วันนี้เรามาติดตามการจัดแสดงนิทรรศการถาวรของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร กันต่อนะคะ หัวข้อที่ 4 เรื่อง ประวัติศาสตร์ในชุมพร
สมัยอยุธยา
เมื่อสิ้นสุดสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ที่แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้วแล้ว หลักฐานและข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองชุมพรก็ขาดหายไปเป็นช่วงๆไม่ต่อเนื่องชัดเจนนัก ในสมัยอยุธยาเมืองชุมพรมีบทบาทเป็นเมืองหน้าด่าน โดยเฉพาะในการทำศึกสงครามกับประเทศพม่า
ลักษณะเมืองชุมพร
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงวิจารณ์เกี่ยวกับเมืองชุมพรว่า มีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากหัวเมืองภาคใต้อื่นๆ ในประชุมพงศาวดารภาคที่ ๕๐ (ตำนานเมืองระนอง) ว่า
“…ในบรรดาหัวเมืองทางแหลมมลายูที่ตั้งมาแต่โบราณ เมืองชุมพรประหลาดผิดกับเพื่อนอยู่อย่างหนึ่ง ที่ไม่มีตัวเมืองเหมือนเมืองไชยา เมืองนครศรีธรรมราช เมืองพัทลุง เมืองสงขลา เมืองปัตตานี และเมืองถลาง เมืองตะกั่วทุ่งทางฝั่งตะวันตก ล้วนมีโบราณวัตถุรู้ได้ว่า เป็นเมืองมาแต่โบราณ แต่ส่วนเมืองชุมพรข้าพเจ้าผู้แต่งหนังสือนี้ (สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ)ได้เข้าค้นหาหนักแล้ว ยังมิได้พบโบราณวัตถุเป็นสำคัญ บางที่จะเป็นด้วยเหตุ ๒ อย่าง คือ มีที่ทำนาไม่พอคนมากอย่าง ๑ อีกอย่าง ๑ อยู่ตรงคอแหลมมลายู มักเป็นสมรภูมิรบพุ่งกันตรงนั้นจึงไม่สามารถสร้างบ้านเมือง แต่ต้องรักษาเป็นเมืองด่าน…”
ที่มาของ คำว่า ชุมพร
มีการสันนิษฐานไว้หลัก ๆ ๓ ประการ คือ
๑. อาจหมายถึง ชุมนุมพล เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่าน การเดินทัพไม่ว่าจะมาฝ่ายเหนือหรือฝ่ายใต้จะเข้ามาตั้งค่ายชุมนุมพลกันที่นี่จึงเรียกว่า ชุมนุมพล ต่อมาได้เพี้ยนกลายเป็น ชุมพร
๒. อาจหมายถึง ชุมนุมพร หรือ ประชุมพร เนื่องจากการเดินทางไปรบในสมัยโบราณเมื่อจะเคลื่อนพลต้องทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อส่งทัพ เพื่อให้ได้รับชัยชนะและบำรุงขวัญทหาร ….
๓. อาจหมายถึง มะเดื่อชุมพร ชื่อพันธ์ไม้ธรรมชาติในท้องถิ่น เพราะที่ตั้งเมืองเดิมบนฝั่งท่าน้ำชุมพรมีต้นมะเดื่อชุมพรขึ้นอยู่มาก จึงอาจเป็นที่มาของคำว่า ชุมพร
ชื่อเมืองชุมพร ปรากฏเป็นครั้งแรกในตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่กล่าวถึง เมืองนครศรีธรรมราชมีความเจริญรุ่งเรืองจนสามารถยกกองทัพไปตีเมืองลังกา และเมืองต่างๆ ตลอดแหลมมลายูไว้ในครอบครอง เรียกว่า เมืองสิบสองนักษัตร และมีเมืองชุมพรเป็นเมืองขึ้นรวมอยู่ด้วย (ปีมะแม ถือตราแพะ) เมืองชุมพรเริ่มกลายเป็นชุมชนเกษตรท่าเรือข้ามคาบสมุทรอย่างถาวรมั่นคงสืบต่อมา
