กิ่ง
น.ส. พัทยา กิ่ง เพียพยัคฆ์

แรงเหวี่ยงของชุมชน


ผู้ใหญ่ในชุมชนต้องเปลี่ยนด้วย

แรงเหวี่ยงของชุมชน

การเรียนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เขียนเองเมื่อตอนเป็นเด็กแม่บอกว่าพอจบ  ป. 6  แล้วก็ไม่ต้องเรียนแล้วแม่ไม่มีเงินส่งเรียน  ก็เลยต้องหยุดเรียนอยู่สี่ปี  ลุกสาวป้าเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯก็เลยขอแม่มาทำงานกับเข้าด้วย

แม่ให้เข้ามาทำงานตอนนั้นเป็นเด็กก็แล้วแต่เข้าจะใช้ให้ทำ  เข้ามาแรก ๆ ก็สนุกดีเห็นแสงสีเสียงสวยงามไปหมด

ทำงานไปอยู่ปีกว่าเริ่มรู้สึกว่าแล้วเราจะทำแบบนี้ไปจนตายเลยหรือไง  ประกอบกับเพื่อนแต่ละคนเข้าก็มีแฟนแยกกันไปเช่าห้องอยู่ใครอยู่มัน  เราต้องอยู่คนเดียวพอดีมีเพื่อนที่เรียนภาคค่ำเห็นเข้าเรียนก็เลยขอแม่เรียน  บอกแม่ว่าจะเรียนด้วยทำงานด้วย   ขอเงินก้อนแรกแม่สามหมื่นบาทแม่ส่งให้ถามแม่ว่าเอามาจากไหนแม่บอกว่าขายวัวให้ห้าตัว  (ขายวัวส่งควายเรียน)  ที่ทำงานให้เรียนด้วยทำงานด้วยได้แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ไปเรียนต้องทำโอทีช่วยเพื่อนด้วย  เรียนไปจนจบ  ปวช.  ก็เลยออกจากงานที่เก่าย้ายจากทำงานรายวันไปทำงานรายเดือน  ทำรายเดือนตอนตกลงกันก็บอกว่าจะให้ไปเรียนพออยู่นานไปให้เราอยู่จนกว่าจะเลิกงาน  ก็ต้องทนทำถ้าไม่มีงานก็เรียนไม่จบเจ้านายบอกว่าไม่พอใจก็ออก  เราจะออกได้ไงละจะเอาเงินที่ไหนไปเรียน  ดีที่มีเพื่อน ๆ   ไปช้าเป็นชั่วโมงเรียนไม่ทันเพื่อน  เพื่อนก็จดไว้ให้  เป็นอยู่แบบนี้จน  ปริญญาตรี  (เป็นแบบนี้ไงถึงได้โง่แบบนี้)   แม่มารับปริญญาแม่ร้องให้เลยค่ะ ถามร้องทำไมแม่ดีใจ  (ดีใจต้องยิ้มสิร้องทำไมทุกวันก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของแม่เลย)  ลูกหมอก็เรียนมาเพื่อที่จะเป็นหมอ  ลูกครูก็เรียนมาเพื่อที่จะเป็นครู  ลูกนักการเมืองเรียนมาเพื่อที่จะเป็นนักการเมือง

ลูกตำรวจเรียนมาเพื่อที่จะมาเป็นตำรวจ   แล้วลูกชาวไร่ชาวนาจะคิดมากทำไมถ้าเรามีที่นาที่พ่อแม่ทำไว้ให้เราแล้วปลูกอะไรก็เกิด อยู่ที่บ้านแม่เป็นนายจ้าง  จ้างคนมาช่วยทำนาชาวนาก็เป็นนายจ้างได้ค่ะ  บางที่ลูกแต่ละคนไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ในสายเลือดเราแล้วให้หนีเท่าไรมันก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว  ยิ่งหนียิ่งเหนื่อยใจ พอเรียนจบก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ  สามปี  ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯอยู่คนเดียวมีเงินก็ใช้คนเดียวแม่ไม่เคยขอเลย  นาน ๆ จะส่งให้แม่เรื่องเงินอยากได้อะไรก็ได้  แต่ไม่มีเงินเก็บเลยจนถึงจุดอิ่มตัวสุด ๆ ก็เลยลาออกจากงานมาอยู่บ้าน

แม่ถามว่าจะมาทำอะไร  ทำเกษตร   (ไม่มีเงินมาเลยมีทองติดตัวมาหนึ่งบาทแต่ไม่มีหนี้ติดตัวมา)  พ่อไม่เห็นด้วย

