เชื่อหรือไม่ความแก่จะมุ่งเข้าสู่ร่างกายเราเร็วกว่าเป็นไปตามธรรมชาติ...เพราะอานุภาพแห่งความคิดถึง


เชื่อหรือไม่ความแก่จะมุ่งเข้าสู่ร่างกายเราเร็วกว่าเป็นไปตามธรรมชาติ...เพราะอานุภาพแห่งความคิดถึง

           เชื่อหรือไม่ความแก่จะมุ่งเข้าสู่ร่างกายเราเร็วกว่าเป็นไปตามธรรมชาติ...เพราะอานุภาพแห่งความคิดถึง

        เรื่องที่น่ากลัวที่ไม่ควรกลัวของคนเราเรื่องอื่นไม่กลัวกลับกลายเป็นกลัวความแก่   แทนที่จะกลัวโรคภัยไข้เจ็บ  บางคนบางท่านถึงกับต้องไปแต่งเติมทาสีให้มีสีสรร  หรือใช้เครื่องนุ่งห่มบดบัง  คนประเภทดังกล่าวมีความกลัวความแก่อย่างสาหัส  โดยหารู้ไม่ว่าความแก่มันจะเดินทางมาของมันเองตามธรรมชาติกำหนดและเรายิ่งกลัวก็คือยิ่งคิดถึงมันมากเท่าไรมันก็ยิ่งถาโถมเข้าหาสรีระของเรายิ่งมากขึ้นตามแรงอานุภาพแห่งความคิดถึง  ถ้าเป็นความคิดถึงของความรักมันก็หายคิดถึง  แต่ถ้าเป็นความแก่มันก็มาเพิ่มความแก่ให้เป็นไปตามความคิดถึงเช่นกัน

             ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดถึงความแก่ก็น่าจะวิเคราะห์สิ่งที่จะนำมาแบ่งปันนี้ก็จะดีไม่น้อยที่เดียว เพราะคนเรา  ยิ่งคิดว่าเรายิ่งแก่  เราก็ยิ่งเฉา  ความแก่เป็นเรื่องของธรรมชาติ  มันจะมาของมันเอง  ถึงแม้เราไม่คิดถึงมัน  มันก็ก้าวล่วงมายังเราทุกลมหายใจ  ความคิดโดยส่วนตัวของผู้เขียน  เราจะไม่คิดถึงความแก่  เราหันมาคิดถึงว่าทำอย่างไรให้เรามีความสุข  ทำอย่างไรที่เราจะทำประโยชน์ที่ทำให้ผู้อื่นได้มีความสุข   ทำอย่างไรอย่างให้เราไม่พบกับโรคภัยไข้เจ็บ หรือถ้าพบก็ให้หายบรรเทาโดยเร็ว ไม่อยู่ทวงหนี้กรรมจนนานเกินไป ความแก่ก็จะเดินทางมาสู่ตัวเราช้าลง ยิ่งไปคิดถึงมันมาก   มันก็ยิ่งชอบมันจะเกาะกินหัวใจเราตลอดเวลา  ความแก่ก็บุกรุกเราตลอด

           แท้จริงแล้วยังเรายังไม่แก่   เพียงแต่เวลาของอายุมันเดินด้วยความยุติธรรม  รับไปเลยคนละ 24  ชั่วโมง    เราจะเอาเวลานั้นไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของเรา  ท่านเชื่อไหมว่า การนำเวลาไปใช้ก็เป็นตัวช่วยสนับสนุนให้มีความแก่เพิ่มขึ้นได้ เช่นการดื่มของมึนเมาเป็นต้น  และถ้าต้องการให้เป็นตัวช่วยให้ดูอายุเป็นไปตามธรรมชาติก็ใช้เวลาบางส่วนออกกำลังกายบ้างก็จะทำให้ดูหนุ่มกว่าวัยเข้าไปอีก  ขึ้นอยู่กับว่าเรารักตัวเราจริงจังแค่ไหนนั่นต่างหาก

            ลืมมันเสียเถอะความแก่   แต่ไม่ใช่ว่าจะให้ประมาทในสังขาร  เดี๋ยวจะหาว่าจะยุให้ทำความชั่วกับตัวเอง   แต่เราคิดถึงหลักกระแสจิตตามปกติมาจับดู  เราคิดถึงเพื่อนคนหนึ่งซึ่งขณะนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่  จู่ ๆ เพื่อนที่เราคิดถึงก็โทรศัพท์มาหาเรา  และเขาก็บอกว่าไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงกดโทรศัพท์มาถึงเรา  เราก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน    อยู่ไกลหรือใกล้   แต่หันมาดูร่างกายของเรา พอเราคิดถึงมันก็ถึงเลย  มันก็มาเลย  แสดงอาการเลย  คิดถึงมากมันก็มามาก  ความก็ทวีคูณ   

            จะขอยกตัวอย่างการเป็นครูมีความสุขอยู่กับเด็ก ๆ   โอกาสที่จะคิดถึงความแก่ยากมาก  เพราะเราอยู่กับเด็ก  เราก็คิดถึงเด็ก  ความเป็นเด็กก็จะฝังอยู่ในใจ เพราะเราจะต้องเข้าใจเด็ก   ว่าเขาต้องการความสุข  เราก็ต้องการความสุข  เราไม่ได้ต้องการความแก่  แต่ความแก่มันจะมาของมันเองไม่ต้องไปคิดถึง    หยุดคิดถึงความแก่ก็เหมือนเราหยุดดื่มน้ำอัดลม  น้ำอัดลมยิ่งดื่มก็ยิ่งสะสมสิ่งที่ทำลายกระดูกและระบบอื่น ๆ ของร่างกาย  ดื่มทุกวันมันก็ทำลายทุกวัน  ความแก่ก็เหมือนกันยิ่งคิดมันก็ยิ่งเพิ่มเช่นกัน   

            ความแก่จึงไม่ควรที่จะไปคิดถึงโดยให้ปล่อยเป็นไปไปตามธรรมชาติ    ก็ลองหาโอกาสเปลี่ยนความคิดเสียใหม่หยุดคิดเรื่องนี้เสียให้เด็ดขาด   แล้วคอยดูผลว่าเป็นอย่างไร    ถ้าผลปรากฏว่าคุณมีความกระชุ่มกระชวยขึ้นหลังจากหยุดคิดถึงความแก่    ท่านก็ช่วยแบ่งปันต่อ ๆ ไป   ความแก่ของท่านก็จะชลอลง อย่าเชื่อผู้เขียน   หันลองมาพิสูจน์   ผลไม่สำเร็จก็ไม่ได้เสียหายอะไร   แต่ถ้ากลับกัน  ท่านจะได้กำไรมหาศาลที่ท่านยอมทิ้งความคิดความแก่ไป    แล้วปล่อยให้อายุมันเลื่อนไหลไปตามธรรมชาติ  ความทุข์ก็จะหาย  ความสุขสบายก็เริ่มมและจะมีไม่มีวันหยุด

หมายเลขบันทึก: 371065เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2010 11:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 18:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท