ศิลปะลงขวด...เจ็บปวดแต่งดงาม 2


เดือนมีนาคม พ.ศ. 2548 ฤดูกาลของวัยหนุ่มผ่านไปเกือบ 23 รอบ ผมเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเริ่มต้นงานใหม่ที่เพื่อนแนะนำ ผมเข้าทำงานในตำแหน่งกราฟฟิคดีไซเนอร์ของบริษัทรุ่นน้องที่อาศัยคอนโดชั้น 9 ดัดแปลงเปลี่ยนเป็นออฟฟิต เราทำงานกันอย่างลับๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี

1 เดือนครึ่งผ่านไป ผมและเพื่อนโดนไล่ออกพร้อมกัน 2 คน "หางานใหม่ กูไม่ง้อโว้ย" ผมได้งานใหม่แถวๆหอพักที่สะพานใหม่ แต่ก็ใช้เวลาเดินทางนานครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง เพื่อนผมหางานไม่ได้ พ่ายแพ้ กลับขอนแก่นอย่างผู้ปราชัยในชะตาชีวิต

การทำงานในบริษัทที่ดูเป็นทางการและมีมาตรฐาน เป็นอะไรที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผมพอสมควร ผมได้ใช้ชีวิตในแบบฉบับของพนักงานบริษัท ตื่นนอน ไปทำงาน ตอนเย็นนั่งรถกลับ หลับ กลับห้อง

ฤดูฝนมาเยือน ฝนตก ผมอกหัก รู้สึกเกลียดฝน "ผลของการอกหัก = ชีวิตไร้จุดยืน เดินคนเดียว เพลงเพราะขึ้น" ผมทำงานที่นั่นอยู่ 3 เดือนก็ออก พวกเค้าปฏิบัติต่อผมดีมาก ให้กำลังใจและเข้าใจในสิ่งที่ผมจะทำ พร้อมทั้งยังอวยพรขอให้ผมโชคดี ผมกลับขอนแก่นเนื่องจากเพื่อนชวนมาทำงานที่บริษัทของอาจารย์ ที่นี่เพื่อนเยอะ เพื่อนเรียนด้วยกันก็ 4-5 คน แต่... ผมทำอยู่ 2 เดือนก็โดนไล่ออก

ความรักครั้งใหม่ก้าวย่างมาให้ผมได้สัมผัสมัน ดื่มด่ำกับมันอย่างชุ่มชื่นหัวใจ ผมมีกำลังใจสู้ต่อ สมัครงานใหม่ เดนหางาน หรือแม้กระทั่งรับงานอิสระเอง เวลาผ่านไป 1 ปี ผมโต๋เต๋เตะฝุ่นอยู่แถวขอนแก่น พ่อแม่เริ่มเอือมระอา

เข้าสู่ปีที่ 2 ของการกลับมาอยู่ขอนแก่น ผมกับเพื่อนเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน 3 คน รับงานอิสระ หรือเรียกได้ว่า "รับจ้างทั่วไป" งานไม่ค่อยมี เงินไม่ค่อยมี เพื่อนๆแยกย้าย ผมเดียวดาย ต้องระหกระเหินไปอาศัยอยู่กับเพื่อนเหมือนนกปีกหักที่ต้องการที่พักเพื่อเลียแผล พอแผลเริ่มหาย ผมก็กลับมาเริงระบำได้อีกครั้ง ผมได้งาน ชีวิตดูท่าทางจะราบรื่นแต่ก็ทำอยู่ได้ไม่ถึง 3 เดือน ก็โดนไล่ออก อีกครั้ง...

ต้นปีต่อมา แฟนผมเรียนจบเธอต้องเข้าไปทำงานในบริษัทวิศวกรรมของญาติที่กรุงเทพฯ ผมต้องตามไปอยู่ด้วยและต้องหางานทำ พี่ชายที่รู้จักกันเมื่อสมัยวัยรุ่น เค้าเปิดตัวแบรนด์เสื้อแนว สตรีท ฮิบ-ฮอบ ต้องการให้ผมออกแบบลายเสื้อให้ ก็ยังพอได้ตังค์ใช้ แต่เนื่องด้วย รายได้แบบ "ได้บ้างไม่ได้บ้าง" ไม่สามารถทำให้ผมมีเงินพอที่จะอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างสุขสบายได้ ผมจึงต้องกลับบ้านและบอกเลิกแฟนทางโทรศัพท์ เธอร้องไห้ เจ็บปวดเจียนตาย...

ผลงานเสื้อที่ออกแบบ

1 เดือนผ่านไปผมโทรกลับไปง้อเธอ แต่พระเจ้าไม่ได้เข้าข้างผมเลย เธอไม่ให้อภัยผม มิหนำซ้ำ เธอมีคนใหม่ เธอสามารถเกลียดผมได้เท่าๆกับที่เธอรักผมสุดหัวใจ ผมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหางานและพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง...แต่ก็ไม่เป็นผล เธอยังไม่ใจอ่อน ผมทรมาน กินเหล้า นอนตื่นกินเหล้า ป่วย ประชดตัวเอง...