พ่อบอกว่าอายคนเรียนจบมาแล้วจะมาทำนาไม่อายคนหรือไง  บอกพ่อว่าพ่อหนูทำงานอยู่กรุงเทพฯ หนูเป็นแค่ลูกจ้างเข้านะพ่อแล้วระหว่างลูกจ้างกับทำของตัวเองอะไรมันอายมากกว่ากัน  แม่บอกว่าแม่มีเงินอยู่หนึ่งแสนจะทำอะไรก็ทำ  เลยให้รถมาขุดบ่อ  หมดไปหกหมื่นกว่าบาท  ไปซื้อต้นกล้วยมาลง  800  ต้น  ชาวบ้านเห็นรถมาขุดนาพากันมาดูแล้วบอกว่าลูกบ้านนี้บ้าไปแล้วปลูกกล้วยต้นแค่นี้ได้กินมันจะไปอดอยากอะไรกัน  ทำไปทำมา

เงินหมดเกินงบที่ตั้งไว้เกินไปเป็นแสนส่วนที่เกินยืมเข้ามาทำ ช่วงแรกใครมาขายต้นอะไรซื้อมันทุกอย่างเลย  วิชาการตอนก็ยังไม่มี   ซื้อมาปลูกตายมากกว่าเกิด  ทำสองคนกับแม่ทำมากไปเลยดูแลไม่หมด   ปลูกแล้วรอต้นไม้โตก็เลยไปหางานทำแล้วต้องออกรถ  (สร้างหนี้ให้ตัวเองต้องผ่อนรายเดือน)  งานที่บ้านไม่มีประจำแต่ต้องผ่อนรถ

เป็นรายเดือนงานที่บ้านหมดก็เลยลงไปทำงานระยอง  ทำได้หนึ่งปีเต็ม ๆ เพื่อนโทรไปบอกว่าเปิดบริษัทฯมาช่วยทำงานที่ลงมาช่วยเพื่อนอยู่หนึ่งปีงวดรถหมดพอดี  แม่เลยให้ลงมาอยู่กับแม่ได้แล้วไม่มีงวดรถเราก็ไม่ลำบากเท่าไรแล้ว  เงินที่เป็นหนี้แม่ก็ขายข้าวใช้ไปบางส่วนแล้ว ทุกวันนี้ก็เลยได้กลับมาอยู่บ้านกับแม่  ถ้าเราใช้ชีวิตไปกับกระแสมากไปเราก็ลำบาก  สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบกับเราแค่คนเดียว กับคนที่รักเราและเรารักด้วย  ตอนเดินถือกระเป๋าออกจากบ้านไปทำงานระยองแม่ร้อง  แต่ตอนจะกลับมาอยู่บ้านแม่นั้งนับวันรอวันที่เรากลับมาหาแม่

สิ่งแรกที่เจอปัญหาจากภายนอกคือปัญหาเรื่องชุมชน  เจอแรงเหวี่ยงของชุมชน  เราจะทนได้มากน้อยแค่ไหน

การที่เด็กคนหนึ่งจะกลับเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ไม่ใช้ว่าให้เด็กเปลี่ยนอย่างเดียวผู้ใหญ่ในชุมชนต้องเปลี่ยนด้วย

เอาความคิดที่ว่าการเป็นเจ้าคน นายคนออกจากหัวขาว ๆ ไปบ้างถ้าไม่ให้โอกาสเด็กแล้วเด็กจะยืนอยู่ตรงไหน

เลิกเอาความคิดการเป็นทาสไปใสในหัวเด็ก ๆ ได้แล้ว ที่ชุมชนของหนูมีพวกรับจ้างสอนเต็มเลยค่ะขาดจิตสำนึก

เราเป็นปลาที่ว่ายทวนน้ำก็ต้องเจออะไรที่คนอื่นเข้าไม่เจอ  ใครเจอแรงเหวี่ยงบ้างค่ะช่วยด้วยค่ะเหนื่อยมากค่ะ

 
หมายเลขบันทึก: 370150เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2010 15:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ตอนที่ผมกลับมาอยู่บ้านเมื่อหลายปีก่อน ก็เจอปัญหาเหมือนกับคุณกิ่งนี่แหล่ะครับ เจอคำถามว่าเรียนจบตั้งปริญญาตรีต้องกลับมาอยู่บ้าน ไม่อายคนอื่นหรือ ? ผมต้องลงมือเองเหมือนคนบ้าอยู่ตั้งนาน กว่าชาวบ้านจะยอมรับ ทุกวันนี้ ก็สบายขึ้นครับ กลับมาพัฒนาบ้านเกิดกันเถ่อะครับ

ขอบคุณค่ะ บางที่เด็กก็เปลี่ยนแล้วแต่ผุ้ใหญ่ไม่เปลี่ยนก็แย่ค่ะ เด็กจะเดินต่อยังไงกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท