ก้าวแรกที่ดิฉันได้เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ดิฉันก็รู้สึกตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก กังวลว่าจะอยู่กับเพื่อนใหม่ได้ไม และที่สำคัญไปกว่านั้นคือจะต้องห่างจากพ่อแม่ ห่างที่ ห่างถิ่นมาอยู่ต่างจังหวัด
เมื่อเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีก็ได้ไปจองหอพักที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ แล้วจากนั้นก็ไปดูห้องพักกันกับพ่อแม่และป้าๆ ในตอนแรกก็ไม่รู้สึกเหงามากนัก แต่รู้สึกใจหาย เหงาก็เมื่อตอนที่พ่อกับแม่กำลังจะกลับบ้าน ตอนนั้นที่ดิฉันจำได้น้ำตาของดิฉันก็ไหลไม่ยอมหยุดเหมือนกับว่าดิฉันอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวอย่างไงอย่างนั้น
ระยะแรกๆก็ทำใจไม่ได้อยู่หลายคืนต้องนอนร้องไห้ เพราะคิดถึงบ้านในตอนนั้นน้ำตาของดิฉันพร้อมที่จะไหลออกมาตลอดเวลา ใครพูดถึงบ้านเป็นไม่ได้ดิฉันก็จะร้องไห้และรู้สึกเหงาในยามที่อยู่คนเดียว อยากกลับไปอยู่บ้าน อยากกลับไปเรียนที่มหาลัยใกล้บ้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อได้โทรศัพท์พูดคุยกับพ่อแม่ ท่านก็ให้กำลังใจมาโดยตลอด และสอนให้ดิฉันเข้มแข็งและอดทน เพื่อนๆก็คอยปลอบใจในยามที่ดิฉันร้องไห้ เพื่อนเขาก็รู้สึกไม่ต่างไปกับดิฉันเขาก็คิดถึงบ้านเหมือนกัน
ต่อมาดิฉันก็ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ก็ทำให้ดิฉันจากที่เคยอ่อนแอก็เข้มแข็งขึ้น
........จนในวันนี้ก็ทำให้ดิฉันรู้แล้วว่า............
"เราไม่สามารถที่จะพึ่งพาพ่อแม่ได้ตลอดชีวิต"
ผมเห็นด้วยครับ ความรู้สึกเดียวกันเลย
สวัสดีค่ะ
คุณอาภาภร
เเวะมาทักทาย
ดิฉันเรียนเอกภาษาไทย
ยินดีที่รู้จักค่ะ
สู้ๆค่ะเพื่ออนาคต
ขอบคุณค่ะ