บันทึกของวิภาดา


มาทานอาหารเพื่อสุขภาพกันเถอะ

                            มาทานอาหารเพื่อสุขภาพกันเถอะ

                ด้วยสภาพสังคมที่แข่งขันสูง  ฉันต้องทำงานกันหามรุ่งหามค่ำเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน และเป็นหลักประกันความมั่นคงของชีวิต ทำให้มักละเลยการดูแลสุขภาพ  ฉันโหมงานหนักจนลืมรับประทานอาหาร หรือรับประทานแบบเสียมิได้ สักแต่ว่ากินโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับเลย  ฉันอยากแนะนำให้ท่านมาสนใจในอาหารที่มีสรรพคุณบำรุงสุขภาพและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายเพื่อให้มีพลังในการทำงาน อย่างเต็มที่
ถ้าอยากหลับสนิท 
                 ควรงดดื่มกาแฟ ชา น้ำอัดลม และช็อกโกแลตร้อนระหว่างวันหรือช่วงบ่าย เพราะในเครื่องดื่มเหล่านั้นมีสารคาเฟอีนกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวและนอนไม่หลับ เปลี่ยนมารับประทานกล้วย มันฝรั่งต้ม หรือนมสดอุ่นๆ ในช่วงบ่ายหรือเย็น จะช่วยให้หลับง่ายและสบายยิ่งขึ้น
เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า
              อ่อนเพลีย อาการเหนื่อยมีสาเหตุจากการขาดธาตุเหล็ก ควรบริโภคอาหารประเภท

คาร์โบไฮเดรทเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท พาสต้า ถั่ว ผักใบเขียว ผลไม้จำพวกส้ม แตงโม เบอร์รี่ อาหารเหล่านี้ยังช่วยลดความเครียดด้วย
เมื่อมีอาการท้องผูก 
            ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร และรับประทานอาหารที่มีเส้นใย (ไฟเบอร์) สูง เช่น ผักและผลไม้จำพวก ส้ม มะละกอ ลูกพรุน หรือ สาหร่าย เมล็ดแมงลัก และน้ำผึ้ง
เมื่อปวดศีรษะแบบไมเกรน 
                 ควรบริโภคเนื้อปลา ซึ่งอุดมด้วยกรมไขมันโอเมก้า-3 สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือปลาอินทรีย์ หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรน เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะไวน์แดง ผงชูรส ของดอง อาหารที่มีสารไทรามีน เช่น เนย นม ช็อกโกแลต กล้วยหอม ผงชูรส ผลไม้ตระกูลส้มและมะนาว กาแฟและชา 
เมื่อมีอาการแปรปรวนช่วงมีประจำเดือน 
                  ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้องเกร็งของมดลูกก่อนมีประจำเดือน อารมณ์แปรปรวนอย่างผิดปกติ (หงุดหงิด ขี้โมโห เครียด ซึมเศร้าหรือหลงลืม) ความผิดปกติทางร่างกาย (เจ็บทรวงอก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นสิว หรือท้องอืด) และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากความอยากอาหารหวานจัดและเค็มจัด (เค้ก ช็อกโกแลต พิซซ่า และถั่วอบเกลือ) แก้อาการเหล่านั้นได้ด้วยการบริโภคอาหารที่มีธาตุสังกะสี เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว ตับ นม อาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรม ข้าวกล้อง ผักใบเขียว ผลไม้อย่างแอปเปิ้ล สัปปะรด เพื่อช่วยลดอาการเศร้าและหดหู่ ส่วนผู้ที่มีอาการท้องอืด ควรบริโภคอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 6 เช่น พบมากในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ รำข้าว ข้าวกล้อง เมล็ดธัญพืช ถั่วชนิดต่างๆ นม ไข่แดง ผักใบเขียว กล้วย เป็นต้น รวมทั้งบริโภควิตามินเอ เช่น บรอคโคลี่ แครอท มะม่วงสุก มะละกอสุก เพื่อรักษาสภาพผิวให้ดูดียิ่งขึ้น

คำสำคัญ (Tags): #สกลนคร3
หมายเลขบันทึก: 367888เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2010 00:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท