ตอนนี้รถชีวภาพ3น่าจะเป็นชิ้นเป็นอันแล้วประมาณ50%ครับ
ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจาก2คันแรกที่เด่นๆก็คือ
และผมก็กำลังจะไปหาช่างดล เพื่อติดตามความคืบหน้าสำหรับสัปดาห์นี้แล้วละครับ (ถึงจะมีฝนโปรยๆมาบ้างก็อดใจรอไม่ไหวหรอกครับ) แล้วจะมีรายงานเพิ่มเติมอีกนะครับ
สวัสดีครับ
07/08/53 ตอนนี้รถเสร็จไปประมาณ60%แล้วครับ คือช่วงล่างทั้งหมด+ส่วนหนึ่งของระบบขับเคลื่อน เดี๋ยวพอระบบขับเคลื่อนเสร็จต่อไปก็จะเป็นเก้าอี้คนขับ+คนโดยสาร, หลังคา, แผงบังลมด้านหน้า, และการตบแต่งเก็บรายละเอียด ก็จะเสร็จเรียบร้อยครับ
09/10/53 ตอนนี้รถเสร็จไปประมาณ90%แล้วครับ เหลือแค่บุอลูมิเนียมบนโครงหลังคา, ทำแผงบังลม-ฝนที่หน้ารถ, ทำสี และตกแต่งอุปกรณ์เสริมเท่านั้นก็จะเสร็จสมบูรณ์ครับ รองรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งหมดได้เป็นที่น่าพอใจครับ เมื่อวานนี้ลองชั่งน้ำหนักรถได้46กก.ครับ ถ้ารวมส่วนที่เหลือด้วยก็น่าจะอยู่ที่48-50กก. เบากว่าคันที่2อยู่18กก. ซึ่งถ้าใช้วัสดุเป็นโครโมลีล์หรืออัลลอยด์ก็น่าจะเบาลงได้อีก15-30กก.
หลังจากนั้นจะวางแผนการผลิตเพื่อเผยแพร่ให้คนอื่นได้มีโอกาสใช้ในวงกว้างต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ car free everyday ที่ผมคิดไว้นานแล้วครับ
ผมยังมีแนวคิดจะทำอีกเวอร์ชั่นครับ เป็นรถสปอร์ต1ที่นั่ง ซึ่งจะเบาลงกว่านี้ได้อีกมาก เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความรวดเร็วในระดับใกล้เคียงกับจักรยานเสือภูเ้ขาครับ แต่ยังคงคุณสมบัติของรถชีวภาพไว้ คือการนั่งเหมือนขับรถยนต์+มีหลังคากันแดดกันฝนและใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศครับ คาดว่าคงจะทำต่อเนื่องไปทันทีที่คันที่3นี้สร้างเสร็จเลยครับ
02/12/53 รถเสร็จเรียบร้อยมาประมาณ10วันแล้วครับ ทดลองใช้งานได้ผลค่อนข้างพอใจ ล่าสุดเมื่อวานนี้ทำความเร็วทางราบได้21.2กม./ชม.(มีลมส่งท้ายเบาๆครับ) ตอนนี้กำลังทำความคุ้นเคยกับรถ และมองหาจุดอ่อนเล็กๆน้อยๆที่จะปรับแต่งให้สมบูรณ์แบบครับ ซึ่งพบบ้างแล้วหลายจุด (บางจุดก็เป็นเรื่องที่อาจเก็บไว้ทำตอนสร้างต้นแบบคันต่อไป--รุ่นสปอร์ตเรซซิ่งครับ) ส่วนด้านการตกแต่งให้สวยงามและอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆก็ทำเองครับ จุ้กๆจิ้กๆไปเรื่อยแล้วแต่ว่าจะปิ๊งไอเดียอะไรขึ้นมา
และเมื่อวานก็มีคนมาติดต่อขอให้นำรถเข้าร่วมขบวนพาเหรดในงานกีฬาสีของโรงพยาบาลพระปกเกล้าปีนี้-อีกแล้วครับท่าน
ยินดีครับ....................