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมืองชุมพร
หลักฐานสมัยกรุงศรีอยุธยาได้ระบุถึงชื่อเมืองชุมพรย้อยหลังไปถึงสมัยอยุธยาตอนต้นว่า เมืองปะทิว เมืองชุมพร เป็นหัวเมืองภาคใต้ที่ราชสำนักอยุธยากวาดต้อนชาวลาวจากเมืองแถง และเมืองพงสาลีมาอยู่ ในสมัยพระเจ้าบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ.๑๙๙๗ มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองครั้งใหญ่ และได้กำหนดให้เมืองชุมพรเป็นเมืองตรี เจ้าเมืองมีบรรดาศักดิ์เป็นพระ ดังปรากฏในหนังสือกฎหมายตราสามดวง เล่ม ๑ ว่า “…ออกญาเคางะทราธิบดี ศรีสรัตวลุมหนักพระชุมพร เมืองตรีนา ๕,๐๐๐…” ต่อมาภายหลังจึงได้เลื่อนยศเจ้าเมืองขึ้นเป็นพระยา และเปลี่ยนราชทินนามใหม่เป็น “ พระยาเพชรกำแหงสงคราม ” ถือศักดินาเท่าเดิม ชื่อเจ้าเมืองชุมพรที่ปรากฏนี้ เสฐียรโกเศศได้ให้ความเห็นไว้ว่า คำว่า เคางะ และคำว่า ลุมหนัก อาจไม่ใช่คำในภาษาไทย แต่อาจเป็นคำในภาษาจาม ความเห็นนี้ทำให้อาจสันนิษฐานได้ว่าพวกจามอาจมีอิทธิพลอยู่ในดินแดนทางตอนเหนือของแหลมมลายู และเมื่อไทยเข้ามาเป็นใหญ่แล้วอาจรับเอาชื่อของชนพื้นเมืองมาตั้งชื่อเจ้าเมืองชุมพรตั้งแต่ตอนต้นของอยุธยาก็เป็นได้
เมืองชุมพรเป็นเมืองตรี มีเมืองจัตวาเป็นเมืองขึ้น ๘ เมือง คือ
- เมืองปทิว (ปะทิว)
- เมืองท่าแซะ
- เมืองตะโก
- เมืองหลังสวน
- เมืองตระ (กระ)
- เมืองระนอง
- เมืองมะลิวัน
- เมืองกำเนิดนพคุณ (บางสะพาน)
ในแผ่นดินของพระเพทราชา ปี พ.ศ. ๒๒๒๙ เจ้าพระยานครศรีธรรมราชเป็นกฎบแข็งเมือง จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุรสงครามเป็นแม่ทัพบก พระยาราชวังสันเป็นแม่ทัพเรือ คุมกองทัพไปปราบปรามเมืองนครศรีธรรมราช กองทัพบกได้ยาตราผ่านชุมพร และเกณฑ์เอาผู้รั้งกรมการเมืองชุมพร เมืองไชยา ถือพลหัวเมืองทั้งปวงเข้ามาบรรจบทัพบกไปราชการสงครามด้วย
ในแผ่นดินพระบรมราชาที่ ๓ (พระที่นั่งสุริยาอมรินทร์/พระเจ้าเอกทัศน์) พระเจ้าอังวะ ได้ส่งกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาโดยแบ่งเป็น ๒ ทัพ คือ ทัพเหนือและทัพใต้ ทัพทางใต้ได้เข้าตีเมืองทวาย มะริด และตะนาวศรี หุยตองจาเจ้าเมืองทวายสู้ไม่ได้จึงหนีมาอาศัยอยู่ในเมืองชุมพร ทัพพม่ายกติดตามมา เมื่อตีได้แล้ว จึงเผาเมืองชุมพรแล้วยกไปตีเมืองปะทิว เมืองกุย และเมืองปราณ แตกทั้งสามเมือง ทัพพม่าจึงกลับเข้าไปเมืองทวาย
ใน พ.ศ.๒๓๑๐ เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า นายสิทธิในขณะนั้นเป็นพระปลัดว่าการเมืองนครศรีธรรมราช ได้ตั้งตนขึ้นเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เรียกว่า เจ้านคร และได้แผ่อาณาเขตเข้ามาถึงเมืองชุมพรด้วย <p> </p>พรุ่งนี้มาติดตามกันต่อนะค่ะว่า เรื่องราวของจังหวัดชุมพรสมัยธนบุรีจะเป็นอย่างไร <p> </p><p> </p>