นี้แหละประเทศไทย
จากการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยมาอย่างละเอียด ทำให้เราทราบว่าคนไทยเราอยู่ได้เพราะความอิจฉากัน เราอยู่ได้เพราะความขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะยุคไหนมา ตั้งแต่สุโขทัย ลพบุรี อยุทธยา ธนบุรี จนมาถึงกรุงเทพฯ เราไม่เคยว่างเว้นจากการทะเลาะกันเลย ยุคเมืองไทยของเราสงบกันหน่อยก็ยุคสุโขทัย เพราะเราปกครองกันแบบพ่อปกครองลูก บวกกับเราเอาศาสนาพุทธเป็นกฏหมาย จึงทำให้เราอยู่กันอย่างสงบขึ้น ทำไมเราจึงสงบแต่ก่อนนั้นเราสงบหรือไม่
ที่จริงเราไม่เคยสงบกันมาเลย เราอิจฉาตาร้อนกันมาตลอด คนไทยเราไม่ใช่คนรักสงบ ไม่ใช่คนที่เป็นสุภาพบุรุษ นิสัยคนไทยจริงๆ ก็คือ นิสัยขี้ฉ้อ ตอแหล เอาเปรียบ ขี้อิจฉา นี้เป็นพื้นฐานนิสัยของคนไทย มันก็ตรงกับคำว่า ทำอะไรตามใจเป็นไทยแท้ นี่แน่นอนเลย เพราะฉะนั้นบรรพบุรุษเราจึงหาวิธีแก้ปัญหานี้ สุดท้ายก็มาลงตัวที่เราต้องแก้ด้วยคำสอนของพระพุทธศาสนา
ยุคใดสมัยใดที่คำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่มีบทบาท ทางสังคมประเทศของเราก็จะมีคนทะเลาะกัน มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันติดอยู่ในสันดานของคนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าเจ้า หรือโจร ไม่ว่าไพร่หรือไม่ไพร่ จึงไม่ต้องแปลกใจที่เราทะเลาะกันได้ทุกวัน เพราะนี้คือนิสัยที่แท้จริงของเรา จะเอากฏหมายใดมาแก้ก็ไม่ได้ผลหรอก ถ้าไม่นำคำสอนทางพระพุทธศาสนามาแก้
หลายคนบอกว่าต้องปฏิรูปประเทศไทย ถามว่าเอาอะไรมาปฏิรูป แล้วคนปฏิรูปนะเข้าใจหรือยังว่าเรานะผิดกันตรงไหน เราผิดกันเพราะอะไร ทำไปแล้วจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ไอ้การปฏิรูปนี้ ตอบได้ไม่ต้องคิดว่าในยุคนี้ทำไม่สำเร็จล้านเปอร์เซ็น ถึงจะมีการปฏิรูปออกมาไม่นานก็ทะเลาะกันอีก เพราะเรามีความขัดแย้งกันอยู่แล้ว
วิธีที่จะทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือ การเปลี่ยนระบบการปกครอง ไม่เป็นคอมมิวนิสว์ ก็ไปเป็นระบบสมบูรณ์ญายาสิทธิราช เหมือนเดิม คือเราต้องหาหัวหน้าของเราเสียก่อน เดียวนี้เรากำลังไม่ยอมรับหัวหน้า แต่เมื่อใดเรายอมรับหัวหน้ากันแล้ว เราก็จะปกครองกันได้
หรือ ถ้าจะปกครองในระบอบประชาธิปไตย เหมือนในขณะนี้ เราต้องแก้ไขหลายอย่าง เช่นแก้ไข ระบบทหาร แก้ไขระบบศาล แก้ไขระบบการเมือง เราอย่าไปแก้ไขเฉพาะตำรวจเท่านั้น เพราะตำรวจไม่ได้เป็นหัวใจในการปกครอง หัวใจการปกครองที่สำคัญคือทหาร และศาล ถ้าทั้งสองเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำโดยฝ่ายการเมือง ประเทศของเราก็จะไปได้ ถ้าทั้งสองหน่วยงานยังคอยรับใช้คนเพียงไม่กี่คนต่อให้ใหญ่แค่ไหนก็ปฏิรูปประเทศไทยไม่สำเร็จ อย่าลืมว่าคนไทย ไม่ใช่คนที่รักสงบ
ความเห็น (16)
- สวัสดีค่ะ
- บุษราขอจองเป็นคนแรกนะค่ะเพื่อน เงียบหายไปเลยช่วงนี้ สบายดีนะค่ะ
- บุษราได้นำภาพสาว ๆ สวย ๆ มาฝากคุณหม่อมด้วยค่ะ
ถูกใจมั๊ย....
อ่านแล้วไม่อยากแสดงความเห็นใดๆครับ
สวัสดีเพื่อนเลิฟ
ขอบคุณภาพสวยๆที่นำมาฝาก ถูกใจแต่ไม่เท่าเพื่อนเลย
สวัสดีเพื่อนเลิฟ
ขอบคุณภาพสวยๆที่นำมาฝาก ถูกใจแต่ไม่เท่าเพื่อนเลย
สวัสดีคุณประดิษ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและมาให้กำลังใจ ที่จริงก็ไม่อยากให้คนไทยเราทะเลาะกันหรอก แต่นิสัยของผู้นำเรามันเป็นอย่างนั้น ผู้ตามมันก็พลอยเป็นไปด้วย
- สวัสดีค่ะ
- ตอนนี้ที่พะโต๊ะฝนตกมา 2 วัน กับอีก 2 คืน แล้ว อากาศกำลังสบาย อยากนอนต่ออีกจังเลย..... แล้วแถวบ้านคุณหม่อมฝนตกมาบ้างหรือยังค่ะ
- อยากให้คนไทยรักกันค่ะ
สวัสดีบุษราเพื่อนเลิฟ ที่บ้านฝนไม่ค่อยตกแห้งแล้งแห้งแล้ง หาน้ำกินแทบจะไม่มี เคยได้ยินไหมตำน้ำกินนะ ใครมีเยอะก็ผูกฝนมาปล่อยให้ตกทางนี้หน่อย ร้อนจะตายอยู่แล้ว ร้อนจนหัวระเบิด แย้ว
ร้อนจริงนะจ๊ะ ไม่มีแป้งตรางู ...เยเย้เย
- สวัสดีค่ะ
- ตอนนี้ที่ชุมพรฝนตกแทบทุกวันค่ะ เพราะย่างเข้าฤดูฝนแล้ว ที่บ้านคุณหม่อมยังไม่ตกอีกหรือค่ะ....
- บุษรานำภาพนี้มาฝากกันเผื่อจะคลายความร้อนไปได้บ้าง
สวัสดีบุษราเพื่อนเลิฟ บ้านนายฝนตก เราเป็นห่วงเราเลยฝากร่มกับความคิดถึงมาฝาก กับหัวใจน้อยด้วย สายฝน สายแดด สายลม และสายร่ม กันแดด กันฝน กันลม กางร่ม รักนะ คิดถึง ตาคม นำร่ม มาให้ จะได้ไม่เปียกฝน
- สวัสดีค่ะ
- แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึง สบายดีนะคะ
- วันนี้บุษราได้นำภาพดอกไม้สวย ๆ มาฝากกันค่ะ
- ขอบคุณค่ะ
สวัสดีบุษราเพื่อนเลิฟ
ดีใจจังได้ดอกไม้สวยๆ เราก็มีของมาฝากเหมือนกัลย์
นกจ๋าได้ยินไหมว่าเสียงใคร มันเหมือนเสียงคนรู้ใจ บอกไว้ว่ายังคิดถึง
สวัสดีบุษราเพื่อนเลิฟ
วันนี้มีเรื่องอีกแล้ว บุษรา ไหนไหน เปล่ามีเรื่องเล่าให้ฟัง เรื่องมีชีขี้อาย วันหนึ่งโรงพยาบาลออกเคลื่อนที่ตรวจโรคต่างๆ ตรวจอุจจาระหาพยาธิใบไม้ตับบ้าง ตรวจปัสสาวะหาโรคไตบ้าง แม่ชีที่วัด(ยังเป็นนางสาวอยู่)ก็อยากตรวจปัสสาวะเพราะตัวเองเจ็บหลังมาหลายวัน ก็ใช้ให้เด็กหญิงหน่อย ไปเอาตลับสำหรับใส่ปัสสาวะมาให้เขียนชื่อติดไว้ เพราะความอายจึงไม่ไปส่งเอง