ง
ยิ้มได้ทุกเวลาจังเลย
กิติยา เตชะวรรณวุฒิ
ขอบคุณค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