อาหารมังสวิรัตินั้นถูกหลักโภชนาการอย่างไร
หากจะกล่าวถึงหลักโภชนาการทั่วไป ทุกคนคงจะได้เรียนรู้เรื่องอาหารหลัก ๕ หมู่กันแล้วนะคะ อาหารมังสวิรัตินั้นครบหลัก ๕ หมู่ค่ะ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ น่าศึกษาค้นคว้าเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารมังสวิรัติตลอดชีวิต ดิฉันเองเป็นนักมังสวิรัติมา ๒๕ ปีแล้วตั้งแต่เป็นนักศึกษาพยาบาลปี ๓ ของวิทยาลัยพยาบาลนครราชสีมาในปี ๒๕๒๘ ก่อนทานอาหารมังสวิรัติก็ต้องมั่นใจก่อนว่าไม่ขาดสารอาหารแน่ๆ สารอาหารที่คนทั่วไปกลัวว่าจะขาด ก็คือ โปรตีน วิตามินบางชนิด เช่น บี๑๒ บี๒ ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม เป็นต้นค่ะ เมื่อเดือนมีนาคม 1988 สมาคมโภชนาการของอเมริกาประกาศว่า “ทางสมาคมขอยืนยันว่าอาหารมังสวิรัติดีต่อสุขภาพและให้คุณค่าทางโภชนาการเพียงพอ หากได้รับการจัดวางแผนอย่างถูกต้องและเหมาะสม” เป็นข้อมูลที่เพิ่มความมั่นใจให้กับคนที่รับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นอย่างยิ่ง
ในปัจจุบันคนไทยหันมานิยมบริโภคอาหารมังสวิรัติมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และไขมันสัตว์ เพื่อผลดีต่อสุขภาพต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคทางอายุรกรรม เช่น ความดันโลหิตสูง ไตรกลีเซอไรด์ และคลอเรสเตอรอลสูงในเลือด โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เป็นต้น สำหรับคนรับประทานมังสวิรัติแล้วยังมิได้ศึกษาเรื่องสารอาหาร อาจกลัวว่าจะขาดสารอาหาร ดังนั้น เราจึงควรมาวางแผนอย่างถูกต้องและเหมาะสมก่อนนะคะ การป้องกันการขาดสารอาหารนั้นต้องศึกษาว่า นักมังสวิรัติอาจจะมีความเสี่ยงต่อการขาดสารใด เราก็สรรหาสารนั้นมารับประทานไม่ให้เกิดความบกพร่องในโภชนาการเช่น วิตามิน บี๑๒ มีในซีอิ้ว เต้าเจี้ยวและการหมักถั่วชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ Tempe (คือ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการหมักเพื่อทำให้เกิดเชื้อรา Rhizepus oligosporus ) วิธีการหมักของ Tempe มีต้นกำเนิดจากอินโดนีเซียแต่มีการใช้ถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบในการทำ และในอาหารมังสวิรัติตัวนี้ได้มีการปรับปรุงขั้นตอนในการถนอมปริมาณของพวกเส้นใยกากอาหารให้มีมากขึ้นจากพวกเมล็ดธัญพืช และในขณะเดียวกันก็ทำให้มีการเพิ่มปริมาณของธาตุเหล็กด้วย (ที่มา http://www.fwdder.com)
นอกจากนี้แล้วควรกินอาหารที่ให้สารอาหารโปรตีนครบถ้วน ได้แก่ นม ถั่วต่างๆ หลายๆชนิด และผลิตภัณฑ์จากถั่วต่างๆเช่น เต้าหู้ โปรตีนจากถั่วต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมเช่น นมเปรี้ยว โยเกิรต์ เป็นต้น กินอาหารที่ให้กำลังงาน ได้แก่ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต คือ ข้าว แป้ง ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน อย่างใดอย่างหนึ่ง หากกินอาหารที่ผ่านกรรมวิธีในการปรุงแต่งน้อย หรือไม่ผ่านโรงงานก็ยิ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของท่านเพราะท่านจะปลอดภัยจากสารเคมีต่างๆของโรงงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตเช่น สารกันบูด สารแต่งสี แต่งกลิ่น เป็นต้น และท่านควรกินอาหารที่ให้เกลือแร่และวิตามิน คือ ผัก โดยเฉพาะผักใบเขียวและผักที่มีสีเหลือง และผลไม้ต่างๆ ยิ่งกินสดได้เท่าไรยิ่งดีค่ะ แคลเซียมมีความสำคัญ เพราะเป็นองค์ประกอบของฟันและกระดูก และเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการแข็งตัวของเลือดและทำให้กล้ามเนื้อทำงานเป็นปกติพบมากในผลไม้เปลือกแข็ง นม พืชใบสีเขียวเข้มค่ะ ไอโอดีน ซึ่งมีมากในอาหารทะเล ชาวมังสวิรัติควรได้กินเกลือที่มีการเติมไอโอดีน ซึ่งเรียกว่า lodized salt (เกลืออนามัย) ด้วยค่ะ อย่าลืมนะคะในผักสดผลไม้นอกจากจะเป็นต้นตอของวิตามินและเกลือแร่แล้ว ยังให้กากใยอาหารซึ่งช่วยในการขับถ่ายด้วย
ดิฉันเองทุกวันนั้ไม่กลัวเรื่องขาดสารอาหารแล้วค่ะ ที่ต้องระวังก็คือ อย่ากินเกิน อย่าให้อ้วน การกินสารอาหารเกินก้ถือว่าไม่ถูกหลักโภชนาเหมือนกันนะคะ กินให้พอดี กินให้พอเพียงจะดีกว่าค่ะ ท่านสามารถหาข้อมูลเรื่องอาหารมังสวิรัติเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thai-tva.org สมาคมมังสวิรัติไทย http://www.calintertrade.co.th มมูลนิธิเทีนฝอธรรมสถาน http://www.agric-prod.mju.ac.th/vegetable/knowledge.asp ความรู้เกี่ยวกับผัก และที่อื่นๆอีกมากมายค่ะ สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากไว้คือ อาหารมังสวิรัติเป็นอาหารบุญที่ได้มาจากพืชผักไม่ต้องไปพรากชีวิตสัตว์อื่นๆ การกินมังสวิรัติจึงเป็นการต่ออายุให้สัตว์อื่นและต่ออายุให้กับตัวเราเองด้วยค่ะ
สวัสดีครับ อาหารมังสวิรัติดีมากผมทานได้อย่างสนิทใจเลยครับ
ขอบคุณนะคะที่ช่วยประหยัดพลังงาน รักษาภาวะโรคร้อนและช่วยให้กำลังใจคนปลูกผักค่ะ