นิทรรศการสร้างเสริมสุขภาพของบำราศ ตอนที่ 2
ความเดิมตอนที่แล้วดิฉันได้เล่าถึงเรื่อง สถาบันบำราศนราดูรได้จัดโครงการรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพ ประจำปี 2549 โดยมี Theme ว่า การลดใช้พลังงานและสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งในวันแรกของนิทรรศการคือวันที่ 29 มิ.ย. 49 จะเน้นเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน
<p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">สำหรับวันที่สองของนิทรรศการ คือวันที่ 30 มิ.ย. 49 นั้นเป็นการสร้างเสริมสุขภาพโดยทางฝ่ายโภชนาการรับผิดชอบเป็นแม่งานการแสดงนิทรรศการอาหารและโภชนาการ มีการสาธิตรูปแบบอาหารสร้างเสริมสุขภาพและแจกฟรี สำหรับเรื่องแจกฟรีนั้นเป็นสิ่งที่คนไทยชอบมาก…วันนี้จึงมีชาวบำราศสนใจเพียบ โปรดสังเกตุว่าผู้ที่ไปร่วมงานดู ๆ แล้วรู้สึกว่าจะเป็นผู้ที่กินดีอยู่ดีทั้งน้าน… :)</p>
นิทรรศการอาหารสร้างเสริมสุขภาพ ณ บริเวณลานเอนกประสงค์ <p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">สำหรับในช่วงบ่ายมีการมอบประกาศนียบัตรและรางวัลให้กับบุคลากรสุขภาพดีและหน่วยงานที่มีกิจกรรมหรือนวตกรรมการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับผู้ป่วยหรือบุคลากร ประจำปี 2549 และมีการบรรยายวิชาการเรื่องเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ</p>
เจ้าหน้าที่ร่วมดูบอร์ดแสดงผลงานกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ประจำปี 2549 ระดับหน่วยงาน
ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ ได้แก่
1. ตึกพิเศษ 3/5 มี 2 กิจกรรม คือ <ul>
</ul> 2. กิจกรรมการออกกำลังกายของผู้ป่วยระหว่างรอตรวจของหน่วยงานผู้ป่วยนอก3. กิจกรรมการสอนผู้ป่วยในของตึกอายุรกรรม 5/54. กิจกรรมการสอนผู้ป่วยในของตึกอายุรกรรม 5/4 <p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">5. กิจกรรมการพัฒนาสื่อการสอนแก่หญิงตั้งครรภ์ของหน่วยงานฝากครรภ์</p> 6. กิจกรรมการผลิตสื่อการสอนให้กับหญิงหลังคลอด</span></span>7. หน่วยงานห้องผ่าตัดมีกิจกรรม 2 กิจกรรม คือ <ul><li class="MsoNormal" style="margin: 0in 0in 0pt; tab-stops: list .5in"> การสอนผู้ป่วยนอกเป็นกลุ่มเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวหลังผ่าตัด ซึ่งกิจกรรมนี้ทางชุมชนคนชุดเขียวเคยบันทึกใน http://gotoknow.org/blog/supalukbi/27918 สำหรับผู้ที่มีบทบาทมากในการทำให้โครงการนี้เกิดมาได้ดิฉันขอยกความมุ่งมั่นตั้งใจให้กับน้องอ้วน…ประยูร พรหมทัต…เป็นอันดับแรก สำหรับความมุ่งมั่นพัฒนางานต่อมาขอยกความดีทั้งหมดให้กับทีมพยาบาลห้องผ่าตัดทุกคนที่ช่วยกันสานต่องานเพื่อประโยชน์สำหรับผู้ป่วยอย่างแท้จริง </li></ul>
น้องอ้วน..ประยูร พรหมทัตขณะรับใบประกาศจากผอ.อัจฉรา เชาวะวณิช 