แล้วให้เด็กเอาไปให้คุณหมอไปตรวจให้ ระหว่างไปส่งกล่องตรวจเด็กหญิงก็แวะที่บ้าน ไปกินข้าว พอกินข้าวเสร็จคุณแม่ที่กำลังทองได้สองเดือนก็บอกเด็กหญิงหน่อยว่า ลูกแม่ฝากกล่องปัสสาวะไปให้คุณหมอตรวจด้วยแม่เดินไม่ไหว เวียนหัว ลูกสาวก็เอาไป ระหว่างทางเกิดทำกล่องปัสสาวะแม่ชีหลุดมือ ปัสสาวะหกหมด จะกลับไปขอกับแม่ชีก็ไม่กล้า ก็เลยแบ่งของคุณแม่ใส่ให้ครึ่งหนึ่ง แล้วเอาไปให้หมอตรวจ แล้วคุณหมอก็เอาไปตรวจแล้วเขียนผลการตรวจฝากเด็กหญิงหน่อยไป ฝากบอกคุณแม่บุษราด้วยดีใจที่ท่านตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว และฝากแสดงความยินดีกับมีชีนกด้วยที่ท้องได้สองเดือนเช่นกัน แล้วใส่ซองให้เด็กเอาไปส่ง เด็กไปส่งให้คุณแม่คุณแม่เปิดอ่านก็ดีใจ บอกลูกว่าเธอจะได้น้องแล้ว แล้วเด็กหญิงหน่อยก็วิ่งเอาซองของแม่ชีไปส่งที่วัด พร้อมกับบอกแม่ชีว่าจะได้น้องแล้วดีใจจัง แล้วแม่ชีก็เปิดซองของตนออกอ่าน ถึงกับหน้าซีด แล้วอุทานเบา ตายละ แค่เทียนก็ท้องได้ อนุภาพร้ายเหลือจริงๆๆๆๆๆๆๆ
สวัสดีบุษราเพื่อนเลิฟ
ดีใจจังได้ดอกไม้สวยๆ เราก็มีของมาฝากเหมือนกัลย์
นกจ๋าได้ยินไหมว่าเสียงใคร มันเหมือนเสียงคนรู้ใจ บอกไว้ว่ายังคิดถึง
สังคมแบบไทย
...ปากว่าตาขยิบ มือถือสากปากถือศีล
...ไม่ค่อยยอมรับความจริง
พูดความจริงก็ว่าก้าวร้าว...ไม่พูดก็โดนข่มเหงต่อไป...
เจ้านาย มักจะ ไม่ชอบลูกน้องคนที่เก่งกว่า
ยึดถืออำนาจ...เป็นใหญ่...ความถูกต้องมาทีหลัง
ต้องมีพวกพ้อง แม้พวกพ้องผิดถ้ามีอำนาจไม่เป็นไร...คบกันต่อได้
โอกาสทางการศึกษามีน้อยมาก...
ปฏิรูปการศึกษาก็ได้ผลแค่โรงเรียนใหญ่ๆ ดังๆ
โรงเรียนเล็กๆ บ้านนอก กลับล้าหลังยิ่งขึ้น...
สื่อต่างๆ ไม่ได้รับการดูแล ควบคุมการนำเสนอ ให้ดีเท่าที่ควร
....ตอนนี้สงสารเด็กไทยรุ่นนี้ค่ะ
สวัสดี เจ้ปุ๊
ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ อยากบอกว่าทุกอย่างที่เจ้ว่ามา ช่ายยยยยยเลย อย่างนี้ใช่เลย อันที่จริง คนไทยเราก็แบ่งเป็น ๖ วรรณะยิ่งกว่าอินเดียนะ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ สูทร และ จันทาร และใครไม่เข้ากูไม่ใช่วรรณะพวกกู