โค้งคำนับนั่งอ่านช่วยสานฝัน
สาระดีมีจุดเด่นเป็นสำคัญ
ชอบสร้างสรรค์เสพหาวิชาการ
ขยันเขียนเวียนหามาบันทึก
เรื่องไม่นึกก็ได้เห็นเป็นแก่นสาร
เกิดความคิดติดปัญญาพาเชี่ยวชาญ
ประสบการณ์เก็บกองสมองเรา
ธนา นนทพุทธ
จักสานอักษรกลอนคิดเห็น
ขอบคุณครับ คุณธนาและท่านผู้อ่านทุกท่าน
ตอนนี้โครงรถเสร็จแล้วครับ กำลังจะติดตั้งเบาะนั่ง แล้วจากนั้นก็จะเป็นระบบขับเคลื่อนกับระบบบังคับเลี้ยว ซึ่งคงจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดของรถนี้ครับ แต่รายละเอียดทั้งหมดผมมีพร้อมอยู่แล้วละครับ ที่จะต้องใจเย็นรอหน่อยก็เป็นเพราะคิวงานของช่างดลเอง ว่าจะมีเวลาทำให้เมื่อไร เพราะช่างเองก็มีงานของคนอื่นๆรออยู่อีกมากเลยครับ
หวังว่าคงเสร็จในไม่เกิน2-3เดือนนี้ครับ
เรียนอาจารย์พรศักดิ์ครับ
สนใจรถที่อาจารย์ออกแบบครับ กะว่าถ้าให้คุณพ่อ คุณแม่ได้ขับในหมู่บ้านคงจะดีไม่น้อย ผมจำชื่อจริงๆไม่ได้ น่าจะเป็นบอดี้ไซเคิล คันที่เก้าอี้สีเหลือง ไม่มีหลังคาน่ะครับ ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยตอบกลับทางเมล์นะครับ
Best Regards,
Suchai Rojnawilikul
้เรียนคุณสุชัย ต้องขออภัยอย่างมากที่ผมไม่ค่อยได้เช็คเมล์ ก็เลยตอบมาช้าค่อนข้างมากครับ
ตอนนี้ผมเปลี่ยนชื่อรถในภาษาไทยมาเป็น"รถชีวภาพ"แล้วครับ และกำลังปรับปรุงการออกแบบให้ดีกว่า2คันแรกอยู่ครับ
คันที่คุณสุชัยพูดถึงนั้นเป็นรถต้นแบบคันแรก ซึ่งตอนนี้ผมใช้มาจนยางสึกหมดดอกยางไปแล้วครับ ปกติก็จะจอดไว้เฉยๆ นานๆทีจึงจะเอาออกมาใช้ครับ แล้วก็ในรูปที่ไม่มีหลังคานั้นคือตอนที่ยังทำไม่เสร็จน่ะครับ
เวลานี้ผมกำลังสร้างรถต้นแบบคันที่3ครับ เสร็จไปแล้วประมาณ90%ครับ เป็นแบบที่พัฒนาต่อมาจากคันที่2ครับ มี2ที่นั่ง+หลังคาปรับมุมก้มเงยได้ และผู้โดยสารช่วยออกแรงขับเคลื่อนรถด้วยครับ น่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไม่เกิน1-2เดือนนี้ละครับ
หลังจากนั้นจึงจะคิดถึงเรื่องการผลิตเพื่อเผยแพร่ให้คนอื่นได้มีโอกาสใช้ด้วยครับ ขอความกรุณาอดใจรออีกหน่อยนะครับ
ความคืบหน้าล่าสุด 30/12/53
รถเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ กำลังปรับจูนในรายละเอียดของการใช้งาน แก้ไขจุดเล็กๆบางส่วนไปแล้ว แต่ก็ยังมีให้แก้อีก2-3จุดครับ
ล่าสุดก็คือติดกระเป๋าข้างรถ สำหรับใส่ของได้ประมาณ15-18ลิตร และกันน้ำได้ด้วย
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับคันนี้ประมาณสี่หมื่นกว่าบาทครับ ลดลงจากคันก่อนๆครึ่งหนึ่ง
ถ้ามีใครสนใจอยากได้ใว้ใช้งานน่าจะสั่งทำให้ได้ในราคา45,000-50,000บาท +ค่าขนส่งต่างหากครับ
ตอนนี้ผมคุยกับคุณมนัสไว้ว่าจะให้คุณมนัสเป็นคนเผยแพร่ และจัดจำหน่ายให้
(คุณมนัสทำงานอยู่วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้าครับ) รออีกหน่อยผมจะแจ้งwebsiteของคุณมนัสให้ทราบครับ
คันนี้เป็นรถครอบครัวและใช้ออกกำลังกายไปด้วยในขณะเดินทาง แต่ถ้าต้องการความเร็วและน้ำหนักรถที่เบาลงอีกก็ขอให้รอรุ่นต่อไป ซึ่งผมคิดไว้ว่าจะเป็นรถสปอร์ตครับ แต่ใช้ขับขี่คนเดียวไม่มีที่นั่งสำหรับซ้อนท้ายนะครับ
รอลูกชายถ่ายรูปแล้วจะนำมาลงให้ดูกันครับ