</span> <ul><li class="MsoNormal" style="margin: 0in 0in 0pt; tab-stops: list .5in"> กิจกรรมที่ 2 ที่เราได้รับคือกิจกรรม Morning Talk สมาธิกับการเริ่มต้นทำงาน ซึ่งดิฉันเน้นการสร้างเสริม สมาธิและจิตใจของบุคลากรเนื่องจากดิฉันเชื่อว่าการเริ่มต้นทำงานด้วยความรู้สติ มีจิตใจที่ผ่องใสย่อมทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพ </li></ul> ในระหว่างที่รอรับรางวัลมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง มาแซวดิฉันตลอดว่า <p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">”…น่าอิจฉาห้องผ่าตัดจังเลย..เวลามีส่งประกวดกิจกรรมอะไรก็ตามรู้สึกว่าจะเข้ารอบทุกครั้งเลย….” </p>
<p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">ซึ่งดิฉันจะถือว่าเป็นคำชม เห็นได้ชัดว่าความดีงามของเราเข้าตากรรมการส่งประกวดทีไรไม่เคยตกรอบ ซึ่งความจริงแล้วผลงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมีปรากฎอยู่แล้ว เพราะมาจากการปฏิบัติจริง ดิฉันในฐานะคุณอำนวยต้องรวบรวมเก็บเอา KM พื้นฐานมารวมไว้ (Knowledge Asset) และทำการเผยแพร่ให้กับสาธารณชนทราบ (Share) ต่อไป ซึ่งถ้าดิฉันไม่ทำหน้าที่นี้จะถือว่าบกพร่องในการจัดการความรู้ ใช่มั๊ยคะ ?</p> <p>ประการสำคัญที่สุดของความสำเร็จที่เพิ่งได้รับมาและด้านต่าง ๆ ของห้องผ่าตัด มาจากความร่วมมือของชาวชุมชนคนชุดเขียวทุกคนตั้งแต่ระดับพยาบาล ผู้ช่วยเหลือคนไข้ และพนักงาน ซึ่งเมื่อเรามีการคิดจะพัฒนางานใด ไม่ว่าจะเป็นพัฒนางานเดิมหรืองานใหม่ ๆ ชุมชนคนชุดเขียวจะร่วมมือกันโดยไม่มีการเกี่ยงงอนกัน ทุกคนจะมีจิตใจเพื่อการให้กับองค์กรซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของหน่วยงานที่เป็นมาตลอด เคยมีเจ้าหน้าที่ที่ค้นเคยกับดิฉันพูดว่า</p>
"..การที่ห้องผ่าตัดมีผลงานดี และทุกครั้งที่ Surveyer มาตรวจก็สอบผ่านทุกที เป็นเพราะหัวหน้าเก่ง คุณเล็กเขาโชคดีมีลูกน้องเก่ง..."
ซึ่งดิฉันมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ไม่เห็นด้วย เพราะดิฉันไม่ได้เก่ง แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนของดิฉันเป็นคนเก่ง เข้าใจในพันธกิจงานและวิสัยทัศน์ของสถาบันฯ ดังนั้นเมื่อมีการพัฒนางานเขาจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เห็นด้วย ที่ดิฉันเป็นคนโชคดีมีลูกน้องที่เก่งงาน เข้าใจงานและไม่เกี่ยงงาน มีลูกน้องดีมีชัยไปกว่าครึ่งจริง ๆ ค่ะ...ขอบอก
</span> </span></span>
ความเห็น (5)
ขอชื่นชมหน่วยงานที่มีทั้งหัวหน้าและลูกน้องที่น่ารัก ร่วมมือร่วมใจกันดี
หนูเล็กเก่งอยู่แล้ว แต่ลูกน้องอาจจะเก่งกว่านะถ้าให้โอกาศมากขึ้น
ขอชมทั้งหัวหน้าและลูกน้องครับ
ลูกน้องเก่งฝ่ายเดียว ถ้าหัวหน้าไม่เอาด้วยก็ไปไหนไม่ได้ ส่วนหัวหน้าถ้าเก่งคนเดียว ลูกน้องไม่เอาก็ไปไม่รอด แต่ที่ได้รางวัลมานี่แสดงว่าต้องเก่งทั้งคู่ครับ :-)
