การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดต้องอาศัย ประวัติการเจ็บหน้าอก ผลเลือดที่บ่งบอกว่ามีการทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ และการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจขึ้นกับกลไกการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจควรจะตรวจให้ครบทั้ง 12 leads ถึงแม้ว่าผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะปกติในการตรวจครั้งแรก เราก็ยังไม่สามารถบอกว่าไม่มีเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งอาจจะต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจซ้ำหรืออาจจะต้องทำการตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม การตรวจคลื่นไฟฟ้าหนึ่งโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ดังนี้
3 .การเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าแบบไม่เฉพาะ(non-diagnostic or normal ECG.)หรือคลื่นไฟฟ้าปกติ
การเปลี่ยนแปลงชนิด ST segment elevation
ผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันอย่างเฉียบพลัน และกล้ามเนื้อหัวใจตายตลอดความหนาของกล้ามเนื้อหัวใจ (tranmural mi)ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะมีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจส่วนที่เรียกว่า ST segmentมีการยกตัวสูงขึ้น 1 mm การเปลี่ยนแปลงนี้มักจะเกิดหลังจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
มีการลดของระดับ ST segment depression
หากกล้ามเนื้อหัวใจมีการขาดเลือดโดยที่กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนยังไม่ตายก ็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบนี้
การเกิดคลื่นไฟฟ้าชนิด Q weave
การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดหลังจากที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปแล้วหลายวัน เป็นการแสดงว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเป็นมานานแล้ว
การตรวจคลื่นไฟฟ้านอกจากจะบอกว่ากล้ามเนื้อใจขาดเลือดยังบอกว่าเป็นเฉียบพลันหรือเป็นมาหลายวัน นอกจากนี้คลื่นไฟฟ้าหัวใจยังสามารถบอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจส่วนไหนที่ขาดเลือด
การบอกตำแหน่งของหัวใจที่ขาดเลือด
หัวใจของคนปกติจะมีเส้นเลือดที่มาเลี้ยงได้แก่
ดังนั้นการจะบอกตำแหน่งของกล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือดเราได้จากการดูว่าการแปลงแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ผนังหัวใจที่ขาดเลือด |
ตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าST Segment Elevation |
เส้นเลือดหัวใจที่อุด |
Septal |
V1, V2 |
Left Anterior Descending (LAD) |
Anterior |
V3, V4 |
Left Anterior Descending (LAD) |
Anteroseptal |
V1, V2, V3, V4 |
Left Anterior Descending (LAD) |
Anterolateral |
V3, V4, V5, V6, I, aVL |
Left Anterior Descending (LAD), Circumflex (LCX), or Obtuse Marginal |
Extensive anterior (Sometimes called Anteroseptal with Lateral extension) |
V1,V2,V3, V4, V5, V6, I, aVL |
Left main coronary artery (LCA) |
Inferior |
II, III, aVF |
Right Coronary Artery (RCA) or Circumflex (LCX) |
Lateral |
I, aVL, V5, V6 |
Circumflex (LCX) or Obtuse Marginal |
Posterior (Usually associated with Inferior or Lateral but can be isolated) |
V7, V8, V9 |
Posterior Descending (PDA) (branch of the RCA or Circumflex (LCX)) |
Right ventricular (Usually associated with Inferior) |
II, III, aVF, V1, V4R |
Right Coronary Artery (RCA) |
การที่ต้องทราบตำแหน่งของกล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือดจะทำให้สามารถเลือกการรักษาที่ถูกต้อง และประเมินความรุนแรงของผู้ป่วยได้ ผู้ที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากเส้นเลือด Left main coronary artery (LCA) มักจะมีอาการที่รุนแรงกว่าเส้นเลือดอื่น
ไม่มีความเห็น