การเจริญสติ
การเจริญสติ หมายถึง การกำหนดอิริยาบถให้ทันปัจจุบันและรับรู้ความรู้สึกตามทวารต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอตลอดเวลาให้มากที่สุด ความรู้สึกของคนมีทางรู้อยู่ 6 ทาง (ทวาร) คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้กำหนดรู้ไปตามความจริงที่ใจรู้พร้อมกับกิริยาเคลื่อนไหวอื่น ๆ ทำอะไรก็ให้มีสติกำหนดรู้ให้ทันปัจจุบันให้มากที่สุด
อิริยาบถใหญ่ คือ การยืน เดิน นั่ง นอน ส่วนอิริยาบถย่อย คือการเคลื่อนไหวกายทุกกิริยา เช่น การรับประทานอาหาร ดื่ม เคี้ยว กลืนเหลียว ก้ม เงย หยิบ ยก ตลอดจนการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ควรกำหนดให้ได้ให้มากที่สุด ความจริงไม่มีใครกำหนดได้ทุกกิริยาบถ ย่อมมีการพลั้งเผลอ เมื่อพลั้งเผลอก็ให้กำหนดตามความจริงว่า “เผลอหนอ”
สรุป การเจริญสติ เป็นการฝึกสติสัมปชัญญะให้เกิดกับตนเองเสมอทั้งในขณะกำลังทำงานและกำลังพูดเพื่อป้องกันการผิดพลาด
การเดินจงกรม
การเดินจงกรม คือการการเดินเป็นเส้นตรงระยะไม่เกิน 3 เมตร กลับไปกลับมา และในขณะที่เดินนั้นผู้เดินต้องมีสติกำหนดอิริยาบถให้ทันปัจจุบันตลอดเวลา การกำหนดอิริยาบถให้ทันปัจจุบัน คือ การพูด ค่อย ๆ หรือ นึกในใจตามกิริยาอาการที่กำลังกระทำอยู่โดยพูดหรือนึกพร้อมกับกิริยาอาการที่กระทำ (ไม่พูดก่อนหรือหลังการกระทำ)
ท่าเริ่มเดิน
1. ยืนตัวตรง มือทั้งสองข้างปล่อยตามสบายแนบลำตัว เท้าชิดกัน
2. ใบหน้าและลำคอตั้งตรง ทอดสายตาลงพื้นห่างจากปลายเท้าประมาณ 3-4 เมตร ไม่ก้มมองปลายเท้าและไม่มองระดับสูงไกลออกไปเพราะจะทำจิตสงบช้า
3. ยกมือมาวางที่หน้าท้องเหนือสะดือ แล้วยกมือขวามาวางทับมือซ้าย พร้อมกับเอาสติมาพิจารณากำหนดอิริยาบถ การยกมือนั้นใช้องค์ภาวนา ยก หนอ มา หนอ วาง หนอ
การเดิน
องค์ภาวนา คือ ขวา –ย่างหนอ, ซ้ายย่าง-หนอ
การเจริญปัญญา
สมาธิ คือ ความตั้งใจมั่นอยู่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยไม่คิดถึงเรื่องอื่น เช่น ขณะที่นักเรียนกำลังเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ จิตใจของนักเรียนก็จดจ่ออยู่เฉพาะเรื่องที่คุณครูกำลังสอนโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น
การเจริญสมาธิ คือ การฝึกสมาธิด้วยการยืน เดินและนั่ง เป็นต้น ต่อเนื่องกันทุกวัน อย่างสม่ำเสมอจนเป็นสมาธิ
ปัญญา คือ ความรอบรู้สิ่งที่ควรรู้ รู้จริง รู้แท้ รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เป็นการรู้อันเกิดจากเหตุและผล
การเจริญปัญญาหมายถึง การศึกษาค้นคว้า หาความรู้ ด้วยการลงมือปฏิบัติบ้าง ด้วยการฟังมาก ๆ บ้าง จนเกิดปัญญาความรอบรู้
การสวดมนต์ไหว้พระ
การสวดมนต์ไหว้พระเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้จิตใจให้เป็นสมาธิ เพราะในขณะสวดมนต์จิตจะเป็นสมาธิตัดความกังวลต่าง ๆ จิตที่ฟุ้งซ่านจะเริ่มสงบลง ดังนั้น นักเรียนนักเรียนควรสวดมนต์ก่อนนอนทุก ๆวัน
ไม่มีความเห็น