5 เดือนผ่านไป ผมยังไม่ได้งาน แต่โชคเริ่มเข้าข้างผม เธอมีปัญหากับคนใหม่ และเริ่มกลับมาคุยกับผม การกลับมาคบกันเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ผมรู้สึกหวงแหนมันมากขึ้นและปฏิบัติต่อเธอดีขึ้น เธอกำลังจะย้ายบริษัท หางานใหม่ผมก็มีกำลังใจหางานเช่นกัน เราได้งานพร้อมกัน เธอได้เงินเดือน ส่วนผมไม่ได้เงินเดือนเพราะเป็นเงื่อนไขของบริษัท ผมเข้าทำงานในตำแหน่ง Retouch ฝึกหัด เพราะผมสนใจงานด้านนี้มานานมากแล้ว ทำอยู่เดือนครึ่งก็ออกมาเตะฝุ่นอีกครั้ง ผมย้ายไปอยู่หอพักรูหนูบนดาดฟ้าใกล้ๆเพื่อน เพื่อจะได้ปรับทุกข์กัน กินเหล้ากันทุกวัน เพื่อนก็มีทุกข์จากปัญหาเรื่องรักๆใคร่ๆ เพราะมันมีแฟน 3 คน คนนึงคบตั้งแต่มหาลัย อีกคนกำลังท้อง ส่วนอีกคนเพิ่งคบกัน แม่ง!... มึงสุดยอดว่ะ ปัญหากูเล็กไปเลยนะเนี่ย...


ปลายฤดูฝนในปีนั้น ผมได้งานในตำแหน่ง Web Designer ซึ่งต้องเดินทางไกลมากกว่าจะถึงออฟฟิต ผมต้องนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีลาดพร้าวไปลงสถานีเพชรบุรี และต่อรถไฟไปเกือบถึงลาดกระบัง รวมการเดินทางไปกลับร่วม 3 ชั่วโมง เงินไม่พอใช้ผมก็ทำโอที เสาร์-อาทิตย์ ผมก็ต้องไปขายของแบกะดินกับเพื่อนๆ ทำงาน 7 วัน ผมเริ่มห่างกับแฟน และเราก็ไม่คุยกัน จนไม่โทรหากัน ผมทำงานอยู่ได้หกเดือนก็ออกเพราะไกลและรู้สึกไม่ดีกับที่ทำงาน

กุมภาพันธ์ ของปี 52 ผมไม่มีงาน ไม่มีคนรัก ตื่นมาเดินไปมองระเบียงดูรถผ่านไปมา และเดินกลับมานอน ผมแพ้!... ผมพ่ายแพ้ให้กับทุกๆอย่าง ความรัก ความหวัง ความฝัน ไม่มีอะไรเป็นความจริงเลย อยากหนีไปที่ไกลๆ ผมกลับบ้านและบวช...

ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการหาที่เรียนต่อเพื่อหาหลักให้ชีวิต ผมผ่านอะไรมามากพอแล้ว และผมจะระบายมันออกมา ผมจึงเลือกเรียนต่อที่ สาขาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เรื่องราวของผมจะถูกส่งผ่านออกมาทางฝีแปรง สีที่ถูกป้ายและกดลงบนผืนผ้าใบ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ระบายความอัดอั้นที่มีมาทั้งหมด ผมหลงรักมัน... ศิลปะ.. เจ็บปวด แต่งดงาม

ผลงาน ที่อยู่ในช่วงแรก ผมได้นำเสนอความผิดเพี้ยนของสังคม ผ่านรูปลักษณ์ของสตรีเพศ บอกเล่าเรื่อราวของความดีงามที่เคยมีมา ถูกกลับค่าให้ผิดเพี้ยน ผลสะท้อนกลับไปมาระหว่างมนุษย์และสังคม ส่งผลให้ทั้งสองอย่างดูจะเสื่อมทรามลง

   

วิปริต 1,2 และ 3

วิปริต 4

วิปริต 5

วิปริต 6

วิปริต 7

วิปริต 8

วิปริต 9

วิปริต 10

วิปริต 11

ผลงานในช่วงหลัง ผมนำเสนอรูปลักษณ์ของความทุกข์อันเกิดจากกิเลศผมได้จินตนาการรูปลักษณ์สมมุติขึ้นมาเป็นก้อนและใส่ความทุกข์ที่มีมาทั้งหมดของผมลงไปในงาน

อมนุษย์ 1

อมนุษย์ 2

อมนุษย์ 3

อมนุษย์ 4 (ผลงานสเกตช์)


กลับไปที่ลิ้งแรกก๊อบปี้ด้านล่างไปวางเลยครับ

http://gotoknow.org/blog/yhiavjung/373401


หมายเลขบันทึก: 375818เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2010 16:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

http://gotoknow.org/blog/yhiavjung/373401

มาทำ link ให้ครับ

"เจ็บปวด แต่งดงาม" อืมมม


ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ

โรฮิงยามาเยี่ยมแล้ว งดงามเกินบรรยาย เกินเข้าใจจริงๆ

ขอบคุณเป็นอย่างสูงครับผู้นำชนเผ่าโรฮิงยา

อย่าสร้างเกาะกำบังตัวเองเป็นคนอ่อนไหวชอบความสวยงามก็บอกเขาไปตรงๆ ลูกผู้ชายน่ะ

เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่หลอนหลอกตัวเอง

?เสี่ยวจัง.....ลูกผู้ชายนะจ๊ะ

จริงป๊ะ

เอาความสกปรกโสมมชั่วร้ายออกมาขังไว้บนผ้าใบให้หมด พี่จะได้ขาวสะอาดสักที ฮ่าๆๆๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้ละกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท