มอบทุนการศึกษา 11 จังหวัด 30 มิ.ย. - 7 ก.ค. 2553

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เลขาฯพาผู้สนับสนุนทุนการศึกษาไปมอบทุนและเยี่ยมน้องๆมาค่ะ ฝนฟ้าปีนี้มาช้าเหลือเกิน แม้พิธีมอบทุนปีนี้จะเริ่มช้ากว่าปีที่แล้วประมาณ  10 วัน แต่ทิวทัศน์ข้างทางแทบจะหาแปลงนาที่มีน้ำขังไม่เจอเลย

ทุ่งนาที่กาฬสินธุ์

 

ทุ่งนาที่ยโสธร

ปีที่แล้วที่กาฬสินธุ์

ปีที่แล้วระหว่างทางจากสุรินทร์ไปศรีสะเกษ

ปีนี้ไข่แพง ปีหน้าสงสัยว่าข้าวจะแพงเสียแล้วล่ะค่ะ

----------

งานพิธีมอบทุนในปีนี้ที่จังหวัดนครพนมเรามีรายการโชว์พิเศษแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน โดยผู้สนับสนุนทุนการศึกษา แสดงการรำพัดแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น นักเรียนทุนรุ่นโตที่สุดสองคนจึงออกมารำไทยบ้าง แม้จะไม่ได้เตรียมเพลงและไม่ได้ซ้อมกันมาก่อน น้องของเราก็ทำได้ดีทีเดียว

การแสดงรำพัดแบบญี่ปุ่น

สาวไทยรำไทยโชว์บ้าง

ภาพจากพิธีมอบทุนที่จังหวัดนครพนม

หลังเสร็จสิ้นพิธีแล้ว คณะก็ได้ไปเยี่ยมน้องๆเท่าที่เวลาจะอำนวยให้

 

เราได้ไปเยี่ยมน้องดุ๋ยชาวสกลนครกันค่ะ ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในบ้านของตากับยายที่ตกทอดมา ฝาผนังเอากระสอบปะไว้ตามมีตามเกิด ไฟฟ้าไม่มีใช้ ดุ๋ยกลับจากโรงเรียนต้องรีบปัดกวาดบ้าน หุงข้าว แล้วไปทำการบ้านที่บ้านเพื่อนให้เสร็จก่อนจึงจะกลับมากินข้าวกับแม่และน้า แม่ของดุ๋ยมีอาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่ในหมู่บ้าน ช่วงนี้ค่อนข้างหางานยากเพราะไม่มีน้ำ ยังดำนาไม่ได้ ส่วนน้ามีความผิดปกติทางสมอง พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ได้แต่เที่ยวเตร็ดเตร่อยู่ในหมู่บ้าน มีรายได้จากสวัสดิการคนพิการของรัฐเดือนละ 500 บาทเท่านั้น

 

ส่วนน้องเมี่ยวชาวยโสธร อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง แต่พ่อแม่ต้องรับหลานลูกของน้องสาวและลูกของตัวเองไว้เลี้ยงดู รวมแล้วในบ้านนี้มีสมาชิกทั้งหมด 13 คน มีผู้ใหญ่หาเลี้ยงเพียงสองคนเท่านั้นเอง เมี่ยวก็ต้องดูแลน้องๆจับอาบน้ำแต่งตัวให้ทุกวันก่อนจะได้ไปโรงเรียน อาหารการกินก็ไม่ค่อยจะพอ ได้ข้าวจากวัดจากคุณครูช่วยกันหลายๆทาง

ทุนการศึกษาของมูลนิธิพูนพลังคิดเป็นตัวเงินอาจจะไม่มากนัก แต่กำลังใจเรามีให้น้องๆมากมายค่ะ น้องดุ๋ยถึงกับน้ำตาซึมเมื่อชาวญี่ปุ่นให้กำลังใจว่า “อย่ายอมแพ้กับความลำบากในปัจจุบัน ขอให้สู้ต่อไปเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า”

เห็นน้องๆสู้ชีวิตกันขนาดนี้ คนทำงานก็สู้ตายเหมือนกันค่ะ  

 

[เลิศฤทธิ์]

สวัสดีครับ

ขอชื่นชมกิจกรรมดี ๆ ที่มีให้ เพื่อเมืองไทยเป็นสุขครับ

[สราวุฒิ ชั้นจันทร์ดา]

ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้พี่ๆที่ทุ่มเทมาตลอดนะครับ

เข้ามาอ่านแล้วมีกำลังใจเรียนดีครับ

ตั้งใจว่าจะทำประโยชน์เพื่อสังคมให้มากๆ